นักธุรกิจยังคาดว่าเศรษฐกิจยังมีทิศทางที่ดี แต่ยังวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมัน ต้นทุนสินค้าและภาวะการเมือง
ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจไตรมาสที่ 2/2554 (เมษายน — มิถนายน 2554) จากการสอบถามนักธุรกิจ ใน 76 จังหวัด จำนวน 1,859 ราย คาดว่าดีขึ้นร้อยละ 34.9 ไม่เปลี่ยนแปลงร้อยละ 44.7 และไม่ดี ร้อยละ 20.4 คิดเป็นค่าดัชนีเท่ากับ 57.2 ซึ่งมีค่าสูงกว่าเส้น 50 นักธุรกิจส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในไตรมาสหน้ายังมีทิศทางที่ดีแต่ชะลอตัวลงจากความวิตกกังวลในเรื่องราคาน้ำมันและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นกระทบต่อต้นทุนของสินค้าและบริการ ประกอบกับภาวะการเมืองที่ยังไม่นิ่งและภัยธรรมชาติทั้งภายในและภายนอกประเทศ
1. ภาวะธุรกิจทั่วไป
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัจจัยที่จะกระทบต่อต้นทุนการผลิต ทั้งด้านราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นราคาสินค้าวัตถุดิบ ค่าแรง รวมถึงปัญหาการเมืองภายในประเทศที่ยังไม่มีเสถียรภาพ ด้านการลงทุนจากทั้งภายในและภายนอกประเทศยังอยู่ในภาวะชะลอตัว
2. ภาวะธุรกิจในสาขาต่าง ๆ
เกษตรกรรม ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันและมะพร้าว แต่บางส่วนยังได้รับความเสียหายจากสภาพอากาศที่แปรปรวนอุตสาหกรรม ดูแลราคาสินค้าวัตถุดิบ แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน สนับสนุนอุตสาหกรรมต้นน้ำพื้นฐานพาณิชยกรรม ราคาน้ำมันกระทบต่อการบริโภคของประชาชน ปัจจัยต่างๆ ไม่เอื้อต่อการขยายธุรกิจก่อสร้าง แนวโน้มค่าแรงงาน ค่าน้ำมัน และราคาวัสดุก่อสร้าง กระทบต่อต้นทุนธุรกิจการเงิน การลงทุนได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายในประเทศคือปัญหาด้านการเมืองและการลงทุนจากต่างประเทศที่อยู่ในช่วงชะลอตัวบริการ ธุรกิจได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองและภัยธรรมชาติเป็นหลัก
3. ผลประกอบการของธุรกิจ
ภาวะการแข่งขันสูง กำไรจากการประกอบกิจการลดลง เนื่องจากต้นทุนสูงและผู้บริโภคยังไม่มั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจ
4. ต้นทุนต่อหน่วยสินค้าและบริการ
ต้นทุนสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบ พลังงานและอัตราดอกเบี้ย รวมถึงราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
5. การจ้างงานในธุรกิจ
ขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรงในสายงานผลิต ระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เช่น สิ่งทอ อาหารแปรรูป ฯลฯ
6. การขยายกิจการของธุรกิจ
ปัจจัยทั้งภายในและภายนอกไม่สนับสนุนต่อการลงทุนขยายกิจการในช่วงนี้
1. ดูแลราคาสินค้าและน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างใกล้ชิด
2. ลดอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสมต่อการลงทุนและลดการจัดเก็บภาษีที่ซ้ำซ้อน
3. ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนให้มีเสถียรภาพและมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
4. ให้ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมต้นน้ำ พร้อมทั้งส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทั้งในด้านการผลิตและการตลาด
5. สร้างเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศและมีระบบตรวจสอบการทำงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดปัญหาคอรัปชั่น
6. ผลิตแรงงานที่ตรงต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งแก้ปัญหากฎหมายแรงงานต่างด้าว
7. เร่งสรุปผลกระทบการเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิในประเทศญี่ปุ่นที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจไทย
8. ควบคุมการขยายตัวของโมเดิร์นเทรดซึ่งกระทบต่อการค้าของท้องถิ่น
9. รณณรงค์และสนับสนุนให้ใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศ
10. ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อม
11. พัฒนาโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการแข่งขัน
12. ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการนำเข้าเครื่องจักรทดแทนแรงงานที่ประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานอยู่ในขณะนี้
ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร.0-2507-5811-3 โทรสาร.0-2507-5806 www.price.moc.go.th