คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของกระทรวงพาณิชย์ ตามที่ได้จัดทำบันทึกความตกลงว่าด้วยความร่วมมือปฏิบัติงานเกี่ยวกับการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างหน่วยงานภาครัฐ 13 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมศุลกากร กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายใน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลและมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2545
กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำแผนปฏิบัติการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีสาระสำคัญ สรุปได้ ดังนี้
1. มาตรการควบคุมการนำเข้าเครื่องจักรผลิตซีดี
1.1 กำหนดให้เครื่องจักรที่สามารถใช้เพื่อประโยชน์ในการละเมิดลิขสิทธิ์แผ่นซีดีเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการนำเข้า โดยผู้นำเข้าจะต้องเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ (กรมการค้าต่างประเทศ)
1.2 กำหนดให้เครื่องจักรที่นำเข้าจะต้องมีเครื่องนับจำนวนแผ่นซีดีที่ผลิตได้ติดตั้งไว้กับตัวเครื่องจักรและในการนำเข้าชิ้นส่วนเครื่องจักรผลิตซีดีต้องขออนุญาตในการนำเข้า (อยู่ในระหว่างเตรียมการแก้ไขเพิ่มเติมกฎเกณฑ์โดยกรมการค้าต่างประเทศ)
1.3 ดำเนินการขอความร่วมมือประเทศผู้ผลิตเครื่องจักรผลิตซีดีและชิ้นส่วนเครื่องจักรผลิตซีดีรวมประมาณ 11 ประเทศ ประกอบด้วย เนเธอร์แลนด์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สวิสเซอร์แลนด์ สวีเดน อิตาลี ไต้หวัน และฮ่องกง ให้จำหน่ายสินค้าดังกล่าวแก่ผู้ซื้อสินค้าที่มีหนังสือได้รับอนุญาตนำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศมาแสดงเท่านั้น (อยู่ระหว่างการดำเนินการระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ)
2. มาตรการควบคุมการผลิตซีดี
2.1 กำหนดให้ผู้ครอบครองเครื่องจักรที่สามารถใช้เพื่อประโยชน์ในการละเมิดลิขสิทธิ์คอมแพ็กดิสก์ต้องแจ้งปริมาณเครื่องจักรที่อยู่ในครอบครองและสถานที่เก็บเครื่องจักร (กรมการค้าภายใน)
2.2 กำหนดให้ผู้ผลิตคอมแพ็กดิสก์ต้องแจ้งปริมาณการผลิต ปริมาณการรับจ้างผลิต ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณการส่งมอบปริมาณคงเหลือ ณ วันสิ้นเดือน รวมทั้งแจ้งรายชื่อและที่อยู่ของผู้ว่าจ้างผลิตหรือผู้ซื้อและปริมาณการว่าจ้างผลิตหรือซื้อ (กรมการค้าภายใน)
2.3 กำหนดให้ผู้ว่าจ้างผลิตแจ้งปริมาณการว่าจ้างผลิต ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณคงเหลือ ณ วันสิ้นเดือน รายชื่อและที่อยู่ของผู้รับจ้างผลิต (กรมการค้าภายใน)
2.4 กำหนดให้ผู้ผลิตหรือผู้ว่าจ้างจัดทำบัญชีคุมสินค้าแสดงปริมาณการผลิต ปริมาณการรับจ้างผลิตปริมาณการว่าจ้างผลิต ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณคงเหลือรายวัน โดยต้องเก็บบัญชีพร้อมหลักฐานไว้ ณ สำนักงานแห่งใหญ่ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ทุกเวลา (กรมการค้าภายใน)
2.5 กำหนดให้ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าสินค้าแถบบันทึกเสียง คอมแพ็กดิสก์ แถบบันทึกภาพ แสดงราคาจำหน่ายปลีก (กรมการค้าภายใน)
2.6 กำหนดให้ผู้ครอบครองเครื่องจักรผลิตภัณฑ์ซีดีต้องมีเครื่องวัดจำนวนแผ่นผลิตภัณฑ์ซีดีที่ผลิตได้ (กรมสรรพากร)
2.7 กำหนดให้โรงงานผลิตซีดีอยู่ในการกำกับดูแล (กรมโรงงานอุตสาหกรรม)
2.8 กำกับดูแลการใช้กระแสไฟฟ้า (การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
2.9 กำกับดูแลสินค้าที่ผลิตเพื่อขายโดยโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานต้องปิดฉลาก (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค)
2.10 กำหนดให้บุคคลธรรมดาหรือห้างหุ้นส่วนที่มิได้จดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิต ซึ่งสินค้าประเภทแถบเสียงเพลง แถบวีดีทัศน์ และแผ่นซีดีเป็นผู้มีหน้าที่ทำบัญชี (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
2.11 กำหนดให้ผู้ครอบครองเครื่องจักรผลิตซีดีต้องจดทะเบียนพาณิชย์ (กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมการค้าภายใน)
3. มาตรการควบคุมการจำหน่ายสินค้า
3.1 กำหนดให้ร้านค้าและแผงลอยที่ขายแผ่นซีดีที่มีภาพต้องมีใบอนุญาตค้า (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
3.2 กำหนดให้แผ่นวีดีโอเกมส์ เลเซอร์ดิส ดิจิตอลวีดีโอดิส วิดีโอซีดี และซีดีรอม ต้องผ่านการเซ็นเซอร์ (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
3.3 กำหนดให้บุคคลธรรมดาหรือห้างหุ้นส่วนที่มิได้จดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายแผ่นซีดีเป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
3.4 กำหนดให้ผู้ประกอบพาณิชยกิจขายหรือให้เช่าซีดีเพื่อการบันเทิงต้องจดทะเบียนพาณิชย์(กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
3.5 กำหนดให้ผู้จำหน่ายคอมแพ็กดิสก์ แถบบันทึกเสียง และแถบบันทึกภาพ จำหน่ายคอมแพ็กดิสก์แถบบันทึกเสียงและแถบบันทึกภาพ ที่บรรจุในซองหรือภาชนระบรรจุ โดยคอมแพ็กดิสก์ แถบบันทึกเสียงและแถบบันทึกภาพ และซองหรือภาชนะบรรจุที่มีชื่อผู้ผลิตหรือชื่อผู้ว่าจ้างผลิตสินค้าดังกล่าว ชื่อทางการค้าหรือเครื่องหมายการค้าของเจ้าของลิขสิทธิ์ ทั้งนี้ ผู้จำหน่ายต้องจดทะเบียนพาณิชย์ด้วย (กรมการค้าภายใน)
3.6 ส่งรายชื่อร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของจริง และสถานที่น่าสงสัยว่าจะมีการจำหน่ายสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการแล้ว
4. มาตรการให้เงินรางวัลและเงินสินบน
ได้มีการยกร่างระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการจ่ายเงินรางวัลและเงินสินบนคดีผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซีดีที่ละเมิดต่อกฎหมาย พ.ศ. …. ขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยมีสาระสำคัญ คือ
4.1 เงินรางวัลจะจ่ายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ส่วนเงินสินบนจะจ่ายให้แก่ผู้แจ้งข้อมูลการกระทำละเมิด
4.2 กรณีที่เป็นโรงงานที่ยึดหรืออายัดเครื่องจักรเป็นของกลางในคดีได้ 1 เครื่อง จะจ่ายเงินรางวัล1,000,000 บาท หากยึดหรืออายัดได้ 2 เครื่อง จะจ่ายเงินรางวัล 2,000,000 บาท
4.3 กรณีที่เป็นแหล่งเก็บหรือแหล่งจำหน่ายที่สามารถยึดหรือายัดผลิตภัณฑ์ซีดีเป็นของกลางในคดีได้ตั้งแต่ 300 ชิ้นขึ้นไป จะจ่ายตามจำนวนของกลางชิ้นละ 3 บาท
4.4 เงินสินบนจะจ่ายในอัตราร้อยละ 10 ของเงินรางวัลตาม 4.2 และ 4.3
4.5 ระยะเวลาดำเนินการ จะมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2546 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2546
4.6 เมื่อระเบียบดังกล่าวได้รับความเห็นชอบแล้วจะเสนอของบกลางจากรัฐบาลเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่อไป
5. มาตรการปราบปราม
5.1 จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2546 และจะประเมินผลประมาณสิ้นเดือนมิถุนายน 2546
5.2 การดำเนินการกับโรงงานหรือผู้ผลิตมีแนวทาง ดังนี้
1) จัดกำลังร่วมของเจ้าหน้าที่ 13 หน่วย ตามความเหมาะสมกับภารกิจออกตรวจสอบ ตรวจค้นและจับกุมอย่างต่อเนื่อง ทั้งเขตในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยประสานกับเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาตามความจำเป็นและเหมาะสม
2) กลุ่มเป้าหมายได้แก่ โรงงานผลิตซีดีที่นำเข้าเครื่องจักร โดยถูกต้องประมาณ 54 โรงงาน โรงงานผลิตซีดีอื่น (ตามที่ได้รับข้อมูล) โรงงานผลิตสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า (ตามที่ได้รับข้อมูล)
5.3 การดำเนินการกับผู้ค้าปลีกและผู้ค้าส่ง มีแนวทาง ดังนี้
1) จะทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ค้าทราบถึงอัตราโทษตามกฎหมายเพื่อให้ลด ละ เลิก ก่อนปราบปราม
2) จัดกำลังร่วมของเจ้าหน้าที่ 13 หน่วยงานตามความเหมาะสมกับภารกิจออกตรวจสอบ ตรวจค้นและจับกุมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยประสานกับเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาตามความจำเป็นและเหมาะสม
3) กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่
- ย่านการค้าและศูนย์การค้าที่สำคัญในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวม 12 แห่ง ได้แก่ พันธ์ทิพย์ ตะวันนา มาบุญครอง คลองถม สะพานเหล็ก ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เซียร์รังสิต พัฒนพงศ์ เสรีเซ็นเตอร์ซีคอนสแควร์ ฟอร์จูนทาวน์ และริมถนนสุขุมวิท ระหว่างซอย 3 ถึงซอย 15
- ย่านการค้า ศูนย์การค้าและตลาดนัด เช่น สำเพ็ง บ้านหม้อ ตลอดใหม่ดอนเมือง ตลาดปีนังถนนข้าวสาร โบ๊เบ๊ทาวเวอร์ ตลาดโบ๊เบ๊ สยามสแควร์ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ประตูน้ำ ใบหยก ซอยละลายทรัพย์ ตลาดนัดหลังการบินไทย และตลาดสวนจตุจักร เป็นต้น
- ย่านการค้า ศูนย์การค้า และตลาดนัดในต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ แม่สาย แม่สอด พัทยาหัวหิน สมุย หาดใหญ่ และภูเก็ต เป็นต้น
6. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
6.1 ทำให้การผลิตและจำหน่ายซีดีมีระบบการค้าที่ชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรม
6.2 ทำให้ภาครัฐมีฐานผู้เสียภาษีเพิ่มขึ้น และสามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น
6.3 ทำให้ลดปัญหาทางการค้าภายในประเทศ และปัญหาทางการค้าระหว่างประเทศ
6.4 หากสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ลดลง คาดว่าเจ้าของลิขสิทธิ์จะลดราคาสินค้าให้อยู่ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งทำให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับประโยชน์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 เมษายน 2546--จบ--
-ปส-
กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำแผนปฏิบัติการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีสาระสำคัญ สรุปได้ ดังนี้
1. มาตรการควบคุมการนำเข้าเครื่องจักรผลิตซีดี
1.1 กำหนดให้เครื่องจักรที่สามารถใช้เพื่อประโยชน์ในการละเมิดลิขสิทธิ์แผ่นซีดีเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการนำเข้า โดยผู้นำเข้าจะต้องเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ (กรมการค้าต่างประเทศ)
1.2 กำหนดให้เครื่องจักรที่นำเข้าจะต้องมีเครื่องนับจำนวนแผ่นซีดีที่ผลิตได้ติดตั้งไว้กับตัวเครื่องจักรและในการนำเข้าชิ้นส่วนเครื่องจักรผลิตซีดีต้องขออนุญาตในการนำเข้า (อยู่ในระหว่างเตรียมการแก้ไขเพิ่มเติมกฎเกณฑ์โดยกรมการค้าต่างประเทศ)
1.3 ดำเนินการขอความร่วมมือประเทศผู้ผลิตเครื่องจักรผลิตซีดีและชิ้นส่วนเครื่องจักรผลิตซีดีรวมประมาณ 11 ประเทศ ประกอบด้วย เนเธอร์แลนด์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สวิสเซอร์แลนด์ สวีเดน อิตาลี ไต้หวัน และฮ่องกง ให้จำหน่ายสินค้าดังกล่าวแก่ผู้ซื้อสินค้าที่มีหนังสือได้รับอนุญาตนำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศมาแสดงเท่านั้น (อยู่ระหว่างการดำเนินการระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ)
2. มาตรการควบคุมการผลิตซีดี
2.1 กำหนดให้ผู้ครอบครองเครื่องจักรที่สามารถใช้เพื่อประโยชน์ในการละเมิดลิขสิทธิ์คอมแพ็กดิสก์ต้องแจ้งปริมาณเครื่องจักรที่อยู่ในครอบครองและสถานที่เก็บเครื่องจักร (กรมการค้าภายใน)
2.2 กำหนดให้ผู้ผลิตคอมแพ็กดิสก์ต้องแจ้งปริมาณการผลิต ปริมาณการรับจ้างผลิต ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณการส่งมอบปริมาณคงเหลือ ณ วันสิ้นเดือน รวมทั้งแจ้งรายชื่อและที่อยู่ของผู้ว่าจ้างผลิตหรือผู้ซื้อและปริมาณการว่าจ้างผลิตหรือซื้อ (กรมการค้าภายใน)
2.3 กำหนดให้ผู้ว่าจ้างผลิตแจ้งปริมาณการว่าจ้างผลิต ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณคงเหลือ ณ วันสิ้นเดือน รายชื่อและที่อยู่ของผู้รับจ้างผลิต (กรมการค้าภายใน)
2.4 กำหนดให้ผู้ผลิตหรือผู้ว่าจ้างจัดทำบัญชีคุมสินค้าแสดงปริมาณการผลิต ปริมาณการรับจ้างผลิตปริมาณการว่าจ้างผลิต ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณคงเหลือรายวัน โดยต้องเก็บบัญชีพร้อมหลักฐานไว้ ณ สำนักงานแห่งใหญ่ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ทุกเวลา (กรมการค้าภายใน)
2.5 กำหนดให้ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าสินค้าแถบบันทึกเสียง คอมแพ็กดิสก์ แถบบันทึกภาพ แสดงราคาจำหน่ายปลีก (กรมการค้าภายใน)
2.6 กำหนดให้ผู้ครอบครองเครื่องจักรผลิตภัณฑ์ซีดีต้องมีเครื่องวัดจำนวนแผ่นผลิตภัณฑ์ซีดีที่ผลิตได้ (กรมสรรพากร)
2.7 กำหนดให้โรงงานผลิตซีดีอยู่ในการกำกับดูแล (กรมโรงงานอุตสาหกรรม)
2.8 กำกับดูแลการใช้กระแสไฟฟ้า (การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
2.9 กำกับดูแลสินค้าที่ผลิตเพื่อขายโดยโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานต้องปิดฉลาก (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค)
2.10 กำหนดให้บุคคลธรรมดาหรือห้างหุ้นส่วนที่มิได้จดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิต ซึ่งสินค้าประเภทแถบเสียงเพลง แถบวีดีทัศน์ และแผ่นซีดีเป็นผู้มีหน้าที่ทำบัญชี (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
2.11 กำหนดให้ผู้ครอบครองเครื่องจักรผลิตซีดีต้องจดทะเบียนพาณิชย์ (กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมการค้าภายใน)
3. มาตรการควบคุมการจำหน่ายสินค้า
3.1 กำหนดให้ร้านค้าและแผงลอยที่ขายแผ่นซีดีที่มีภาพต้องมีใบอนุญาตค้า (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
3.2 กำหนดให้แผ่นวีดีโอเกมส์ เลเซอร์ดิส ดิจิตอลวีดีโอดิส วิดีโอซีดี และซีดีรอม ต้องผ่านการเซ็นเซอร์ (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
3.3 กำหนดให้บุคคลธรรมดาหรือห้างหุ้นส่วนที่มิได้จดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายแผ่นซีดีเป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
3.4 กำหนดให้ผู้ประกอบพาณิชยกิจขายหรือให้เช่าซีดีเพื่อการบันเทิงต้องจดทะเบียนพาณิชย์(กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
3.5 กำหนดให้ผู้จำหน่ายคอมแพ็กดิสก์ แถบบันทึกเสียง และแถบบันทึกภาพ จำหน่ายคอมแพ็กดิสก์แถบบันทึกเสียงและแถบบันทึกภาพ ที่บรรจุในซองหรือภาชนระบรรจุ โดยคอมแพ็กดิสก์ แถบบันทึกเสียงและแถบบันทึกภาพ และซองหรือภาชนะบรรจุที่มีชื่อผู้ผลิตหรือชื่อผู้ว่าจ้างผลิตสินค้าดังกล่าว ชื่อทางการค้าหรือเครื่องหมายการค้าของเจ้าของลิขสิทธิ์ ทั้งนี้ ผู้จำหน่ายต้องจดทะเบียนพาณิชย์ด้วย (กรมการค้าภายใน)
3.6 ส่งรายชื่อร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของจริง และสถานที่น่าสงสัยว่าจะมีการจำหน่ายสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการแล้ว
4. มาตรการให้เงินรางวัลและเงินสินบน
ได้มีการยกร่างระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการจ่ายเงินรางวัลและเงินสินบนคดีผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซีดีที่ละเมิดต่อกฎหมาย พ.ศ. …. ขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยมีสาระสำคัญ คือ
4.1 เงินรางวัลจะจ่ายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ส่วนเงินสินบนจะจ่ายให้แก่ผู้แจ้งข้อมูลการกระทำละเมิด
4.2 กรณีที่เป็นโรงงานที่ยึดหรืออายัดเครื่องจักรเป็นของกลางในคดีได้ 1 เครื่อง จะจ่ายเงินรางวัล1,000,000 บาท หากยึดหรืออายัดได้ 2 เครื่อง จะจ่ายเงินรางวัล 2,000,000 บาท
4.3 กรณีที่เป็นแหล่งเก็บหรือแหล่งจำหน่ายที่สามารถยึดหรือายัดผลิตภัณฑ์ซีดีเป็นของกลางในคดีได้ตั้งแต่ 300 ชิ้นขึ้นไป จะจ่ายตามจำนวนของกลางชิ้นละ 3 บาท
4.4 เงินสินบนจะจ่ายในอัตราร้อยละ 10 ของเงินรางวัลตาม 4.2 และ 4.3
4.5 ระยะเวลาดำเนินการ จะมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2546 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2546
4.6 เมื่อระเบียบดังกล่าวได้รับความเห็นชอบแล้วจะเสนอของบกลางจากรัฐบาลเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่อไป
5. มาตรการปราบปราม
5.1 จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2546 และจะประเมินผลประมาณสิ้นเดือนมิถุนายน 2546
5.2 การดำเนินการกับโรงงานหรือผู้ผลิตมีแนวทาง ดังนี้
1) จัดกำลังร่วมของเจ้าหน้าที่ 13 หน่วย ตามความเหมาะสมกับภารกิจออกตรวจสอบ ตรวจค้นและจับกุมอย่างต่อเนื่อง ทั้งเขตในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยประสานกับเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาตามความจำเป็นและเหมาะสม
2) กลุ่มเป้าหมายได้แก่ โรงงานผลิตซีดีที่นำเข้าเครื่องจักร โดยถูกต้องประมาณ 54 โรงงาน โรงงานผลิตซีดีอื่น (ตามที่ได้รับข้อมูล) โรงงานผลิตสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า (ตามที่ได้รับข้อมูล)
5.3 การดำเนินการกับผู้ค้าปลีกและผู้ค้าส่ง มีแนวทาง ดังนี้
1) จะทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ค้าทราบถึงอัตราโทษตามกฎหมายเพื่อให้ลด ละ เลิก ก่อนปราบปราม
2) จัดกำลังร่วมของเจ้าหน้าที่ 13 หน่วยงานตามความเหมาะสมกับภารกิจออกตรวจสอบ ตรวจค้นและจับกุมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยประสานกับเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาตามความจำเป็นและเหมาะสม
3) กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่
- ย่านการค้าและศูนย์การค้าที่สำคัญในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวม 12 แห่ง ได้แก่ พันธ์ทิพย์ ตะวันนา มาบุญครอง คลองถม สะพานเหล็ก ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เซียร์รังสิต พัฒนพงศ์ เสรีเซ็นเตอร์ซีคอนสแควร์ ฟอร์จูนทาวน์ และริมถนนสุขุมวิท ระหว่างซอย 3 ถึงซอย 15
- ย่านการค้า ศูนย์การค้าและตลาดนัด เช่น สำเพ็ง บ้านหม้อ ตลอดใหม่ดอนเมือง ตลาดปีนังถนนข้าวสาร โบ๊เบ๊ทาวเวอร์ ตลาดโบ๊เบ๊ สยามสแควร์ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ประตูน้ำ ใบหยก ซอยละลายทรัพย์ ตลาดนัดหลังการบินไทย และตลาดสวนจตุจักร เป็นต้น
- ย่านการค้า ศูนย์การค้า และตลาดนัดในต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ แม่สาย แม่สอด พัทยาหัวหิน สมุย หาดใหญ่ และภูเก็ต เป็นต้น
6. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
6.1 ทำให้การผลิตและจำหน่ายซีดีมีระบบการค้าที่ชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรม
6.2 ทำให้ภาครัฐมีฐานผู้เสียภาษีเพิ่มขึ้น และสามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น
6.3 ทำให้ลดปัญหาทางการค้าภายในประเทศ และปัญหาทางการค้าระหว่างประเทศ
6.4 หากสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ลดลง คาดว่าเจ้าของลิขสิทธิ์จะลดราคาสินค้าให้อยู่ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งทำให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับประโยชน์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 เมษายน 2546--จบ--
-ปส-