แท็ก
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ร่างพระราชบัญญัติ
กระทรวงพาณิชย์
สุขภัณฑ์กะรัต
โรงแรมคอนราด
คณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงาน
สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป และให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
กระทรวงพาณิชย์เสนอว่า
1. ได้แก้ไขปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2550 แล้ว และได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อนำมาปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับบทนิยาม “ธุรกิจ” คุณสมบัติต้องห้ามของกรรมการ องค์ประกอบ วาระและอำนาจหน้าที่ของกรรมการ มาตรการกำกับดูแลธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง การลงโทษทางปกครองและบทเฉพาะกาล
2. สถานการณ์ธุรกิจค้าปลีกค้าส่งในปัจจุบัน มีการร้องเรียนอย่างต่อเนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งแบบดั้งเดิมในหลายจังหวัดว่าได้รับผลกระทบจากการขยายสาขาของผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่เพิ่มมากขึ้น
ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่บางรายมีการขยายสาขาเร่งด่วนในหลายพื้นที่
3. จากการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ส่วนใหญ่มีความเห็นว่าควรมีมาตรการเร่งด่วนในการชะลอหรือยับยั้งการขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ไว้ก่อน โดยเห็นควรให้กระทรวงมหาดไทยใช้อำนาจตามกฎหมายที่มีอยู่ ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยการผังเมือง และกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ในการชะลอหรือยับยั้งการขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ในระหว่างที่ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ. .... ยังไม่มีผลใช้บังคับ
ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดนิยามว่า “ธุรกิจ” (ร่างมาตรา 4 )
2. กำหนดคุณสมบัติต้องห้ามของกรรมการ (ร่างมาตรา 7 )
3. กำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการกลางกำกับดูแลธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง (กกค.) คณะกรรมการสรรหา และคณะกรรมการระดับจังหวัดกำกับดูแลธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง (กจค.) (ร่างมาตรา 7 ร่างมาตรา 9 และร่างมาตรา 23)
4. กำหนดให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และกรรมการผู้แทนสถาบันหรือองค์กรเอกชนใน กกค. อยู่ในตำแหน่งคราวละสามปี และกรรมการพิจารณาอุทธรณ์อยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี (ร่างมาตรา 13 และร่างมาตรา 50 )
5.กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ กกค. และ กจค. (ร่างมาตรา 22, 24, 35, 40, และ 44 )
6. กำหนดมาตรการกำกับดูแลธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง (ร่างมาตรา 40)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 พฤษภาคม 2550--จบ--
สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป และให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
กระทรวงพาณิชย์เสนอว่า
1. ได้แก้ไขปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2550 แล้ว และได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อนำมาปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับบทนิยาม “ธุรกิจ” คุณสมบัติต้องห้ามของกรรมการ องค์ประกอบ วาระและอำนาจหน้าที่ของกรรมการ มาตรการกำกับดูแลธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง การลงโทษทางปกครองและบทเฉพาะกาล
2. สถานการณ์ธุรกิจค้าปลีกค้าส่งในปัจจุบัน มีการร้องเรียนอย่างต่อเนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งแบบดั้งเดิมในหลายจังหวัดว่าได้รับผลกระทบจากการขยายสาขาของผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่เพิ่มมากขึ้น
ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่บางรายมีการขยายสาขาเร่งด่วนในหลายพื้นที่
3. จากการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ส่วนใหญ่มีความเห็นว่าควรมีมาตรการเร่งด่วนในการชะลอหรือยับยั้งการขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ไว้ก่อน โดยเห็นควรให้กระทรวงมหาดไทยใช้อำนาจตามกฎหมายที่มีอยู่ ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยการผังเมือง และกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ในการชะลอหรือยับยั้งการขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ในระหว่างที่ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ. .... ยังไม่มีผลใช้บังคับ
ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดนิยามว่า “ธุรกิจ” (ร่างมาตรา 4 )
2. กำหนดคุณสมบัติต้องห้ามของกรรมการ (ร่างมาตรา 7 )
3. กำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการกลางกำกับดูแลธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง (กกค.) คณะกรรมการสรรหา และคณะกรรมการระดับจังหวัดกำกับดูแลธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง (กจค.) (ร่างมาตรา 7 ร่างมาตรา 9 และร่างมาตรา 23)
4. กำหนดให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และกรรมการผู้แทนสถาบันหรือองค์กรเอกชนใน กกค. อยู่ในตำแหน่งคราวละสามปี และกรรมการพิจารณาอุทธรณ์อยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี (ร่างมาตรา 13 และร่างมาตรา 50 )
5.กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ กกค. และ กจค. (ร่างมาตรา 22, 24, 35, 40, และ 44 )
6. กำหนดมาตรการกำกับดูแลธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง (ร่างมาตรา 40)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 พฤษภาคม 2550--จบ--