ดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศเดือนกันยายน 2566 และเฉลี่ยระยะ 9 เดือนของปี 2566

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 5, 2023 11:55 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

Highlights

ดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศ แบ่งตามกิจกรรมการผลิต (CPA : Classification of Products byActivity)เดือนกันยายน 2566 (ปี 2558 = 100) เท่ากับ 111.8เทียบกับเดือนกันยายน 2565 ลดลงร้อยละ 1.8 (YoY)ประกอบด้วย หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 0.1โดยมีกลุ่มสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก และโลหะขั้นมูลฐาน (เหล็ก)หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 32.3 จากกลุ่มสินค้าปิโตรเลียมดิบและก๊าซธรรมชาติ และกลุ่มสินแร่โลหะขณะที่ หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 0.3 เป็นผลจากสินค้าสำคัญ ได้แก่ ข้าวเปลือก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หัวมันสำปะหลังสด พืชผัก ผลไม้ ไข่ไก่ และผลิตภัณฑ์จากประมงทะเล

ดัชนีราคาผู้ผลิต แบ่งตามขั้นตอนการผลิต (SOP : Stage of Processing)พบว่า ดัชนีหมวดสินค้าสำเร็จรูป สูงขึ้นร้อยละ 1.1 ขณะที่หมวดสินค้ากึ่งสำเร็จรูป (แปรรูป) และหมวดสินค้าวัตถุดิบ ลดลงร้อยละ 2.7 และ 13.3 ตามลำดับโดยมีสินค้าสำคัญในห่วงโซ่อุปทานที่ราคาเคลื่อนไหวตามราคาวัตถุดิบ ประกอบด้วย สินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวสารเจ้า/ข้าวนึ่ง และ ข้าวเปลือกเหนียวข้าวสารเหนียวสำหรับสินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ ผลปาล์มสดน้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ และ น้ำยางสด/ยางแผ่นดิบ/เศษยาง ยางแผ่นรมควัน ถุงมือยาง/ถุงยางอนามัย1. เทียบกับเดือนกันยายน 2565 (YoY)ลดลงร้อยละ 1.8 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 32.3 จากการลดลงของราคาสินค้า ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และสินแร่โลหะ (สังกะสี เหล็ก วุลแฟรม) ซึ่งราคาเคลื่อนไหวในทิศทางที่ลดลงตามราคาตลาดโลก

หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 0.1 จากการลดลงของสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันหล่อลื่น ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)น้ำมันก๊าด และยางมะตอย ซึ่งราคาเคลื่อนไหวตามตลาดโลก กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ โซดาไฟ เม็ดพลาสติก และปุ๋ยเคมีผสม เนื่องจากราคาปรับลดลง ตามราคาอ้างอิงตลาดต่างประเทศ กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เนื่องจากสินค้าบางรุ่นปรับราคาลดลง ก่อนการผลิตรุ่นใหม่ทดแทน รวมทั้งยังมีสินค้าอุตสาหกรรมที่ราคาปรับลดลงตามราคาวัตถุดิบ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ถุงมือยาง ยางแท่ง แผ่นฟิล์มพลาสติก บรรจุภัณฑ์พลาสติกอื่น ๆ ถุงพลาสติก ยางนอกรถจักรยานยนต์ ถุงยางอนามัย ยางในรถจักรยานยนต์ และยางหล่อดอกใหม่ และกลุ่มโลหะขั้นมูลฐาน ได้แก่ เหล็กแท่ง เหล็กแผ่นรีดเย็น ท่อเหล็กกล้า และเหล็กลวด สำหรับกลุ่มกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ ได้แก่ เยื่อกระดาษ เนื่องจากคำสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลง

1. เทียบกับเดือนกันยายน 2565 (YoY)ลดลงร้อยละ 1.8 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้ (ต่อ)

หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 0.3 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ประกอบด้วย กลุ่มพืชล้มลุก ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากการประกาศงดการส่งออกข้าวของประเทศผู้ค้าข้าวสำคัญหลายประเทศ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากความต้องการในตลาดโลกเพิ่มขึ้น หัวมันสำปะหลังสด เนื่องจากตลาดยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น พืชผัก (มะนาว พริกแห้ง หอมแดง) และผลไม้ (สับปะรดบริโภค สับปะรดโรงงาน ลำไย กล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า มะละกอสุก) เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลงจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและปริมาณน้ำที่ใช้ในภาคการเกษตรมีน้อย และกลุ่มสัตว์ ได้แก่ ไข่ไก่ เนื่องจากความต้องการบริโภคทั้งในประเทศและการส่งออกเพิ่มขึ้น และผลิตภัณฑ์จากการประมง ได้แก่ สัตว์ทะเล (ปลาหมึกกล้วย ปูม้า) เนื่องจากความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นจากภาคการท่องเที่ยว สำหรับสินค้าที่ราคาปรับลดลง ประกอบด้วย กลุ่มไม้ยืนต้น ได้แก่ ผลปาล์มสด เนื่องจากปริมาณผลผลิตในประเทศออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกมีการปรับตัวลดลงจากปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันของโลกที่สูงขึ้น ยางพารา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าชะลอตัว ส่งผลให้ความต้องการใช้ยางพาราในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องลดลง ทุเรียน เป็นผลจากประเทศจีนที่เป็นคู่ค้าสำคัญลดการนำเข้าลง เนื่องจากสามารถเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตในประเทศตนเองได้แล้ว กลุ่มสัตว์ ได้แก่ สุกรมีชีวิต โคมีชีวิต และไก่มีชีวิต เนื่องจากปริมาณผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งจากการนำเข้าและการผลิตของเกษตรกรบางส่วนในประเทศ ส่งผลให้ราคาหน้าฟาร์มลดลง และผลิตภัณฑ์จากการประมง ได้แก่ กุ้งแวนนาไม เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการบริโภคลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

2. เทียบกับเดือนสิงหาคม 2566 (MoM)สูงขึ้นร้อยละ 1.5 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้

หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 1.4 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผลิตภัณฑ์จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบิน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 น้ำมันก๊าด น้ำมันเตา และยางมะตอย เนื่องจากอุปทานน้ำมันดิบทั่วโลกมีแนวโน้มตึงตัว จากการปรับลดกำลังการผลิตและการส่งออกของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล IntegratedCircuit(IC)และหน่วยรับข้อมูล/แสดงผล เนื่องจากราคาส่งออกปรับเพิ่มขึ้นตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่า กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ ข้าวนึ่ง มันเส้น และข้าวสารเจ้า เนื่องจากคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และปริมาณวัตถุดิบมีน้อย น้ำตาลทราย เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวตามตลาดโลก และอาหารสุกร เนื่องจากต้นทุนและราคาวัตถุดิบในการผลิตสูงขึ้น กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เม็ดพลาสติก และปุ๋ยเคมีผสม เนื่องจากราคาวัตถุดิบสูงขึ้น สำหรับโซดาไฟ ราคาสูงขึ้นเนื่องจากผู้ผลิตในภูมิภาคเอเชียหลายประเทศมีการปรับลดกำลังการผลิตลง ขณะที่ความต้องการใช้ในประเทศเพิ่มขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้แก่ ทองคำ ราคาเคลื่อนไหวตามตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสินค้าที่ราคาปรับสูงขึ้นตามราคาวัตถุดิบ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแท่ง น้ำยางข้น ยางแผ่นรมควัน และถุงยางอนามัย กลุ่มโลหะขั้นมูลฐาน ได้แก่ เหล็กแผ่น และเหล็กเส้นกลมข้ออ้อย และกลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ได้แก่ ไม้ยางพารา วงกบหน้าต่าง และวงกบประตู สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแร่อโลหะ ได้แก่ ปูนเม็ด กลุ่มสิ่งทอ ได้แก่ ผ้าดิบ ผ้าใยสังเคราะห์ และผ้าฝ้าย และกลุ่มเครื่องหนังและผลิตภัณฑ์ ได้แก่ รองเท้าบุรุษ เนื่องจากเป็นราคาสินค้าส่งออก ราคาจึงเคลื่อนไหวตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่า

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 3.6 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้า ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติ และแร่สังกะสี เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้น

หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 0.7 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ประกอบด้วย กลุ่มพืชล้มลุก ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย จากปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูกในหลายพื้นที่สำคัญ ขณะที่ผู้ประกอบการโรงสียังคงมีความต้องการรับซื้อเพื่อส่งมอบให้กับคู่ค้าหรือเก็บไว้ในสต็อก

2. เทียบกับเดือนสิงหาคม 2566 (MoM)สูงขึ้นร้อยละ 1.5 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้ (ต่อ)หัวมันสำปะหลังสด เนื่องจากความต้องการของตลาดสูงขึ้น จากภาคอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับผลผลิตออกสู่ตลาดไม่เพียงพอจากภาวะโรคใบด่าง และพื้นที่เพาะปลูกส่วนใหญ่มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหาย กลุ่มไม้ยืนต้น ได้แก่ ยางพารา เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญเริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้ความต้องการของภาคการส่งออกสูงขึ้น มะนาว เนื่องจากราคาเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังผ่านช่วงที่ปริมาณผลผลิตออกตลาดเป็นจำนวนมากไปแล้ว และกลุ่มสัตว์ ได้แก่ ไข่ไก่ เนื่องจากภาวะการค้าคล่องตัวขึ้นตามปัจจัยบวกด้านความต้องการบริโภคทั้งในประเทศและการส่งออกที่เพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาปรับลดลงได้แก่ ผลปาล์มสด เนื่องจากอยู่ในช่วงที่ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ประกอบกับปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มในประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูง เป็นปัจจัยกดดันระดับราคาที่เกษตรกรขายได้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ประกอบกับมีฝนตกเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่เพาะปลูก ส่งผลให้คุณภาพของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลดลง กลุ่มสัตว์ ได้แก่ สุกรมีชีวิต และโคมีชีวิต เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าความต้องการบริโภค ประกอบกับปัญหาสินค้าเถื่อนที่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศยังคงปรากฏอยู่ในท้องตลาด ส่งผลให้ราคาหน้าฟาร์มปรับตัวลดลง และผลิตภัณฑ์จากการประมง ได้แก่ กุ้งแวนนาไม เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น สวนทางกับปริมาณความต้องการบริโภคกุ้งในประเทศที่ชะลอลงในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางท่องเที่ยว ส่งผลให้ความต้องการกุ้งของร้านอาหารปรับตัวลดลงตามไปด้วย3. เฉลี่ย 9 เดือน (ม.ค. -ก.ย.) ปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 (AoA) ลดลงร้อยละ 2.6 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 2.3 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย รวมทุกรายการ-2.6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และน้ำมันเครื่องบิน กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง-0.2

โซดาไฟ กรดเกลือ และปุ๋ยเคมีผสม กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแท่ง น้ำยางข้น ผลิตภัณฑ์จากเหมือง-12.4 ยางแผ่นรมควัน และถุงมือยาง และกลุ่มโลหะขั้นมูลฐาน ได้แก่ เหล็กเส้น เหล็กแท่ง และเหล็กลวด

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 12.4 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม-2.3 ก๊าซธรรมชาติเหลว น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และสินแร่โลหะ (สังกะสี)

หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลดลงร้อยละ 0.2 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ได้แก่ ผลปาล์มสด ยางพารา ทุเรียน สุกรมีชีวิต โคมีชีวิต และกุ้งแวนนาไม ส่วนราคาสินค้าสำคัญที่สูงขึ้น ประกอบด้วย ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว หัวมันสำปะหลังสด ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อย ผลไม้ (สับปะรดโรงงาน ลำไย มะละกอสุก กล้วยน้ำว้า) พืชผัก (มะนาว พริกแห้ง พริกสด ถั่วฝักยาว หน่อไม้ฝรั่ง กระเทียม) ดอกกุหลาบ น้ำนมดิบ ไก่มีชีวิต ไข่ไก่ ปลาหมึกกล้วย และปูม้า 4. ไตรมาสที่ 3 ปี 2566 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี2565(YoY) ลดลงร้อยละ 3.3 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 2.2 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย รวมทุกรายการ-3.3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันก๊าด และน้ำมันหล่อลื่น กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง-0.8

ได้แก่ เม็ดพลาสติก โซดาไฟ กรดเกลือ และปุ๋ยเคมีผสม กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากเหมือง-27.4 ยางแท่ง น้ำยางข้น ยางแผ่นรมควัน ถุงมือยาง แผ่นฟิล์มพลาสติก และกลุ่มโลหะขั้นมูลฐาน ได้แก่ เหล็กเส้น เหล็กแท่ง เหล็กลวด และท่อเหล็กกล้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม-2.2 หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 27.4 จากการลดลงของราคาสินค้า ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติเหลว น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และสินแร่โลหะ (สังกะสี แร่เหล็ก)

หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลดลงร้อยละ 0.8 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผลปาล์มสด ยางพารา ทุเรียน สุกรมีชีวิต โคมีชีวิต ไก่มีชีวิต และกุ้งแวนนาไม ส่วนราคาสินค้าสำคัญที่สูงขึ้น ประกอบด้วย ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว หัวมันสำปะหลังสด อ้อย ผลไม้ (สับปะรดบริโภค สับปะรดโรงงาน ลำไย มะละกอสุก กล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า) พืชผัก (มะนาว พริกแห้ง พริกสด พริกไทยเม็ด ถั่วฝักยาว หอมแดง กระเทียม) ดอกกุหลาบ ไข่ไก่ ปลาหมึกกล้วย และปูม้าสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

5. ไตรมาสที่ 3 ปี 2566 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) สูงขึ้นร้อยละ 0.9 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้

หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 1.9 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)และน้ำมันเครื่องบิน กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ น้ำตาลทราย ข้าวสาร ข้าวนึ่ง และอาหารสุกร กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และกลุ่มยานยนต์ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ ได้แก่ รถยนต์นั่งขนาดต่ำกว่า 1,800ซีซี และรถบรรทุก

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 9.6 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และสินแร่โลหะ (สังกะสี)

หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลดลงร้อยละ 2.6 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ได้แก่ หัวมันสำปะหลังสด ผลปาล์มสด ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา พืชผัก (ต้นหอม ถั่วฝักยาว มะนาว ผักกาดหอม ผักกวางตุ้ง ผักคะน้า หัวไชเท้า) สุกรมีชีวิต โคมีชีวิต และไก่มีชีวิต

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ