สรุปสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตรปี 2553 ครั้งที่ 40

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 26, 2010 17:15 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลสรุปสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตรปี 2553 ครั้งที่ 40 ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2553 ประกอบด้วย สถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร สถานการณ์น้ำ การช่วยเหลือด้านการเกษตร และผลกระทบด้านการเกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปได้ดังนี้

สถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร

ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัย รวมทั้งประเทศ 14 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี ศรีสะเกษ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และอุบลราชธานี เป็นพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช

สถานการณ์น้ำ

1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศ (24 พฤศจิกายน 2553) มีปริมาณน้ำทั้งหมด 55,410 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งหมด ลดลงจากสัปดาห์ก่อน(55,923 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 513 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำใช้การได้ 31,569 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 43 ของความจุอ่าง) น้อยกว่าปี 2552 (58,482 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 80) จำนวน 3,072 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างจำนวน 64.07 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบาย 105.08 ล้านลูกบาศก์เมตร

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ (24 พฤศจิกายน 2553) มีปริมาณน้ำทั้งหมด 51,874 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งหมด ลดลงจากสัปดาห์ก่อน(52,336 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 462 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำใช้การได้ 28,351 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 41 ของความจุอ่าง) น้อยกว่าปี 2552 (55,277 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 79) จำนวน 3,403 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างจำนวน 62.42 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบาย 102.10 ล้านลูกบาศก์เมตร

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ และป่าสักชลสิทธิ์

                                                                         หน่วย : ล้านลูกบาศก์เมตร
          อ่างเก็บน้ำ        ปริมาตรน้ำ      ปริมาตรน้ำ           ปริมาณน้ำ         ปริมาณน้ำ    ปริมาณน้ำ
                            ในอ่างปี       ใช้การได้           ไหลลงอ่าง          ระบาย     รับได้อีก
                      ปริมาตรน้ำ   %   ปริมาตรน้ำ    %      วันนี้  เมื่อวาน      วันนี้ เมื่อวาน
          1.ภูมิพล         8,754  65      4,954   37    12.92    11.4        5   10.5     4,708
          2.สิริกิติ์         7,803  82      4,953   52     7.78    7.81     6.97      7     1,707
          ภูมิพล+สิริกิติ์     16,557  72      9,907   43     20.7   19.21    11.97   17.5     6,415
          3.แควน้อยฯ        759  99        723   94     0.32    0.67     3.48   3.46        10
          4.ป่าสักชลสิทธิ์      874  91        871   91        0    1.31     13.9  13.07        86
          รวม 4 อ่างฯ    18,190  74     11,501   47    21.01   21.19    29.35  34.03     6,511

อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 22 อ่าง ดังนี้

                                                                                     หน่วย : ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำ            ปริมาตรน้ำในอ่างฯ      ปริมาตรน้ำใช้การได้       ปริมาณน้ำไหล    ปริมาณน้ำระบาย    ปริมาณน้ำรับได้อีก
                                                                   ลงอ่าง
                    ปริมาตร  % ความจุ     ปริมาตร   % ความจุ      วันนี้    เมื่อ    วันนี้     เมื่อ
                        น้ำ     อ่างฯ         น้ำ      อ่างฯ             วาน            วาน
1.สิริกิติ์               7,803       82      4,953        52     7.78   7.81   7.06       7         1,707
2.แม่งัดฯ                272      103        250        94     0.47      0   0.41    0.65             0
3.กิ่วลม                 103       92         99        88     1.48   3.16      1    2.56             9
4.กิ่วคอหมา              191      112        185       109     0.48   1.09   0.21    1.65             0
5.แควน้อยฯ              759       99        723        94     0.32   0.67   3.46    3.46            10
6.ห้วยหลวง              123      104        118       100        0   0.03   0.05    0.05             0
7.จุฬาภรณ์               163       99        119        73      0.2   0.52   1.03    1.03             0
8.อุบลรัตน์             2,383       98      1,802        74     0.26      0   22.3   25.63             0
9.ลำปาว              1,248       87      1,163        81     1.12      0   1.12    0.97           182
10. ลำตะคอง            345      110        318       101     0.94   0.95   1.07    1.04             0
11.ลำพระเพลิง           105       95        104        94     0.05   0.19   0.37    0.52             4
12.มูลบน                115       82        108        77        0      0      0       0            26
13.ลำแซะ               244       89        237        86        0      0      0       0            31
14.สิรินธร             1,590       81        759        39     0.83   0.83      0       0           376
15.ป่าสักฯ               874       91        871        91        0   1.31   13.9   13.07            86
16.ทับเสลา              161      101        153        96     0.09   0.32   0.26    0.32             0
17.กระเสียว             247      103        207        86     0.24   0.67   0.06    0.84             0
18.ขุนด่านฯ              217       97        212        95     0.08   0.07   0.17    0.17             7
19.คลองสียัด             412       98        382        91        0      0      1     0.5             8
20.บางพระ               95       81         83        71     0.07   0.14   0.08    0.07            22
21.หนองปลาไหล          162       99        148        91     0.16   0.17   0.38    0.39             2
22.ประแสร์              244       98        224        90     0.09   0.09   0.21    0.21             4

2. สภาพน้ำท่า

ปริมาณน้ำในลำน้ำต่างๆ ตามสถานีสำรวจปริมาณน้ำท่า กรมชลประทาน พบว่ามีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้น แม่น้ำมูล อำเภอสะตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำท่วม

ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 1,056 ลบ.ม./วินาที(ลดลงจากเมื่อวาน 37 ลบ.ม./วินาที)

ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 818 ลบ.ม./วินาที (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 15ลบ.ม./วินาที)

รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก 230 ลบ.ม./วินาที (เท่ากับเมื่อวาน) และ รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันตก 224 ลบ.ม./วินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 1 ลบ.ม./วินาที)

ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก 206 ลบ.ม./วินาที(เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 87 ลบ.ม./วินาที)

การช่วยเหลือด้านการเกษตร

1. แจ้งเตือนพื้นที่น้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2553 จำนวน 1 ฉบับ

2. สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำ รถบรรทุก ดังนี้

2.1 เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ จำนวน 552 เครื่อง ในพื้นที่ 38 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 4 จังหวัด จำนวน 19 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด จำนวน 82 เครื่อง ภาคกลาง 14 จังหวัด 305 เครื่อง ภาคตะวันออก 1 จังหวัด จำนวน 4 เครื่อง ภาคใต้ 8 จังหวัด จำนวน 142 เครื่อง

2.2 เครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 84 เครื่อง ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี (17) กรุงเทพฯ(7) พระนครศรีอยุธยา (17) นครปฐม(20) สงขลา(23)

2.3 รถบรรทุก จำนวน 5 คัน ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา(5 คัน)

2.4 รถแบ็คโฮ จำนวน 21 คัน ได้แก่ จังหวัดลพบุรี(21 คัน)

2.5 รถบรรทุกเทท้าย 6 ตัน จำนวน 6 คัน ได้แก่ จังหวัดลพบุรี(6 คัน)

3. สนับสนุนพืชอาหารสัตว์ จำนวน 3,001,625 กิโลกรัม (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 637,795 กิโลกรัม) แร่ธาตุและเวชภัณฑ์ 6,691 ชุด (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 2,693 ชุด) และดูแลสุขภาพสัตว์ 557,333 ตัว (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 47,687 ตัว)

ผลกระทบด้านการเกษตร

ด้านพืช แบ่งเป็น 3 ช่วงภัย

1. ช่วงภัย วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ต.ค. 53) ประสบภัย จำนวน 54 จังหวัด คาดว่าจะเสียหาย 2,757,236 ไร่ ได้ดำเนินการสำรวจแล้ว (ณ วันที่ 19 พ.ย.53) พบว่าพื้นที่เสียหายแล้ว 1,137,460 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 1,047,476 ไร่ พืชไร่ 77,439 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 12,545 ไร่ เกษตรกร 120,319 ราย

2. ช่วงภัยวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 19 พฤศจิกายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 19 พ.ย. 53 ยกเว้น ภาคใต้) ประสบภัย จำนวน 51 จังหวัด คาดว่าจะเสียหาย 7,270,667 ไร่ แยกเป็น ข้าว 5,532,936 พืชไร่ 1,544,390 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 193,351 ไร่ เกษตรกร 597,775 ราย

3. ช่วงภัยวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ถึง ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 19 พ.ย. 53 เฉพาะภาคใต้ และไม่รวมพื้นที่ความเสียหายของยางพารา) ประสบภัย จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่จังหวัด กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ระนอง พัทลุง ปัตตานี ยะลา สุราษฎร์ธานี สตูล สงขลาคาดว่าจะเสียหาย 900,757 ไร่ แยกเป็น ข้าว 374,375 พืชไร่ 39,763 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 486,619 ไร่ เกษตรกร 331,732 ราย

พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย (ยางพารา) ช่วงภัยวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 14 พ.ย. 53) ประสบภัย จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่จังหวัดนราธิวาส กระบี่ พัทลุง ปัตตานี สตูล สงขลา ชุมพร ระนอง ยะลา ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี คาดว่าจะเสียหาย 212,074 ไร่

          ช่วงภัย                           เกษตรกร (ราย)                พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย (ไร่)
                                                                ข้าว         พืชไร่      พืชสวน        รวมทั้งสิ้น
          1 ส.ค. - 30 ก.ย.53                    293,947   2,441,369      283,617     32,250      2,757,236
          1 ต.ค. — 19 พ.ย.53                    597,775   5,532,936    1,544,390    193,351      7,270,677
          1 พ.ย. — ปัจจุบัน (ไม่รวมยางพารา)         331,732     374,375       39,763    486,619        900,757
          ยางพารา 1 พ.ย.— ปัจจุบัน(ภาคใต้)                -           -            -    212,074        212,074
          รวม                                 1,223,454   8,348,680    1,867,770    924,294     11,140,744

ด้านประมง แบ่งเป็นความเสียหายเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและเรือประมง ดังนี้

1. พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ แบ่งเป็น 2 ช่วงภัย

1.1 ช่วงภัย วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 10 พฤศจิกายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 23 พ.ย. 53 ยกเว้นภาคใต้) ประสบภัยทั้งสิ้น 55 จังหวัด คาดว่าจะเสียหาย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 148,563 ไร่ และกระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 580,306 ตารางเมตร เกษตรกร 89,799 ราย ได้ดำเนินการสำรวจแล้ว (ณ วันที่ 23 พ.ย. 53) พบว่าพื้นที่เพาะเลี้ยงเสียหายแล้ว 19,116 ไร่ และ 14,342 ตารางเมตร

1.2 ช่วงภัยวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ถึง ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 23 พ.ย. 53 เฉพาะภาคใต้) ประสบภัย จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่จังหวัดชุมพร พัทลุง พังงา ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส คาดว่าจะเสียหาย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 26,979 ไร่ และกระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 152,330 ตารางเมตร เกษตรกร 21,204 ราย

          ช่วงภัย                       จำนวน    เกษตรกร         พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย
                                      จังหวัด      (ราย)             ไร่       ตรม.
          1 ส.ค.— 23 พ.ย. 53             55     89,799        148,563    580,306
          1 พ.ย. - ปัจจุบัน                 12     21,204         26,979    152,330
          รวม                            67    111,003        175,542    732,636

2. เรือประมง

ช่วงภัย วันที่ 31 ตุลาคม ถึง 12 พฤศจิกายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 12 พ.ย. 53) ประสบภัย 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพังงา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี กระบี่ ตรัง พัทลุง ชุมพร จำนวน 1,096 ลำ แบ่งเป็น เรือประมงพานิช 67 ลำ เรือประมงพื้นบ้าน 1,029 ลำ

ด้านปศุสัตว์ แบ่งเป็น 2 ช่วงภัย

1. ช่วงภัย วันที่ 1 สิงหาคม 2553 ถึง 11 พฤศจิกายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 22 พ.ย. 53 ยกเว้น ภาคใต้) ประสบภัยทั้งสิ้น 41 จังหวัด คาดว่าจะเสียหาย เกษตรกร 160,194 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 22,366,676 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 433,857 ตัว สุกร 444,160 ตัว แพะ-แกะ 24,924 ตัว สัตว์ปีก 21,463,735 ตัว แปลงหญ้า 39,407 ไร่

2. ช่วงภัยวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ถึง ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 22 พ.ย. 53 เฉพาะภาคใต้) ประสบภัย จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พังงา ตรัง พัทลุง สตูล ปัตตานี นราธิวาส สงขลา กระบี่ ยะลา ชุมพร สุราษฎร์ธานี คาดว่าจะเสียหาย เกษตรกร 115,025 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 5,360,066 ตัว แบ่งเป็น โค - กระบือ 259,074 ตัว สุกร 237,172 ตัว แพะ - แกะ 52,026 ตัว สัตว์ปีก 4,811,794 ตัว แปลงหญ้า 6,305 ไร่

          ช่วงภัย                 เกษตรกร                 คาดว่าจะเสียหาย (ตัว)
                                  (ราย)   โค-กระบือ      สุกร  แพะ-แกะ       สัตว์ปีก         รวม   แปลงหญ้า (ไร่)
          1 ส.ค. — 22 พ.ย.53    160,194    433,857  444,160   24,924  21,463,735  22,366,676         39,407
          1 พ.ย. - ปัจจุบัน        115,025    259,074  237,172   52,026   4,811,794   5,360,066          6,305
          รวม                   275,219    692,931  681,332   76,950  26,275,529  27,726,742         45,712

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ