คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ผูกพันงบประมาณจากงบกลางเพื่อดำเนินโครงการฟื้นฟูสัญลักษณ์ไทยในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในวงเงิน 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 210 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 35 บาท) ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2550 ถึงปีงบประมาณ 2552 และอนุมัติให้ กต. จัดทำข้อตกลงกับฝ่ายรัสเซียเพื่อดำเนินโครงการซ่อมแซมและฟื้นฟูพระราชวังปีเตอร์ฮอฟร่วมกัน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ สำหรับภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เพื่อสมทบในส่วนของค่าสำรวจและออกแบบ ให้กระทรวงการต่างประเทศเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ซึ่งได้จัดสรรงบประมาณรองรับเพื่อการนี้ไว้แล้วจำนวน 12,200,000 บาท ภายใต้โครงการสนับสนุนภารกิจต่างประเทศแบบบูรณาการ ส่วนวงเงินงบประมาณที่เหลือซึ่งจะต้องใช้จ่ายในปีต่อๆ ไป ให้กระทรวงการต่างประเทศเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณในแต่ละปีตามขั้นตอนต่อไป
กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า
1. ในปี 2550 เป็นปีครบรอบ 110 ปีของการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหพันธรัฐรัสเซียของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสหพันธรัฐรัสเซีย เพื่อเฉลิมฉลองวโรกาสนี้ กต. และทางการรัสเซียเห็นพ้องที่จะจัดทำโครงการฟื้นฟูสัญลักษณ์ไทยในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยการบูรณะส่วนปีกซ้ายของพระราชวังปีเตอร์ฮอฟ ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ระหว่างการเสด็จประพาสรัสเซียในปี 2440 เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่เสด็จประพาสยุโรปและเป็นผู้วางวิเทโศบายที่ทำให้ประเทศไทยดำรงเอกราชมาจนถึงปัจจุบัน
2. คณะผู้แทนไทยนำโดย รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร ได้เดินทางไปเยี่ยมชมและสำรวจพระราชวังปีเตอร์ฮอฟ ระหว่างวันที่ 4-8 พฤษภาคม 2549 เพื่อประเมินความคุ้มค่าทางการเมือง เศรษฐกิจ และผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับ ซึ่งมีข้อสรุปตรงกันว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวแม้จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงแต่จะให้ผลคุ้มค่าอย่างยิ่งในหลายมิติ โดยเฉพาะการทูตวัฒนธรรมในเชิงรุกเพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของไทย รวมทั้งช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย — รัสเซียในภาพรวม
3. ราชเลขาธิการ (นายอาสา สารสิน) ไปเยี่ยมชมพระราชวังปีเตอร์ฮอฟ ระหว่างวันที่ 9 — 15 กันยายน เพื่อพิจารณารายละเอียดและความเป็นไปได้ในการบูรณะซ่อมแซม และเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2549 ราชเลขาธิการได้หารือร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ผู้แทนกรมศิลปากร ผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้แทนกรมยุโรป กต. โดยเห็นพ้องว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดีและสมควรได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง โดยเห็นควรให้เอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายรัสเซียและแจ้ง กต. เพื่อเสนอให้รัฐบาลให้ความเห็นชอบเพื่ออนุมัติงบประมาณต่อไป
4. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ได้หารือกับพิพิธภัณฑ์ปีเตอร์ฮอฟสถาบัน Leningrad Institute for Project Restoration กระทรวงวัฒนธรรมรัสเซีย และนาย Yuri Kovalchuk กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ของไทยประจำนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
4.1 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการอยู่ในวงเงินราว 400 ล้านบาท ใช้เวลาดำเนินการสำรวจ ออกแบบ และก่อสร้างซ่อมแซม ประมาณ 3 ปี
4.2 ฝ่ายรัสเซียเสนอให้รัฐบาลไทยพิจารณารับภาระค่าใช้จ่ายในวงเงินไม่เกิน 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกระทรวงวัฒนธรรมสหพันธรัฐรัสเซียร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นาย Yuri Kovalchuk กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ของไทยประจำนครเซนต์ปีเตอร์เบิร์กจะบริจาคทรัพย์ส่วนตัวเพิ่มเติม 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และพร้อมจะจัดหางบประมาณเพิ่มเติมหากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมสหพันธรัฐเซียขอให้ฝ่ายไทยมีหนังสือแจ้งยืนยันข้อเสนอความร่วมมือดังกล่าวเพื่อขออนุมัติงบประมาณในส่วนของรัสเซียต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2550--จบ--
กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า
1. ในปี 2550 เป็นปีครบรอบ 110 ปีของการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหพันธรัฐรัสเซียของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสหพันธรัฐรัสเซีย เพื่อเฉลิมฉลองวโรกาสนี้ กต. และทางการรัสเซียเห็นพ้องที่จะจัดทำโครงการฟื้นฟูสัญลักษณ์ไทยในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยการบูรณะส่วนปีกซ้ายของพระราชวังปีเตอร์ฮอฟ ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ระหว่างการเสด็จประพาสรัสเซียในปี 2440 เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่เสด็จประพาสยุโรปและเป็นผู้วางวิเทโศบายที่ทำให้ประเทศไทยดำรงเอกราชมาจนถึงปัจจุบัน
2. คณะผู้แทนไทยนำโดย รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร ได้เดินทางไปเยี่ยมชมและสำรวจพระราชวังปีเตอร์ฮอฟ ระหว่างวันที่ 4-8 พฤษภาคม 2549 เพื่อประเมินความคุ้มค่าทางการเมือง เศรษฐกิจ และผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับ ซึ่งมีข้อสรุปตรงกันว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวแม้จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงแต่จะให้ผลคุ้มค่าอย่างยิ่งในหลายมิติ โดยเฉพาะการทูตวัฒนธรรมในเชิงรุกเพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของไทย รวมทั้งช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย — รัสเซียในภาพรวม
3. ราชเลขาธิการ (นายอาสา สารสิน) ไปเยี่ยมชมพระราชวังปีเตอร์ฮอฟ ระหว่างวันที่ 9 — 15 กันยายน เพื่อพิจารณารายละเอียดและความเป็นไปได้ในการบูรณะซ่อมแซม และเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2549 ราชเลขาธิการได้หารือร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ผู้แทนกรมศิลปากร ผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้แทนกรมยุโรป กต. โดยเห็นพ้องว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดีและสมควรได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง โดยเห็นควรให้เอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายรัสเซียและแจ้ง กต. เพื่อเสนอให้รัฐบาลให้ความเห็นชอบเพื่ออนุมัติงบประมาณต่อไป
4. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ได้หารือกับพิพิธภัณฑ์ปีเตอร์ฮอฟสถาบัน Leningrad Institute for Project Restoration กระทรวงวัฒนธรรมรัสเซีย และนาย Yuri Kovalchuk กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ของไทยประจำนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
4.1 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการอยู่ในวงเงินราว 400 ล้านบาท ใช้เวลาดำเนินการสำรวจ ออกแบบ และก่อสร้างซ่อมแซม ประมาณ 3 ปี
4.2 ฝ่ายรัสเซียเสนอให้รัฐบาลไทยพิจารณารับภาระค่าใช้จ่ายในวงเงินไม่เกิน 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกระทรวงวัฒนธรรมสหพันธรัฐรัสเซียร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นาย Yuri Kovalchuk กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ของไทยประจำนครเซนต์ปีเตอร์เบิร์กจะบริจาคทรัพย์ส่วนตัวเพิ่มเติม 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และพร้อมจะจัดหางบประมาณเพิ่มเติมหากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมสหพันธรัฐเซียขอให้ฝ่ายไทยมีหนังสือแจ้งยืนยันข้อเสนอความร่วมมือดังกล่าวเพื่อขออนุมัติงบประมาณในส่วนของรัสเซียต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2550--จบ--