ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออก (Export Business Index) ประจำเดือนสิงหาคม (August 2016)
ดัชนีมูลค่าส่งออก
ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกในเดือนสิงหาคม 2559 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนที่ระดับ 51.2 มาอยู่ที่ระดับ 50.8 จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 209 ราย ได้ผลดังนี้
ดัชนีมูลค่าส่งออก เดือนสิงหาคม 2559 มีค่าเท่ากับ 51.9 แสดงว่า มูลค่าการส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้น ปัจจัยหลักเป็นผลมาจากผลผลิตภาคเกษตรกรรมออกสู่ตลาดลดลง จากผลของภัยธรรมชาติ รวมถึงสินค้าอุตสาหกรรมที่กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านมีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้นได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าส่งออก เพิ่มขึ้นได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าส่งออก ลดลงได้แก่ เม็ดพลาสติกและเสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน และยางพารา
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ เดือนสิงหาคม 2559 มีค่าเท่ากับ 50.5 แสดงว่า คำสั่งซื้อใหม่มีแนวโน้มสูงขึ้น จากความต้องการสินค้าในกลุ่มประเทศแอฟริกา ตะวันออกกลาง ยุโรป และอาเซียน โดยสินค้าที่ทำให้มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้นได้แก่ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง อาหารสำเร็จรูป และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ ลดลงได้แก่เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน และยางพารา
ดัชนีการจ้างงานเดือนสิงหาคม 2559 มีค่าเท่ากับ แสดงให้เห็นว่าทิศทางการจ้างงานของภาคการส่งออกในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมชะลอตัวลง
ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนสิงหาคม 2559 มีค่าเท่ากับ 51.2 แสดงว่า สินค้าคงคลังมีแนวโน้มสูงขึ้น เป็นผลมาจากความล่าช้าในกระบวนการผลิต จากการขาดแคลนวัตถุดิบทั้งในประเทศและต่างประเทศของเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ปัจจุบันมีการเร่งผลิตสินค้าเพื่อให้ทันกับความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าคงคลังที่มีมูลค่า เพิ่มขึ้นได้แก่ เพิ่มขึ้นได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง และเครื่องเล็กทรอนิกส์
ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ ลดลงได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป และยางพารา
ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ
- อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
- แรงงานมีการปรับเปลี่ยนเข้า
- ออกบ่อย และด้อยคุณภาพ
- ปัญหาภัยธรรมชาติในประเทศและต่างประเทศ
- ปัญหาการแข่งขันทางด้านราคากับประเทศคู่แข่งในกลุ่มอาเซียน
ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้
- รักษาค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
- พัฒนาแรงงานต่างด้าวให้เป็นแรงงานฝีมือ
- เร่งแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบในการส่งออกเพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า
สำนักสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์
โทร.0 2507 5799-80 โทรสาร 0 2507 5806, 0 2507 5825
www.price.moc.go.th Email: neworders@moc.go.th