ฉบับที่ 09/2555
ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือนเมษายน 2555 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย โดยความต้องการบริโภคของประชาชนและการลงทุนภาคเอกชนยังขยายตัว ถึงแม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนที่จะเพิ่มขึ้นจากค่าจ้างแรงงานและการขาดแคลนแรงงานก็ตาม อย่างไรก็ดี รายได้เกษตรกรยังอยู่ในเกณฑ์ดีตามราคาสินค้าเกษตรสำคัญ สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงตามราคาอาหารเป็นสำคัญ และอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ
การบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชน ยังขยายตัวดี โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.5 และขยายตัวจากเดือนก่อน เป็นผลจากการบริโภคสินค้าอุปโภคบริโภคของประชาชนที่ยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และการบริโภคสินค้าคงทนประเภทรถยนต์ขยายตัวดีขึ้นในรถยนต์ทุกประเภท โดยเฉพาะรถยนต์นั่งส่วนบุคคลตามการส่งมอบรถยนต์ที่มีเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการขยายตัวของปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.6 โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของยอดการขออนุมัติส่งเสริมการลงทุนทั้งจำนวนรายและจำนวนเงินลงทุน พื้นที่ขอรับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาล การใช้ไฟฟ้าของภาคการค้าและอุตสาหกรรม ยอดการจดทะเบียนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่ขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี โดยจังหวัดที่มีเงินลงทุนของโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมากที่สุด ได้แก่จังหวัดนครราชสีมา สำหรับการจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่ในเดือนนี้ลดลง เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความกังวลในเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากค่าจ้างแรงงานและปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ส่วนจำนวนรายของการจดทะเบียนเลิกกิจการของธุรกิจของภาคในเดือนนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก และธุรกิจการก่อสร้าง
สำหรับดัชนีมูลค่าผลผลิตพืชสำคัญ หดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.5 แต่ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนทั้งด้านผลผลิตและราคา โดยดัชนีราคาพืชสำคัญ หดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.3 เป็นผลจากราคามันสำปะหลังลดลง โดยจีนซึ่งเป็นตลาดหลักยังคงชะลอการนำเข้า และมีคำสั่งซื้อเป็นช่วงสั้น ๆ ประกอบกับมีการนำเข้ามันเส้นจากเวียดนามซึ่งมีราคาถูกกว่าไทยแทน ขณะที่ราคายางพารามีราคาลดลงต่อเนื่องจากความต้องการที่ชะลอลงของตลาดต่างประเทศ ส่วนดัชนีผลผลิตพืชสำคัญ หดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.3 จากการลดลงของผลผลิตข้าวเป็นสำคัญ
การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.7 ตามการผลิตในอุตสาหกรรมน้ำตาลที่หดตัวเนื่องจากเป็นช่วงใกล้ปิดหีบ อย่างไรก็ตาม การผลิต ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่ม Hard Disk Drive (HDD) ยังคงขยายตัวตามคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 และร้อยละ 32.4 ตามลำดับ
ภาคการค้า ดัชนีการค้าเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.4 ชะลอลงจากเดือนก่อนตามการชะลอตัวของการค้ายานยนต์ที่เร่งตัวในเดือนก่อนหน้า และการค้าส่งที่หดตัวจากการค้าส่งในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตาม การค้าส่ง-ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคยังขยายตัวดี ตามกำลังซื้อของประชาชนที่เพิ่มขึ้น
- การใช้จ่ายของภาครัฐ ลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.5 ทั้งงบลงทุนและงบประจำ โดยงบลงทุนลดลงร้อยละ 28.2 เป็นผลจากการเหลื่อมการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนของสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และงบประจำลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.5 จากรายจ่ายในหมวดค่าตอบแทน
เงินฝากธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือนมีนาคม เงินฝากเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.4เร่งตัวจากเดือนก่อน จากเงินฝากทุกประเภท เป็นผลจากเงินฝากของส่วนราชการเป็นสำคัญ สำหรับสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19.0 ขยายตัวจากเดือนก่อน ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคลและภาคธุรกิจโดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อสหกรณ์ออมทรัพย์และสินเชื่อเพื่อการค้าปลีก
เงินฝากสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ณ สิ้นเดือนมีนาคม เงินฝากเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ16.7 และยังคงขยายตัวจากเดือนก่อนจากเงินฝากของส่วนราชการประเภทออมทรัพย์ที่นำมาฝากหลังจากได้รับการจัดสรรงบประมาณ สำหรับสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 28.0 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสินเชื่อในโครงการรับจำนำข้าวนาปรัง สำหรับอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 259.8
เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.03 ชะลอตัวจากเดือนก่อน ตามลดลงของราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะราคาอาหารสำเร็จรูป เนื้อสัตว์ ไข่ ผักสดและผลไม้ ส่วนราคาสินค้าในหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเร่งตัวขึ้นจากค่าไฟฟ้าในที่อยู่อาศัยเป็นสำคัญ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.34 สำหรับอัตราการว่างงานเดือนมีนาคม 2555 อยู่ที่ร้อยละ 1.0
ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจภาค
โทร: 0 4333 3000 ต่อ 3410
E-mail: [email protected]
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย