จากผลการตอบแบบสอบถามภาวะธุรกิจส่งออก จากผู้ประกอบการ จำนวน 201 ราย ได้ผลดังนี้
ดัชนีมูลค่าส่งออก ในเดือนมกราคม 2553มีค่าเท่ากับ 49.2สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ/อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก/เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ข้าว อาหารทะเลแช่เยือกแข็งเชื้อเพลิงและพลังงาน สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์/อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด/แช่เย็น/แช่แข็ง/กระป๋องและแปรรูป และ ยางพารา
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ ในเดือนมกราคม 2553 มีค่า 51.0 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์/อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก/เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด/แช่เย็น/แช่แข็ง/กระป๋องและแปรรูป และ ยางพารา ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ลดลง ได้แก่ ยานพาหนะ/อุปกรณ์และส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ข้าว อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน
ดัชนีการจ้างงานในเดือนมกราคม 2553มีค่าเท่ากับ 53.9 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ดัชนีสินค้าคงคลังในเดือนมกราคม 2553 มีค่า 45.0 มูลค่า สินค้าคงคลังที่ลดลง ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก/เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด/แช่เย็น/แช่แข็ง/กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลัง เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์/อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยานพาหนะ/อุปกรณ์และส่วนประกอบ สิ่งทอ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าว และ ยางพารา
ปัญหา
- ค่าเงินบาทผันผวน และแข็งค่าเกินไป
- ขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมยางพารา แรงงานระดับล่างและช่างเทคนิค
- สภาวะแห้งแล้ง จะทำให้ขาดแคลนสับปะรด นอกจากนี้ยังมีปัญหาแมลงทำลายพืชผลการเกษตร
- การลดอัตราเงินชดเชยของกรมศุลกากร กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ
- สถานการณ์ทางการเมืองไม่มีเสถียรภาพ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ
ข้อเสนอแนะ
ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้
- ดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
- เร่งรัดภาครัฐและเอกชนให้ดำเนินการตามนโยบายอย่างจริงจังและรวดเร็ว
- ส่งเสริมให้บริษัทต่างๆ ทำการค้าตามจังหวัดชายแดน โดยให้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีและอื่นๆ
- ควรมีการประกันราคาน้ำยางดิบให้สูงขึ้น เพราะมีผลต่อต้นทุนการผลิตอย่างมาก เนื่องจากราคาขายปรับขึ้นได้ยาก
หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน
1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า
2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ (leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0
3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง
ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว
ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โทร.0 2507 5811-13, โทรสาร 0 2507 5806,0 2507 5825
www.price.moc.go.thEmail: [email protected]