ดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศเดือนตุลาคม 2565

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 7, 2022 12:15 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศ แบ่งตามกิจกรรมการผลิต (CPA : Classification of Products by Activity) เดือนตุลาคม 2565 (ปี 2558 = 100) เท่ากับ 115.2 เทียบกับเดือนตุลาคม 2564 สูงขึ้นร้อยละ 9.9 (YoY) เป็นผลมาจากการปรับสูงขึ้นของราคาสินค้าผู้ผลิตทั้ง 3 หมวดหลัก ประกอบด้วย หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 6.8 ตามต้นทุนการผลิตที่ทยอยปรับเพิ่มขึ้นในช่วงสองปีนี้ แต่เป็นการเพิ่มขึ้นในทิศทางชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สี่ โดยกลุ่มสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี และผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมอื่น ๆ หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 96.8 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และแร่โลหะ และหมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 8.3 เป็นผลจากสินค้าสำคัญ ได้แก่ ข้าวเปลือก หัวมันสำปะหลังสด ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พืชผัก สุกรมีชีวิต ไก่มีชีวิต ไข่ไก่ ไข่เป็ด และผลิตภัณฑ์จากการประมง
1. เทียบกับเดือนตุลาคม 2564 (YoY) สูงขึ้นร้อยละ 9.9 โดยหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 6.8 จากการสูงขึ้นของสินค้าสำคัญ ประกอบด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91, 95 ซึ่งเป็นไปตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ เนื้อสุกร ไก่สด มันเส้น ข้าวนึ่ง ปลาทูน่ากระป๋อง น้ำสับปะรด และน้ำมันถั่วเหลืองบริสุทธิ์ เนื่องจากต้นทุนการผลิตปรับสูงขึ้น ประกอบกับปริมาณวัตถุดิบมีน้อย ขณะที่ความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศอยู่ในระดับสูง รวมทั้งค่าเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่อง ส่งผลให้สินค้าส่งออกมีราคาสูงขึ้น และน้ำตาลทราย ราคาเคลื่อนไหวตามภาวะราคาตลาดโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์) และ Integrated Circuit (IC) ราคาปรับสูงขึ้นตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่า กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ โซดาไฟ ปุ๋ยเคมีผสม กรดกำมะถัน และเม็ดพลาสติก เนื่องจากราคาวัตถุดิบและราคาอ้างอิงตลาดต่างประเทศปรับสูงขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้แก่ ทองคำ เนื่องจากราคาปรับสูงขึ้นตามตลาดโลก นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นทั้งราคาวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ และพลังงาน (น้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซ) ส่งผลให้สินค้าอุตสาหกรรมหลายกลุ่มปรับราคาสูงขึ้น ประกอบด้วย กลุ่มเครื่องจักรและเครื่องมือ ได้แก่ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องเก็บเกี่ยว กลุ่มยานยนต์ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ ได้แก่ รถยนต์นั่ง รถบรรทุก และชิ้นส่วนและอุปกรณ์สำหรับรถยนต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแร่อโลหะ ได้แก่ กระเบื้องปูพื้น-บุผนัง โถส้วม เสาเข็มคอนกรีต ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ และคอนกรีตผสมเสร็จ กลุ่มสิ่งทอ ได้แก่ ผ้าดิบ ผ้าฝ้าย และสิ่งทอจากใยสังเคราะห์ (เส้นใย/ผ้า/ด้าย) และกลุ่มกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ ได้แก่ เยื่อกระดาษ กล่องกระดาษ กระดาษคร๊าฟท์ และกระดาษพิมพ์เขียน หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 96.8 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้า ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และแร่โลหะ (แร่สังกะสี เหล็ก วุลแฟรม) ตามทิศทางราคาตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้น หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 8.3 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ประกอบด้วย กลุ่มพืชล้มลุก ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว เนื่องจากตลาดทั้งในและต่างประเทศยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง หัวมันสำปะหลังสด เนื่องจากตลาดยังมีความต้องการเพื่อใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมเอทานอล โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ต้องการนำเข้าเพื่อทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีราคาสูงขึ้น ส่งผลให้ราคามันสำปะหลังปรับตัวสูงขึ้น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง พืชผัก (ต้นหอม พริกแห้ง พริกสด หน่อไม้ฝรั่ง กระเทียม ถั่วฝักยาว ผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง แตงกวา มะเขือ ข้าวโพดฝักอ่อน กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ผักกาดหอม) เนื่องจากปริมาณผลผลิตลดลงจากภาวะฝนตกหนัก ส่งผลให้ผักบางชนิดเน่าเสียง่าย ประกอบกับพื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม และผลไม้ (สับปะรดโรงงาน ส้มเขียวหวาน ลองกอง ลำไย มะละกอสุก กล้วยน้ำว้า ชมพู่ ฝรั่ง กล้วยหอม) เนื่องจากความต้องการบริโภคมีอย่างต่อเนื่อง กลุ่มสัตว์ ได้แก่ สุกรมีชีวิต ไก่มีชีวิต ไข่ไก่ และไข่เป็ด เนื่องจากต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับตัวสูงขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์จากการประมง ได้แก่ กุ้งทะเล หอยนางรม หอยแมลงภู่ ปลาหมึกกล้วย และปูม้า เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลงจากสภาพอากาศที่แปรปรวน มีมรสุมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มีการออกเรือจับสัตว์น้ำน้อยลง ปลาช่อน ปลาดุก และปลานิล เนื่องจากความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น สำหรับสินค้าที่ราคาปรับตัวลดลง กลุ่มไม้ยืนต้น ได้แก่ ผลปาล์มสด ยางพารา
2. เทียบกับเดือนกันยายน 2565 (MoM) สูงขึ้นร้อยละ 1.2 โดยหมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 12.7 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ คือ ก๊าซธรรมชาติ ตามทิศทางราคาตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้น เป็นผลจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้เกิดความไม่แน่นอนของระดับอุปทานก๊าซธรรมชาติ หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 0.6 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E 85) และน้ำมันก๊าด ซึ่งเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับราคาตลาดโลก เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเริ่มปรับสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาก๊าซในยุโรปที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้น้ำมันแทนก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น ประกอบกับใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูหนาว อย่างไรก็ตาม ทิศทางของราคาในเดือนนี้ค่อนข้างผันผวน จากความกังวลของตลาดเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มถดถอย เป็นแรงกดดันให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันโลกลดลง กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์) และ Integrated Circuit (IC) ราคาปรับตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่า กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้แก่ ทองคำ ซึ่งเคลื่อนไหวตามตลาดโลก จากตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เม็ดพลาสติก เนื่องจากราคาวัตถุดิบสูงขึ้น และค่าเงินบาทอ่อนค่า ประกอบกับบางโรงงานอยู่ในช่วงซ่อมบำรุงเครื่องจักรประจำปี ส่งผลให้อุปทานในประเทศตึงตัว สบู่ แชมพู และยาสีฟัน เนื่องจากวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์มีราคาสูงขึ้น และก๊าซที่ใช้ในอุตสาหกรรม เนื่องจากต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิตปรับสูงขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแท่ง และยางแผ่นรมควัน เนื่องจากฝนตกหนักในแหล่งผลิตหลายพื้นที่ ส่งผลให้ปริมาณวัตถุดิบมีน้อย กลุ่มยานยนต์ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ ได้แก่ รถบรรทุกขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เนื่องจากผู้ผลิตบางรายปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่บางชิ้นส่วน หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 0.5 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ประกอบด้วย กลุ่มพืชล้มลุก ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว เนื่องจากเป็นช่วงที่ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ขณะที่ความต้องการยังมีอย่างต่อเนื่อง พืชผัก (มะนาว ต้นหอม ถั่วฝักยาว ผักกวางตุ้ง มะเขือ แตงกวา ผักบุ้ง หน่อไม้ฝรั่ง ผักคะน้า ฟักทอง กะหล่ำปลี แตงร้าน) เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง จากภาวะฝนตกอย่างต่อเนื่องและมีน้ำท่วมขังในพื้นที่เพาะปลูก ส่งผลให้ผักบางชนิดเน่าเสียง่าย ผลไม้ (กล้วยน้ำว้า ลำไย กล้วยไข่ มะละกอสุก ชมพู่ ลองกอง) เนื่องจากความต้องการของตลาดมีอย่างต่อเนื่อง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากภาวะฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่เพาะปลูก ส่งผลให้เกษตรกรชะลอการเก็บเกี่ยวผลผลิต สำหรับสินค้าที่ราคาลดลง กลุ่มไม้ยืนต้น ได้แก่ ผลปาล์มสด ยางพารา (เศษยาง) หัวมันสำปะหลังสด และสับปะรด กลุ่มสัตว์ ได้แก่ สุกร/ไก่มีชีวิต และผลิตภัณฑ์จากการประมง ได้แก่ กุ้งแวนนาไม ปลากะพง ปลานิล ปลาตะเพียน ปลาดุก และปลาช่อน
3. เฉลี่ย 10 เดือน (ม.ค. ? ต.ค.) ปี 2565 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 (AoA) สูงขึ้นร้อยละ 11.3 โดยหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 9.6 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91, 95 น้ำมันเตา น้ำมันก๊าด ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ยางมะตอย และน้ำมันหล่อลื่น กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ เนื้อสุกร ไก่สด มันเส้น น้ำมันปาล์ม น้ำตาลทราย ปลาทูน่ากระป๋อง น้ำสับปะรด น้ำมันถั่วเหลืองบริสุทธิ์ อาหารสัตว์เลี้ยงสำเร็จรูป และกุ้งแช่แข็ง กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เม็ดพลาสติก โซดาไฟ ปุ๋ยเคมีผสม กรดกำมะถัน คลอรีน และยางสังเคราะห์ กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (ฮาร์ดดิสไดรฟ์) กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่นๆ ได้แก่ ทองคำ หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 68.3 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้า ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติ และแร่ (แร่สังกะสี เหล็ก และวุลแฟรม) หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 7.8 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ได้แก่ อ้อย ผลปาล์มสด หัวมันสำปะหลังสด ข้าวเปลือกเจ้า ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผักสด (ต้นหอม พริกสด หน่อไม้ฝรั่ง ผักกวางตุ้ง กระเทียม คะน้า กะหล่ำปลี มะเขือ ข้าวโพดฝักอ่อน ผักชี) สุกร/ไก่มีชีวิต ไข่ไก่ และไข่เป็ด กลุ่มผลิตภัณฑ์จากการประมง ได้แก่ ปลาหมึกกล้วย กุ้งแวนนาไม ปลาทรายแดง ปลาลัง ปลาดุก และปลาช่อน
4. แนวโน้มดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนพฤศจิกายน 2565 ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพฤศจิกายน 2565 มีแนวโน้มสูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง ตามราคาสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีแนวโน้มชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก รวมถึงสินค้าเกษตรสำคัญบางรายการ อาทิ ปาล์มน้ำมัน ราคามีแนวโน้มลดลงตามราคาในตลาดโลก เนื่องจากปริมาณผลผลิตมีจำนวนมาก ประกอบกับฐานดัชนีราคาในเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ค่อนข้างสูง มีส่วนทำให้ดัชนีราคาผู้ผลิต ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ชะลอตัว สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดัชนีราคาผู้ผลิตยังคงขยายตัว ได้แก่ 1) ต้นทุนการผลิต (อาทิ ราคาพลังงาน ปุ๋ย อาหารสัตว์ และวัตถุดิบ) รวมทั้งค่าขนส่งและโลจิสติกส์ ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีก่อน รวมทั้งค่าแรงขั้นต่ำและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น 2) ต้นทุนการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นจากเงินบาทที่อ่อนค่า และ 3) อุปสงค์ภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดในหลายประเทศ การดำเนินนโยบาย Zero COVID ของจีน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศโอเปก อาจส่งผลต่ออุปสงค์และอุปทานของสินค้าและบริการ ซึ่งจะกระทบต่อภาคการผลิตและดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศไทยตามลำดับ ทั้งนี้ จะต้องมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ดัชนีราคาผู้ผลิต แบ่งตามขั้นตอนการผลิต (SOP : Stage of Processing) พบว่า ดัชนีหมวดสินค้าสำเร็จรูป หมวดสินค้ากึ่งสำเร็จรูป (แปรรูป) และหมวดสินค้าวัตถุดิบ สูงขึ้นร้อยละ 4.0 11.6 และ 42.1 ตามลำดับ โดยมีสินค้าสำคัญในห่วงโซ่อุปทานที่ราคาปรับสูงขึ้นตามราคาวัตถุดิบ ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า-> ข้าวสารเจ้า/ข้าวนึ่ง/ปลายข้าว-> แป้งข้าวเจ้า และหัวมันสำปะหลังสด -> มันเส้น/มันอัดเม็ด/แป้งมันสำปะหลัง เนื่องจากมีความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ อ้อย-> น้ำตาลทรายดิบ-> น้ำตาลทรายขาว เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวตามภาวะตลาดโลก

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ