รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนตุลาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 26, 2010 16:30 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนตุลาคม 2553 ของกระทรวงพาณิชย์ สรุปได้ดังนี้

สาระสำคัญของเรื่อง

ดัชนีราคาผู้บริโภคแสดงถึงภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตมีเสถียรภาพดีอย่างต่อเนื่อง

กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนตุลาคม 2553 เท่ากับ 108.52โดยเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 2.8 เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงจากเดือนกันยายนที่ผ่านมา (ซึ่งสูงขึ้นร้อยละ 3.0 ) ถือว่าเป็นการขยายตัวในระดับที่เหมาะสมกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทย โดยเฉลี่ย 10 เดือนแรกของปี 2553 นี้ เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 3.4 ซึ่งอยู่ในช่วงที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปี (โดยคาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นระหว่าง ร้อยละ 3.0 - 3.5 )

การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำของโลกแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดีของไทย โดยอัตราการเปลี่ยนแปลงดัชนีราคาผู้บริโภคเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาปรับตัวเข้าสู่ภาวะที่มีเสถียรภาพเป็นลำดับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2552 ระดับร้อยละ 3.5 ในเดือนพ.ค. สำหรับเดือน มิ.ย., ก.ค., ส.ค. และ ก.ย. ร้อยละ 3.3, 3.4 , 3.3 และ3.0 จนถึงเดือน ต.ค. แสดงให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจของไทยเติบโตมีเสถียรภาพดีอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 และ 4 ของเดือนตุลาคม ถึงแม้ว่าจะมีการเกิดอุทกภัยหลายแห่งทั่วประเทศไทย แต่ก็ยังส่งผลต่อดัชนีราคาผู้บริโภคไม่มากนัก เนื่องจากในช่วงเดือนตุลาคมนี้เป็นฤดูกาลที่เหมาะต่อผลผลิตการเกษตรโดยเฉพาะผักและผลไม้ แต่เป็นที่น่าจับตาดูว่าถ้าปัญหาอุทกภัยยังคงอยู่นานอาจจะส่งผลต่อราคาสินค้าโดยเฉพาะกลุ่มอาหารสดในเดือนพฤศจิกายนก็เป็นได้

ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนตุลาคม 2553 เทียบกับเดือนกันยายนที่ผ่านมาสูงขึ้นร้อยละ 0.03 โดยมีผลกระทบมาจากข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง สูงขึ้น ร้อยละ 0.25 ผักสด ลดลงร้อยละ 1.21 ผลไม้สด ลดลงร้อยละ 3.86 ปลาและสัตว์น้ำ สูงขึ้นร้อยละ 0.34 กับข้าวสำเร็จรูป เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 0.59 ขณะที่ของใช้ส่วนบุคคล สูงขึ้นร้อยละ 0.17 เนื้อสัตว์ต่างๆ ลดลงร้อยละ 2.78 ไข่ไก่ ลดลงร้อยละ 2.72 นอกจากนี้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 2.60 และสินค้าในหมวดยาสูบและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ลดลงร้อยละ 0.07

มาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาลได้แก่ ค่าไฟฟ้า รถเมล์ฟรี การตรึงราคาแก๊สหุงต้ม และการช่วยเหลือค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน และการดูแลราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์อย่างใกล้ชิด ยังคงมีส่วนช่วยทำให้ค่าครองชีพของประชาชนให้อยู่ในภาวะที่แสดงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนตุลาคม 2553 โดยสรุปเป็น ดังนี้

จากการสำรวจราคาสินค้าและบริการทั่วประเทศจำนวน 417 รายการครอบคลุมหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า เคหสถาน การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล พาหนะ การขนส่งและการสื่อสาร การบันเทิง การอ่าน การศึกษาและการศาสนา ยาสูบและเครื่องดื่ม มีแอลกอฮอล์ เพื่อนำมาคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ได้ผลดังนี้

1. ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนตุลาคม 2553ใน ปี 2550 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ เท่ากับ 100 และเดือนตุลาคม 2553 เท่ากับ 108.52 (เดือนกันยายน 2553 คือ 108.49)

2. การเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนตุลาคม 2553 เมื่อเทียบกับ

2.1 เดือนกันยายน 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.03

2.2 เดือนตุลาคม 2552 สูงขึ้นร้อยละ 2.8

2.3 เฉลี่ยช่วงระยะ 10 เดือน (มกราคม - ตุลาคม) ปี 2552 สูงขึ้นร้อยละ 3.4

3. ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนตุลาคม 2553 เทียบกับ เดือนกันยายน 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.03 (เดือนกันยายน 2553 ลดลงร้อยละ 0.07 ) เป็นภาวะที่ราคาสินค้าและบริการปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยสินค้าอาหารสดและสินค้าอุปโภคที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าว ปลาและสัตว์น้ำ อาหารสำเร็จรูป เครื่องประกอบอาหาร เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ผักสดบางชนิด น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง เครื่องถวายพระและค่าของใช้ส่วนบุคคล ในขณะที่สินค้าราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ เนื้อสุกร ไข่ ไก่สด ผักและผลไม้ เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ค่าเช่าบ้านและเครื่องรับอุปกรณ์สื่อสาร

3.1 ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ลดลงร้อยละ 0.39 (เดือนกันยายน 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.27) สาเหตุสำคัญเป็นผลจากราคาสินค้าอาหารสดบางรายการมีระดับราคาลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ประกอบด้วย เนื้อสุกร ร้อยละ 4.00 ผลจากราคาที่ปรับลดลงจากเดือนก่อนรวมทั้งเป็นช่วงเทศกาลถือศีลกินเจและสถานศึกษาปิดภาคเรียนทำให้ความต้องการบริโภคลดลงค่อนข้างมาก ไข่ ร้อยละ 2.53 ( ไข่ไก่ ไข่เป็ด ) จากภาวะไข่ไก่ที่ล้นตลาดและความต้องการลดลงช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ ทำให้ ครม. มีมติ เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2553 ได้นำมาตรการรองรับผลผลิตไข่ไก่ล้นตลาดโดยขอความร่วมมือจากหน่วยงานราชการให้รับซื้อไข่ไก่และรณรงค์ส่งเสริมให้มีการบริโภคไข่ไก่เพิ่มขึ้น ไก่สด ร้อยละ 0.87 ผักและผลไม้ ร้อยละ 2.35 เนื่องจากมีฝนตกชุกและสภาพอากาศที่เริ่มเย็นลงผักเจริญเติบโตได้ดีทำให้ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมากแต่ช่วงปลายสัปดาห์เกิดอุทกภัยทำให้พื้นที่เพาะปลูกหลายแห่งในหลายจังหวัดน้ำท่วมได้รับความเสียหายอย่างมากราคาผักสด จึงมีระดับราคาลดลงไม่มากจากภาวะฤดูกาลปกติ ได้แก่ กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ผักบุ้ง มะเขือเทศ มะนาว พริกสด ต้นหอม ขึ้นฉ่าย ส้มเขียวหวาน มะม่วง กล้วยน้ำว้า ฝรั่ง ส้มโอและลองกอง สำหรับสินค้าที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าว ร้อยละ 0.25 (ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว) ปลาและสัตว์น้ำ ร้อยละ 0.34 (ปลาช่อน ปลานิล ปลาทับทิม ปลากะพง) เป็นผลกระทบต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ปริมาณปลาและสัตว์น้ำที่จับได้ลดลง อาหารสำเร็จรูป ร้อยละ 0.34 (กับข้าวสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง) เครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 0.52 (เครื่องปรุงอาหาร ขนมหวาน ไอศกรีม) เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 0.12 (เครื่องดื่มรสชอกโกแลต กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำอัดลม น้ำผลไม้) และผักสดบางชนิด (แตงกวา ผักคะน้า ผักชี ถั่วฝักยาว ขิง เห็ด หัวผักกาดขาว)ผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหาย

3.2 ดัชนีหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 0.28 (เดือนกันยายน 2553 ลดลงร้อยละ 0.27) สาเหตุสำคัญเป็นผลกระทบจากราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศโดยเฉลี่ยปรับสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ร้อยละ 2.60 ตามภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น วัสดุก่อสร้าง ร้อยละ 0.37 (ปูนซีเมนต์ อิฐ กระเบื้องซีเมนต์ใยหินมุงหลังคา) เครื่องถวายพระ ร้อยละ 0.82 (ธูป เทียน ดอกไม้สด) ของใช้ส่วนบุคคล ร้อยละ 0.17 (ยาสีฟัน สบู่ถูตัว แชมพูสระผม ใบมีดโกน ครีมนวดผม) สำหรับสินค้าที่ราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 0.13 (เบียร์) ค่าเช่าบ้าน ร้อยละ 0.02 และเครื่องรับอุปกรณ์สื่อสาร ร้อยละ 1.05 (เครื่องรับโทรศัพท์ เครื่องรับโทรศัพท์มือถือ)

4. ถ้าพิจารณาดัชนีเทียบกับเดือนตุลาคม 2552 สูงขึ้นร้อยละ 2.8 เป็นการสูงขึ้นในอัตราที่สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 สาเหตุสำคัญมาจากการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น ร้อยละ 5.5 ได้รับผลกระทบมาจาก ดัชนีหมวด ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ร้อยละ 11.2 เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ ร้อยละ 3.7 ไข่และผลิตภัณฑ์นม ร้อยละ 3.3 ผักและผลไม้ ร้อยละ 22.5 เครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 3.5 เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 1.0 และอาหารสำเร็จรูป ร้อยละ 1.0 รวมทั้งผลกระทบจากดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ หมวดพาหนะการขนส่ง และการสื่อสาร ร้อยละ 1.4 (ยานพาหนะและน้ำมันเชื้อเพลิง) หมวดเคหสถาน ร้อยละ 2.0 (ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำประปา) หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล ร้อยละ 0.7 (ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าของใช้ส่วนบุคคล) หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาและการศาสนา ร้อยละ 0.5 (การบันเทิง การอ่านและการศึกษา)

5. ถ้าพิจารณาดัชนีเฉลี่ยเทียบกับช่วงระยะ 10 เดือน (มกราคม - ตุลาคม ) ปี 2552 สูงขึ้นร้อยละ 3.4 สาเหตุสำคัญมาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ร้อยละ 16.2 ค่าน้ำประปา ร้อยละ 45.3 ค่ากระแสไฟฟ้า ร้อยละ1.3 ผลิตภัณฑ์ยาสูบ ร้อยละ 8.7 เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 3.6 และค่าเช่าบ้าน ร้อยละ 0.3 และจากดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 2.2 ในขณะที่ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 5.3 เป็นผลจากการสูงขึ้นของ ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ร้อยละ 10.3 เนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ ร้อยละ 3.5 ไข่และผลิตภัณฑ์นม ร้อยละ 3.1 ผักและผลไม้ ร้อยละ 24.4 เครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 2.6 เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 1.2 และอาหารสำเร็จรูป ร้อยละ 0.9 เป็นสำคัญ

6. ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ ( คำนวณจากรายการสินค้าและบริการ 300 รายการ) คือ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสด และกลุ่มพลังงานจำนวน 117 รายการ คิดเป็นประมาณ ร้อยละ 24 ของสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนตุลาคม 2553 เท่ากับ 103.83 เมื่อเทียบกับ

6.1 เดือนกันยายน 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.11

6.2 เดือนตุลาคม 2552 สูงขึ้นร้อยละ 1.1

6.3 เฉลี่ยช่วงระยะ 10 เดือน (มกราคม - ตุลาคม) ปี 2552 สูงขึ้นร้อยละ 0.9

ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ เดือนตุลาคม 2553 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2553 สูงขึ้น ร้อยละ 0.11 (เดือนสิงหาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.04)โดยมีผลกระทบมาจาก ราคาสินค้าหลายชนิดปรับตัวทั้งสูงขึ้นและ ลดลง สินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง เครื่องถวายพระ และค่าของใช้ส่วนบุคคล ขณะที่สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ค่าเช่าบ้านและ เครื่องรับอุปกรณ์สื่อสาร

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ