การส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัว
ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 208 ราย ได้ผลดังนี้
ดัชนีมูลค่าส่งออก เม.ย. 56 = 40.4
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี เมษายน 56 27.4 26.0 46.6 -19.2 40.4 มีนาคม 56 46.0 24.5 29.5 16.5 58.3 กุมภาพันธ์ 56 34.5 34.9 30.6 3.9 51.9
ดัชนีมูลค่าส่งออก เดือนเมษายน 2556 มีค่าเท่ากับ 40.4 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ข้าว ยางพาราเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ เม.ย. 56 = 42.3
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี เมษายน 56 27.1 30.4 42.5 -15.4 42.3 มีนาคม 56 41.4 30.8 27.8 13.6 56.8 กุมภาพันธ์ 56 32.0 35.0 33.0 -1.0 49.5
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ เดือนเมษายน 2556 มีค่า 42.3 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่ ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ข้าว ยางพาราและผลิตภัณฑ์ เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป
ดัชนีการจ้างงาน เม.ย. 56 = 48.3
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี เมษายน 56 15.7 65.2 19.1 -3.4 48.3 มีนาคม 56 17.2 70.7 12.1 5.1 52.5 กุมภาพันธ์ 56 12.1 71.0 16.9 -4.8 47.6
ดัชนีการจ้างงานเดือนเมษายน 2556 มีค่าเท่ากับ 48.3 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกชะลอตัว
ดัชนีสินค้าคงคลัง เม.ย. 56 = 49.0
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี เมษายน 56 28.9 40.2 30.9 -2.0 49.0 มีนาคม 56 27.2 42.5 30.3 -3.1 48.5 กุมภาพันธ์ 56 19.8 48.3 31.9 -12.1 44.0
ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนเมษายน 2556 มีค่า 49.0 สินค้าคงคลังที่ลดลงได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ ยางพารา ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้นได้แก่ เคมีภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน
ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ
- อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
- ขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือและไม่มีฝีมือ
- ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
- การแข่งขันทางด้านราคาทั้งภายในและภายนอกประเทศ
ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้
- รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท
- พัฒนาแรงงานให้เป็นแรงงานมีฝีมือมากขึ้น
- มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเรื่องค่าจ้างแรงงาน
- ชดเชยค่าไฟฟ้าแก่ผู้ประกอบการเพื่อการส่งออก
- ปรับเพิ่มอัตราชดเชยภาษีแก่สินค้าส่งออก
หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน
1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า
2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ(leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0
3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง
ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว
สำนักสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์
โทร.0 2507 5800 โทรสาร 0 2507 5806, 0 2507 5825
www.price.moc.go.th Email: neworders@moc.go.th