แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือนตุลาคม 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 30, 2012 16:00 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 25/2555

ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือนตุลาคม 2555 ยังขยายตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อน แต่ทรงตัวจากเดือนก่อน โดยการใช้จ่ายภาคเอกชนแผ่วลงเล็กน้อยตามรายได้ของภาคเกษตรที่ชะลอลงจากปริมาณผลผลิตข้าวที่ลดลงเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อโดยรวมยังได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายของภาครัฐในส่วนของงบประจำที่เพิ่มขึ้น และสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับกำลังซื้อจากประชาชนสปป. ลาว ที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในจังหวัดแนวชายแดนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาคการค้ายังขยายตัวดี โดยเฉพาะการค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและรถยนต์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้ความสนใจที่จะลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างโดยเฉพาะการก่อสร้างเพื่อการพาณิชย์ในจังหวัดใหญ่ในภาค สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.93 เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 2.60 ตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ ส่วนอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.5

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีดังนี้

การบริโภคภาคเอกชน วัดจากดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.1 แม้ชะลอลงจากเดือนก่อนบ้างตามรายได้จากภาคเกษตรกรรมที่ชะลอลง เนื่องจากผลผลิตข้าวลดลงในขณะที่ราคาพืชสำคัญปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อยจากราคาหัวมันสำปะหลังที่เพิ่มขึ้นจากการเร่งผลิตเพื่อสต็อกไว้เก็งกำไรในช่วงปลายปีของอุตสาหกรรมแป้งมัน ตามความต้องการของตลาดต่างประเทศที่ยังมีต่อเนื่องอย่างไรก็ตาม ปริมาณยอดจดทะเบียนรถยนต์กลับเร่งตัวขึ้นตามการส่งมอบรถยนต์ที่สูงขึ้น สอดคล้องกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและภาคการค้าที่เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อน ตามการค้าปลีกและการค้ายานยนต์ สะท้อนจากยอดขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคในห้างสรรพสินค้า สินค้าคงทนประเภทเครื่องครัว และอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ยังขยายตัวดี โดยกำลังซื้อส่วนหนึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายผ่านงบประมาณของภาครัฐ โดยเฉพาะในส่วนของงบประจำเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 70 กอปรกับสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลที่ยังขยายตัวดี ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความมั่นใจขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14.2 และเร่งตัวจากเดือนก่อน สะท้อนจากพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลขยายตัวร้อยละ 20.6 ตามการก่อสร้างเพื่อการพาณิชย์ โดยเฉพาะในจังหวัดมุกดาหาร อุดรธานี และพื้นที่นอกเขตเทศบาลในจังหวัดใหญ่ของภาค สอดคล้องกับยอดจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่ยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในหลายจังหวัด

สำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม ขยายตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 17.7 เป็นผลจากอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ อุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันเมื่อปีที่แล้วเนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตจากผลของอุทกภัย และอุตสาหกรรมผลิตแป้งมันสำปะหลังที่ขยายตัวตามความต้องการของตลาดต่างประเทศ ขณะที่อุตสาหกรรมน้ำตาลยังคงหดตัว เนื่องจากความต้องการน้ำตาลในตลาดโลกมีทิศทางชะลอตัวขณะที่ภาคบริการ ยังคงทรงตัว สะท้อนจากอัตราการเข้าพักแรมอยู่ที่ร้อยละ 44.8 ใกล้เคียงกับเดือนก่อนที่มีอัตราการเข้าพักแรมอยู่ที่ร้อยละ 45.5

ภาคการเงิน ณ สิ้นกันยายน ธนาคารพาณิชย์ มียอดเงินฝากคงค้าง 560.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 21.3 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นตามการแข่งขันในการระดมเงินฝากของธนาคารพาณิชย์เพื่อรองรับสินเชื่อที่ขยายตัวสูงขึ้น สำหรับสินเชื่อมียอดคงค้าง 610.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 20.3 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ด้านสถาบันการเงินเฉพาะกิจมีเงินฝากคงค้าง 293.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 16.8 ในขณะที่สินเชื่อมียอดคงค้าง 822.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 20.7 สำหรับสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ยังคงเป็นสินเชื่อเพื่อสังคมตามนโยบายของรัฐบาล รองลงมาเป็นสินเชื่อบุคคล สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย

เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.93 เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 2.60 ตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.80 สูงขึ้นจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 1.74 สำหรับอัตราการว่างงานเดือนกันยายน 2555 อยู่ที่ร้อยละ 0.5 ใกล้เคียงกับเดือนก่อนที่ร้อยละ 0.4

ธนาคารแห่งประเทศไทย

สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจภาค

โทร: 0 4333 3000 ต่อ 3410

E-mail: [email protected]

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ