ไตรมาส 2/2555 การส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้น
ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 202 ราย คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 2/2555 (เมษายน - มิถุนายน) การส่งออกและความสามารถในการแข่งขันมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยดัชนี มีค่า 61.0 และ 60.3 ตามลำดับ
ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออก
ไตรมาส %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี 2/2555 40.9 40.3 18.8 22.1 61.0 1/2555 48.0 33.8 18.2 29.8 64.9 4/2554 34.0 42.5 23.5 10.5 55.2 3/2554 41.8 41.8 16.4 25.4 62.7
ผู้ประกอบการส่งออก คาดว่าการส่งออกในไตรมาสที่ 2/2555 (เมษายน - มิถุนายน) จะดีขึ้น ร้อยละ 40.9 ไม่เปลี่ยน แปลง ร้อยละ 40.3 และลดลง ร้อยละ 18.8 ทำให้ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออก มีค่าเท่ากับ 61.0 แสดงว่าการส่งออกมีทิศทางที่ดีขึ้น
สินค้าที่คาดว่าจะมีการส่งออก เพิ่มขึ้นได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ข้าว ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์ สินค้าที่คาดว่าจะมีการส่งออก ลดลงได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ยาง
ไตรมาส %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี 2/2555 34.8 51.1 14.1 20.7 60.3 1/2555 37.5 48.0 14.5 23.0 61.5 4/2554 22.4 60.2 17.4 5.0 52.5 3/2554 37.2 53.0 9.8 27.4 63.7
ในไตรมาสที่ 2/2555 ผู้ประกอบการส่งออกคาดการณ์ว่าความสามารถในการแข่งขันจะดีขึ้น ร้อยละ 34.8 ไม่เปลี่ยนแปลง ร้อยละ 51.1 และลดลง ร้อยละ 14.1 เป็นผลให้ดัชนีคาดการณ์ความสามารถในการแข่งขัน มีค่า 60.3 แสดงว่าผู้ส่งออกเห็นว่าความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
สินค้าที่คาดว่าความสามารถในการแข่งขันจะสูงขึ้นได้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบเม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็กเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าว ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์ สินค้าที่คาดว่าความสามารถในการแข่งขัน ลดลงได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี มีนาคม 55 50.2 20.9 28.9 21.3 60.7 กุมภาพันธ์ 55 45.8 26.6 27.6 18.2 59.1 มกราคม 55 37.1 21.3 41.6 -4.5 47.8
ดัชนีมูลค่าส่งออกเดือนมีนาคม 2555 มีค่า 60.7 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออก ลดลงได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ข้าว ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งกระป๋องและแปรรูป
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี มีนาคม 55 49.0 26.0 25.0 24.0 62.0 กุมภาพันธ์ 55 39.1 31.2 29.7 9.4 54.7 มกราคม 55 36.6 23.8 39.6 -3.0 48.5
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่เดือนมีนาคม 2555 มีค่า 62.0 สินค้าที่มีมูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์ ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ลดลงได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ข้าว ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งกระป๋องและแปรรูป
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี มีนาคม 55 31.6 34.2 34.2 -2.6 48.7 กุมภาพันธ์ 55 29.8 41.9 28.3 1.5 50.8 มกราคม 55 29.9 32.3 37.8 -7.9 46.0
ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนมีนาคม 2555 มีค่า 48.7 มูลค่าสินค้าคงคลังที่ ลดลงได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ ข้าว เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้นได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งกระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี มีนาคม 55 24.7 57.8 17.5 7.2 53.6 กุมภาพันธ์ 55 18.2 64.1 17.7 0.5 50.3 มกราคม 55 19.0 58.0 23.0 -4.0 48.0
ดัชนีการจ้างงานในเดือนมีนาคม 2555 มีค่าเท่ากับ 53.6 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกเพิ่มขึ้น
ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ
- อัตราแลกเปลี่ยนไม่คงที่
- ขาดแคลนแรงงานมีฝีมือและแรงงานไร้ฝีมือและค่าจ้างปรับสูงขึ้นมาก
- ขาดแคลนวัตถุดิบทำให้การผลิตลดลง
- การย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน
- การส่งออกลดลงจากภาวะเศรษฐกิจโลก
ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้
- รักษาค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
- เตรียมความพร้อมด้านแรงงานให้เป็นแรงงานมีฝีมือ
- ควรปรับขึ้นค่าแรงเป็นระยะ เพื่อลดภาระต้นทุนการผลิต
- ปรับลดอัตราค่าระวางเรือและขั้นตอนการขนส่ง
หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน
1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า
2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ (leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0
3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง
ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สาหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว
ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โทร.0 2507 5811-13, โทรสาร 0 2507 5806,0 2507 5825
www.price.moc.go.thEmail: [email protected]