ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิถุนายน 2559
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนมิถุนายน 2559 จากประชาชน สาขาอาชีพต่างๆ ทุกจังหวัด จำนวน 3,478 คน พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯ มีค่า 35.1 ปรับลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2559 ที่มีค่า 35.5 ซึ่งลดลงต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 4 ส่วนดัชนี ความเชื่อมั่นฯ ที่มีต่อสถานการณ์ปัจจุบันมีค่า 29.1 ปรับลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ที่มีค่า 29.9 และค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ ที่มีต่อสถานการณ์ในอนาคต(3 เดือนข้างหน้า) มีค่า 39.1 ปรับลดลงเล็กน้อยเช่นกันเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ที่มีค่า 39.3 โดยค่าดัชนีทุกรายการยังอยู่ต่ำกว่าที่ระดับ 50 สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนยังไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศหลักอย่าง จีน ญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย กอปรกับปัญหาความยากจนและความเลื่อมล้ำของรายได้ หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมทั้ง ช่วงภัยแล้งที่ผ่านมาเกษตรกรสูญเสียโอกาสและขาดรายได้ ซึ่งแม้ว่าจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ภัยแล้งเริ่มคลี่คลาย หลายพื้นที่เริ่มทำการเพาะปลูก แต่เกษตรกรหลายพื้นที่ยังมีความกังวลต่อรายได้และหนี้สิน ทั้งนี้ รัฐบาลได้เร่งออกมาตรการต่างๆเพื่อช่วยเหลือประชาชนทุกระดับให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีความเข้มแข็ง เร่งช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง เร่งการเบิกจ่ายงบประมาณ/การลงทุนเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
ทั้งนี้ ความคาดหวังที่มีต่อรายได้ในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) อยู่ที่ระดับ 43.9 โดยปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากภัยแล้งที่ผ่านมาทำให้เกษตรกรขาดรายได้ ส่วนรายได้จากผลผลิตทางการเกษตรในอนาคตต้องเตรียมไว้เพื่อชำระหนี้ รวมทั้งภาคการส่งออกที่ลดลงส่งผลกระทบถึงรายได้ของลูกจ้าง/พนักงาน ส่วนการวางแผนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ/รถยนต์ใน 6 เดือนข้างหน้า ยังอยู่ในระดับที่ยังไม่มีความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ ตัวเลขด้านการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในปัจจุบัน อยู่ที่ระดับ 55.4 ซึ่งมีค่าเท่ากับเดือนที่ผ่านมา และยังคงอยู่ในระดับที่ประชาชนมีความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง
1. แก้ไขปัญหาค่าครองชีพ ดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคบริโภค รายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
2. แก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
3. ส่งเสริมการลงทุน และกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว
4. เร่งการลงทุน/เบิกจ่ายจากภาครัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
5. ส่งเสริม/พัฒนาศักยภาพการผลิต หาแนวคิดและวิธีการเพิ่มมูลค่าสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตร
6. สนับสนุนให้มีการจัดงานจำหน่ายสินค้าโอทอป เพื่อกระจายรายได้และสร้างงานแก่คนในชุมชนต่างๆ
1. ปราบปรามการทุจริตและคอรัปชั่น ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ
2. เร่งปราบปรามปัญหายาเสพติด เพื่อลดปัญหาสังคม
3. แก้ไขปัญหาความยากจน ลดปัญหาการว่างงานและหนี้ภาคครัวเรือน
4. เร่งแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อความมั่นคงของประเทศ
5. บริหารจัดการน้ำให้เป็นระบบ สร้างแหล่งกักเก็บน้ำในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนสร้างแหล่งกักเก็บน้ำและพึ่งพาตนเอง
6. สร้างแนวทางที่ยั่งยืนเพื่อช่วยเหลือประชาชนในระดับรากหญ้าและผู้ที่มีรายได้น้อย ให้มีงาน มีอาชีพและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อลดปัญหาหนี้นอกระบบและปัญหาอาชญากรรม
7. ดูแลราคาปุ๋ย/ต้นทุนสินค้าการเกษตรต่างๆไม่ให้มีราคาสูง และสอดคล้องกับราคาผลผลิตที่สามารถจำหน่ายได้
ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
โทร 0 2507 7000 โทรสาร 0 2507 5825