แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนมกราคม ปี 2560

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 1, 2017 11:30 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 8/2560

เรื่อง แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนมกราคม ปี 2560

เศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคม 2560 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนโดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวดี และมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวต่อเนื่องสอดคล้องกับทิศทางการส่งออกของภูมิภาค ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม การบริโภคภาคเอกชนชะลอลงหลังมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐในช่วงปลายปี2559 สิ้นสุดลง ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนตามราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศและราคาอาหารสด สำหรับอัตราการว่างงานที่ปรับฤดูกาลทรงตัวจากเดือนก่อน ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูงจากดุลบริการเนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ประกอบกับดุลการค้ายังเกินดุลต่อเนื่อง

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจไทยมีดังนี้

การใช้จ่ายภาครัฐยังขยายตัวดีและยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ โดยรายจ่ายประจำขยายตัวดีตามค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาที่ส่วนหนึ่งเลื่อนการเบิกจ่ายมาจากเดือนก่อน ขณะที่รายจ่ายลงทุนขยายตัวชะลอลงบ้างหลังเร่งไปมากในเดือนก่อนโดยในเดือนนี้ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนด้านคมนาคม รวมทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณปี พ.ศ. 2559 เพิ่มเติมด้านการพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ตของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ด้านรายได้จัดเก็บของรัฐบาลกลับมาขยายตัวจากรายได้ที่ไม่ใช่ภาษีเป็นสำคัญ ส่วนหนึ่งจากการเลื่อนนำส่งรายได้ค่าภาคหลวงปิโตรเลียมจากเดือนกุมภาพันธ์มาเป็นเดือนมกราคม สำหรับรายได้จากภาษีขยายตัวต่อเนื่องสะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว

มูลค่าการส่งออกสินค้าฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยขยายตัวร้อยละ 8.5 จากระยะเดียวกันปีก่อน จาก 1) สินค้า ที่อุปสงค์ต่างประเทศดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สอดคล้องกับทิศทางการส่งออกในภูมิภาค 2) สินค้าที่ราคาส่งออกเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันดิบขยายตัวต่อเนื่องจากผลของฐานที่ต่ำและทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น รวมทั้งปริมาณการส่งออกไปจีนปรับเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มสินค้าปิโตรเคมี3) หมวดที่ได้รับผลดีจากการย้ายฐานการผลิตของผู้ผลิตต่างชาติมาไทย อาทิ ยางล้อรถยนต์ และแผงกำเนิดไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ขยายตัวต่อเนื่องจากการที่ผู้ผลิตจีนย้ายฐานการผลิตมาไทยเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการตอบโต้การ ทุ่มตลาด (Anti-dumping) จากสหรัฐฯ และสมาร์ทโฟนที่การส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ 4) การส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางไปจีนขยายตัวต่อเนื่องจากทั้งปริมาณที่ผู้นำเข้าจีนเร่งนำเข้าเพื่อสะสมสินค้าคงคลังที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และราคาที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ รวมทั้งได้รับผลกระทบจากอุปทานที่ลดลงจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ สอดคล้องกับ

การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่การผลิตเพื่อการส่งออกในหลายสินค้าขยายตัวต่อเนื่องภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนขึ้นโดยขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 6.5 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายในช่วงก่อนหน้าเริ่มเดินทางกลับเข้ามาเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งคาดว่าได้รับผลดีจากมาตรการยกเว้นและลดค่าธรรมเนียมวีซ่ารวมทั้งในเดือนนี้ตรงกับช่วงเทศกาลตรุษจีน (ในปีก่อนตรงกับเดือนกุมภาพันธ์) เมื่อขจัดผลของฤดูกาลแล้วจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9 จากเดือนก่อนจากนักท่องเที่ยวในเกือบทุกกลุ่มสัญชาติ

การลงทุนภาคเอกชนทรงตัวจากเดือนก่อน ทั้งการลงทุนในภาคการก่อสร้างและการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ โดยยังกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทน และภาคบริการโดยเฉพาะธุรกิจบริการและขนส่ง สอดคล้องกับสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่ขยายตัวในธุรกิจดังกล่าว

การบริโภคภาคเอกชนชะลอลงหลังจากเร่งขึ้นค่อนข้างมากในเดือนก่อนหน้าที่ได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคและการท่องเที่ยวของภาครัฐสะท้อนให้เห็นว่าการบริโภคที่เร่งขึ้นในช่วงดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเลื่อนการบริโภคของประชาชนโดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลกลับมาขยายตัวได้เนื่องจากได้รับผลดีจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ด้านปัจจัยพื้นฐานที่สนับสนุนกำลังซื้อของครัวเรือนโดยรวมอยู่ในทิศทางการฟื้นตัวแต่ยังไม่เข้มแข็งนัก โดยรายได้เกษตรกรขยายตัวแต่ยังคงกระจุกตัวอยู่ในบางสินค้าและบางพื้นที่ อาทิ เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้รับผลดีจากราคาและอุปสงค์จากจีนที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีอุปทานเพียงพอรองรับความต้องการ ขณะที่รายได้เฉลี่ยที่แท้จริงของครัวเรือนนอกภาคเกษตรกรรมยังไม่ฟื้นตัว

สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้าขยายตัวร้อยละ 11.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยในเดือนนี้มีการนำเข้าทองคำมูลค่า 1,203 ล้านดอลลาร์ สรอ. หากไม่รวมทองคำมูลค่าการนำเข้าขยายตัวลดลงเหลือร้อยละ 5.4 โดยหมวดวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางขยายตัวจากสินค้าเชื้อเพลิง เคมีภัณฑ์ และโลหะที่ราคาในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น และสินค้าชิ้นส่วนแผงวงจรรวมขยายตัวตามการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 1.55 สูงขึ้นจากร้อยละ 1.13 ในเดือนก่อนตามราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศและราคาอาหารสดที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวตามต้นทุนโดยรวมและแรงกดดันจากอุปสงค์ในประเทศที่ยังต่า อัตราการว่างงานที่ปรับฤดูกาลทรงตัวจากเดือนก่อน ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูงจากดุลบริการฯ เป็นสำคัญ จากรายรับภาคการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ประกอบกับเดือนนี้ตรงกับเทศกาลตรุษจีน สำหรับดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายเกินดุลสุทธิจาก 1) การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) 2) การได้รับชำระคืนเงินกู้ในเครือของภาคธุรกิจไทย และ 3) การเข้าซื้อหลักทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้สอดคล้องกับทิศทางการลงทุนในภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมีความกังวลต่อนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสถานการณ์การเมืองในกลุ่มยูโรที่ยังไม่มีความชัดเจน

ธนาคารแห่งประเทศไทย

ข้อมูลเพิ่มเติม: ทีมเศรษฐกิจมหภาค

โทร. 0 2283 5648, 0 2283 5639

e-mail: MPGMacroEconomics@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ