ทิศทางเศรษฐกิจยังเป็นไปด้วยดี แต่มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเมือง ต้นทุน และราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจไตรมาสที่ 1/2554 (มกราคม - มีนาคม 2554) จากการสอบถามนักธุรกิจใน 76 จังหวัด จำนวน 1,882 ราย คาดว่าดีขึ้นร้อยละ 48.2 ไม่เปลี่ยนแปลงร้อยละ 39.5 และไม่ดี ร้อยละ 12.3 คิดเป็นค่าดัชนีเท่ากับ 67.9 ซึ่งมีค่าสูงกว่าเส้น 50 นักธุรกิจส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในไตรมาสหน้ายังมีทิศทางที่ดีแต่มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเมืองต้นทุนสินค้า ค่าครองชีพ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และ เศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน
1. ภาวะธุรกิจทั่วไป
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจใน 3 เดือนข้างหน้าจะมีทิศทางที่ดี แต่มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมือง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ค่าเงินบาทที่แข็งตัว อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังน้ำท่วม ประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน
2. ภาวะธุรกิจในสาขาต่าง ๆ
- เกษตรกรรม ราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวสูงขึ้น ทั้งยางพารา ปาล์มน้ำมัน มะพร้าว ฯลฯ
- อุตสาหกรรม ค่าเงินบาทแข็งเกินไป ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก
- พาณิชยกรรม ธุรกิจมีการแข่งขันสูง จากโมเดิร์นเทรดที่กระจายตัวสู่ภูมิภาคตามภาวะการค้าเสรี
- ก่อสร้าง เกิดภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ จะมีการซ่อมแซมบ้านเรือนเพิ่มขึ้นในอนาคต
- การเงิน ธุรกิจการเงิน ประกันชีวิตและประกันภัยทิศทางดี ขณะที่สถาบันการเงินมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ
- บริการ การท่องเที่ยวถูกกระทบจากการเมืองที่ไม่สงบ ภัยธรรมชาติทั้งน้ำท่วมและดินถล่ม
3. ผลประกอบการของธุรกิจ
กำไรจากการประกอบกิจการลดลง ผู้ประกอบการไม่สามารถผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นได้ทั้งหมดเพราะตลาดมีการแข่งขันสูง
4. ต้นทุนต่อหน่วยสินค้าและบริการ
ต้นทุนสูงขึ้นจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำ ราคาวัตถุดิบ และพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น
5. การจ้างงานในธุรกิจ
ขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรงในอุตสาหกรรมการผลิตหลายประเภท เช่น อาหาร สิ่งทอ-เสื้อผ้า ตลอดจนงานการก่อสร้างที่ต้อง ใช้กำลังแรงงานและความอดทนที่ค่อนข้างสูง
6. การขยายกิจการของธุรกิจ
การขยายกิจการมีในบางสาขาการผลิต ซึ่งส่วนใหญ่จะประคองตัวเองไม่กล้าที่จะเสี่ยงลงทุนในด้านต่าง ๆ
1. สร้างความเป็นธรรมในสังคม เศรษฐกิจ การเมือง
2. ดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
3. ให้ความสำคัญในด้านการเกษตร แก้ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดซ้ำซากทุกปีให้เป็นระบบ
4. งบประมาณที่รัฐจัดสรรควรใช้ในโครงการที่มีประโยชน์สามารถต่อยอดได้ การดำเนินงานต้องโปร่งใส ซื่อสัตย์
5. ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน นักท่องเที่ยว ความไม่สงบและความรุนแรง
6. ผลิตแรงงานที่มีคุณภาพสู่ตลาดแรงงาน และมีการจดทะเบียนแรงงานต่างชาติรอบใหม่โดยเร่งด่วน
7. ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
8. ลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักร เพื่อผลิตสินค้าที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
9. ควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่การครองชีพ
10. ต้องควบคุมราคาเชื้อเพลิง และเพิ่มงบการก่อสร้างพื้นฐานให้มากขึ้น
11. เร่งสร้างรถไฟให้ติดต่อกับต่างประเทศเพราะจะช่วยการส่งออกและส่งเสริมการท่องเที่ยวมากขึ้น
12. ควรใช้นโยบายลดอัตราภาษี และการจัดเก็บภาษีที่ซ้ำซ้อน เช่น ภาษีโรงเรือน ภาษีสรรพสามิต ฯลฯ
13. เปิดตลาดการค้าใหม่ ๆ และข้อมูลสนับสนุนเกี่ยวกับตลาดต่างประเทศ และการอบรมให้ความรู้ด้านการตลาด
ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร.0-2507-5811-3 โทรสาร.0-2507-5806 www.price.moc.go.th