สรุปประเด็นสำคัญจากการอภิปรายรายงานแสดงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรี

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 9, 2011 15:04 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง สรุปประเด็นสำคัญจากการอภิปรายรายงานแสดงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ รัฐบาล

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปีที่หนึ่ง (วันที่ 30 ธันวาคม 2551 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2552) วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554)

คณะรัฐมนตรีรับทราบสรุปประเด็นสำคัญจากการอภิปรายรายงานแสดงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปีที่หนึ่ง (วันที่ 30 ธันวาคม 2551 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2552) เพื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ดังนี้

สาระสำคัญของเรื่อง

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 23 ปี 4 ครั้งที่ 10 (สมัยสามัญทั่วไป) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 ได้มีการพิจารณารายงานแสดงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปีที่หนึ่ง (วันที่ 30 ธันวาคม 2551 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2552) ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้สรุปประเด็นในส่วนที่เป็นเรื่องสำคัญที่เห็นสมควรเสนอคณะรัฐมนตรีทราบเบื้องต้น ดังนี้

1. จากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองในเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม 2553 ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการปฏิรูป โดยมีนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป โดยมี นายประเวศ วะสี เป็นประธานยังไม่มีผลการดำเนินการปรากฏออกมาอย่างชัดเจน

2. กรณีมีผู้ยื่นร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีว่ามีหนังสือพิมพ์ต่างประเทศและเว็บไซต์วิกีลิกส์นำบทสนทนาของบุคคลระดับสูงของไทย 3 คนที่สนทนากับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยในลักษณะเข้าข่ายประทุษร้ายต่อองค์รัชทายาทและมีผู้เข้าชมเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก แต่ปรากฏว่าไม่มีการดำเนินการใดๆ เป็นการแสดงถึงการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และเลือกปฏิบัติ

3. ปัญหาสินค้าราคาแพง สินค้ามีราคาแพงโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันปาล์มที่ประสบปัญหาขาดตลาด ซึ่งเกิดจากการทุจริตและมีการกักตุนสินค้า รัฐบาลจึงควรตรวจสอบกรณีดังกล่าว และบริหารจัดการไม่ให้เกิดกรณีกับพืชและสินค้าจำเป็นด้านอาหารประเภทอื่นอีก

4. การดำเนินนโยบายและโครงการสำคัญของรัฐบาล

4.1 โครงการต้นกล้าอาชีพ ตั้งงบประมาณไว้จำนวน 6,900 ล้านบาท แต่มีการเบิกจ่ายเพียง 2,705 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 40

4.2 โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน ตั้งงบประมาณ 15,200 ล้านบาท แต่ใช้จริงเพียง 5,000 ล้านบาท และมีการชะลอโครงการเนื่องจากถูกตรวจสอบความไม่โปร่งใสและทุจริตของโครงการ

4.3 การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีจำนวนผู้เป็นหนี้ทั้งหมด 600,000 ราย แต่สามารถแก้ไขปัญหาได้เพียง 390,000 ราย

4.4 การดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งรอบ 2 ตั้งงบประมาณมูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท มีการอนุมัติวงเงินโดยไม่มีโครงการรองรับ ทั้งนี้ ได้อนุมัติโครงการไปเพียง 491 โครงการ วงเงิน 349, 960 ล้านบาท แต่มีการเบิกจ่ายงบประมาณเพียง 261,936 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18 ของงบประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งถือว่าล้มเหลว

4.5 การจัดตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ยังไม่มีการพัฒนาคุณภาพด้านบุคลากรโดยเฉพาะการผลิตแพทย์และพยาบาลไปประจำในโรงพยาบาลดังกล่าว

4.6 การจัดสวัสดิการให้ผู้พิจารณาและผู้ทุพพลภาพ ที่ผ่านมารัฐบาลมีเงินช่วยเหลือผู้ดูแลคนพิการประมาณ 15,000 อัตรา ในปีนี้และปีต่อไปรัฐบาลจะตัดงบประมาณผู้ดูแลคนพิการเหลือประมาณ 1,500 อัตรา ทำให้ผู้ดูแลคนพิการกว่า 10,000 คน กำลังจะถูกทอดทิ้ง

4.7 การแก้ไขปัญหายาเสพติด มียาบ้าแพร่ระบาดอย่างรุนแรงซึ่งรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

4.8 การดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศไทยภายใต้โครงการประชาวิวัฒน์ เป็นนโยบายที่แก้ไขปัญหาเฉพาะแก่ประชาชนในกรุงเทพมหานคร ไม่ได้แก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ นอกจากนี้ ยังมีบางโครงการที่ประชาชนไม่เห็นด้วย เช่น โครงการจำหน่ายไข่ไก่เป็นกิโลกรัม

5. การทุจริตในการดำเนินโครงการต่างๆ และละเลยในการแก้ปัญหาการทุจริต ข้อร้องเรียนหลายเรื่องยังไม่มีผลการดำเนินการที่ชัดเจน เช่น การทุจริตกรณีปลากระป๋องเน่า โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชนซึ่งมีการนำงบประมาณไปจัดซื้อสิ่งของที่ไม่ตรงกับความต้องการของชุมชนและมีราคาแพงกว่าความเป็นจริง การจัดซื้อจัดจ้างโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง โครงการก่อสร้างถนนไร้ฝุ่นซึ่งผลประโยชน์ตกแก่ผู้รับเหมาก่อสร้างและมีการทุบถนนที่มีสภาพดีอยู่แล้วเพื่อก่อสร้างใหม่ โครงการจัดหาระบบให้บริการประชาชนทางด้านการทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่ การจัดซื้อรถหุ้มเกราะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

อนึ่ง ในส่วนของการสรุปประเด็นการอภิปรายเกี่ยวกับผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐในแต่ละมาตราตั้งแต่มาตรา 77 ถึงมาตรา 87 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะสรุปผลและนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 มีนาคม 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ