แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนเมษายน 2556

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 31, 2013 13:29 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 24/2556

ภาวะเศรษฐกิจเดือนเมษายน 2556 ชะลอลงตามการใช้จ่ายภาคเอกชน ขณะที่การส่งออกโดยรวมยังฟื้นตัวช้าจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป สอดคล้องกับการผลิตของอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกและเมื่อประกอบกับปัจจัยชั่วคราวที่ผู้ผลิตในบางอุตสาหกรรมลดระดับการผลิตลงมากกว่าปกติตามนโยบายลดการใช้พลังงาน รวมทั้งประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิต การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมจึงหดตัวสำหรับภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวดีต่อเนื่อง

สำหรับด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวม อัตราเงินเฟ้อชะลอลง อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล ส่วนดุลเงินทุนเคลื่อนย้ายเกินดุลจากการกู้ยืมเงินระยะสั้นของสถาบันการเงินเพื่อบริหารสภาพคล่องของธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ และการเข้ามาลงทุนโดยตรงของนักลงทุนต่างประเทศ

การวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจตั้งแต่เดือนนี้จะใช้การเปรียบเทียบกับข้อมูลในเดือนเดียวกันปีก่อนเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของเดือนเมษายน 2555 เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากผลกระทบของอุทกภัยคลี่คลายลง รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2556 มีดังนี้

การใช้จ่ายภาคเอกชนชะลอลง โดยดัชนีการลงทุนภาคเอกชนหดตัวร้อยละ 1.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์หลังจากที่เร่งไปมากในปีก่อน ประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ผลิตเพื่อส่งออกบางส่วนชะลอการลงทุนออกไป ส่วนการลงทุนในหมวดก่อสร้างขยายตัวชะลอลง หลังจากที่ได้เร่งไปมากในช่วงก่อนหน้า สำหรับดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 1.7 ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน ตามการใช้จ่ายในหมวดยานยนต์ที่ชะลอลงส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานในปีก่อนปรับสูงขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์นั่งรายใหญ่กลับมาผลิตและส่งมอบได้เต็มที่หลังจากฟื้นตัวจากอุทกภัย อย่างไรก็ดี การขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชนยังมีแรงส่งจากปัจจัยสนับสนุนด้านรายได้และการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัว

การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวชะลอลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายได้เกษตรกรที่ลดลง โดยรายได้เกษตรกรหดตัวร้อยละ 7.7 จากระยะเดียวกันปีก่อนจากทั้งปริมาณและราคา โดยปริมาณหดตัวจากผลผลิตข้าวและมันสำปะหลังเนื่องจากปริมาณน้ำและสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย ส่วนราคาสินค้าเกษตรหดตัว ตามราคายางพาราที่คำสั่งซื้อชะลอลงเนื่องจากสต็อกยางพาราของจีนยังอยู่ในระดับสูง

การส่งออกสินค้ามีมูลค่า 17,251 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 3.7 จากระยะเดียวกันปีก่อนตามการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่สะท้อนการฟื้นตัวอย่างช้าๆ ของเศรษฐกิจโลก ขณะที่การส่งออกข้าวและยางพาราหดตัวจากคำสั่งซื้อที่ชะลอลง ขณะที่การส่งออกกุ้งแช่แข็งหดตัวจากการขาดแคลนกุ้งเนื่องจากประสบปัญหาโรคระบาด ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวดีต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวต่างประเทศมีจำนวน 2.1 ล้านคน ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 21.6 ตามการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวเกือบทุกภูมิภาคโดยเฉพาะจีนและรัสเซีย

การลดระดับการผลิตในบางอุตสาหกรรมเพื่อลดการใช้พลังงานชั่วคราวในเดือนนี้ ประกอบกับปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในบางอุตสาหกรรมและการส่งออกที่ฟื้นตัวช้า ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ 3.8 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการหดตัวของการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ และอาหารแปรรูปแช่แข็ง ขณะที่การผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อน

การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนที่ยังขยายตัว ประกอบกับการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางที่เพิ่มขึ้นจากการนำเข้าเชื้อเพลิงเพื่อรองรับการผลิตที่จะเร่งขึ้นหลังโรงกลั่นชะลอการผลิตในช่วงที่ขาดแคลนก๊าซธรรมชาติจากเมียนมาร์ และการนำเข้าสินค้าทุนที่ขยายตัวตามการนำเข้าเครื่องบินของรัฐวิสาหกิจ ส่งผลให้การนำเข้าสินค้ามีมูลค่า 18,871 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 8.5 จากระยะเดียวกันปีก่อน

ภาครัฐ รายจ่ายของรัฐบาลเพิ่มขึ้นจากเงินโอนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกองทุนหลักประกันสุขภาพ และรายจ่ายลงทุนเพื่องานด้านชลประทานและการคมนาคม ขณะที่รายได้จัดเก็บขยายตัวจากการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการบริโภคในประเทศ และภาษีเงินได้นิติบุคคลที่จัดเก็บจากการนำส่งกำไรกลับประเทศของบริษัทญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี รายจ่ายที่มากกว่ารายได้ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสด 47.1 พันล้านบาท

สำหรับด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวม อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 2.42 จากการชะลอลงของราคาพลังงานเป็นสำคัญ ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล จากทั้งดุลการค้าและดุลบริการ รายได้ และเงินโอนโดยเฉพาะจากการส่งกลับกำไรและเงินปันผล ส่วนดุลเงินทุนเคลื่อนย้ายเกินดุล 4,166 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการกู้ยืมเงินระยะสั้นของสถาบันการเงินเพื่อบริหารสภาพคล่องของธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ และการเข้ามาลงทุนโดยตรงของนักลงทุนต่างประเทศ

ธนาคารแห่งประเทศไทย

ข้อมูลเพิ่มเติม: ทีมเศรษฐกิจมหภาค

โทร. 0 2283 5647, 0 2283 5648

e-mail: MPGMacroEconomics@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ