คณะรัฐมนตรีอนุมัติร่างแผนแม่บทกระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2547 - 2549) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้กระทรวงยุติธรรมรับไปปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎหมายฯ) รวมทั้งรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาและให้ขอความร่วมมือจากองค์กรอิสระในกระบวนการยุติธรรมนำกรอบเนื้อหาสาระของแผนไปใช้ประกอบการพิจารณาจัดทำแผนการดำเนินงานให้มีความสอดคล้องสนับสนุนและเป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย และเห็นชอบให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณแก่องค์กรต่าง ๆ ในกระบวนการยุติธรรม โดยยึดตามวัตถุประสงค์ เป้าหมาย กรอบแนวทางและแผนงานที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทกระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2547 - 2549) รวมทั้งเห็นชอบให้กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักกิจการยุติธรรมเป็นองค์กรรับผิดชอบในการประสาน ติดตาม บูรณาการ ประเมินผล และรายงานผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทกระบวนการยุติธรรมแห่งชาตินี้ต่อคณะรัฐมนตรีทุกปี
สาระของแผนประกอบด้วยวิสัยทัศน์ พันธกิจ วัตถุประสงค์ เป้าหมายรวม และยุทธศาสตร์การพัฒนากระบวนการยุติธรรม 10 ด้าน รวมทั้งแนวทางการปรับปรุงองค์กรและกลไกในกระบวนการยุติธรรม การแปลงแผนสู่การปฏิบัติการติดตามและประเมินผล ดังนี้
1. วิสัยทัศน์
กระบวนการยุติธรรมมีการพัฒนาการอำนวยความยุติธรรมอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ รวดเร็วโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีการพัฒนาโครงสร้าง และระบบงานยุติธรรมให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และมีความเป็นสากลเพื่อก่อให้เกิดสังคมที่มีคุณภาพ มีความเสมอภาคเป็นธรรม สมานฉันท์ และสงบสุข ก่อให้เกิดดุลยภาพระหว่างการบังคับใช้กฎหมายและการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เปิดโอกาสให้มีระบบการมีส่วนร่วมและความร่วมมือของทุกภาคส่วนในสังคมในการอำนวยความยุติธรรม ตลอดจนให้ความช่วยเหลือคนยากจนและผู้ด้อยโอกาสให้ได้รับความเป็นธรรมเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
2. พันธกิจ
1) เร่งปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมองค์รวมด้วยการปรับเปลี่ยนกลไกและวิธีการปฏิบัติงานสู่หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และการบริหารเชิงกลยุทธ์ ด้วยการเรียนรู้เชิงนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างเสมอภาค
2) มุ่งส่งเสริมและพัฒนาระบบและกลไกที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ชุมชน องค์กรต่าง ๆ ควบคู่กับการพิทักษ์และคุ้มครองเด็กและเยาวชนอย่างมีประสิทธิผล
3. วัตถุประสงค์
1) ยกระดับกระบวนการยุติธรรมของไทยสู่เป้าหมายเชิงบูรณาการและมีความเป็นสากล ปรับเปลี่ยนกลไก และวิธีการทำงานมุ่งสู่หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
2) ปรับเปลี่ยนกลไกและวิธีการทำงานและพฤติกรรมของบุคลากรในกระบวนการสู่การทำงานเชิงบูรณาการอย่างสอดประสานกัน
3) ส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรของกระบวนการยุติธรรมทุกระดับอย่างเสมอภาค ให้มีการเรียนรู้
4) ขยายโอกาสให้ประชาชน ชุมชน และเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอำนวยความยุติธรรม และการป้องกันแก้ไขอาชญากรรมและการกระทำผิด
5) สร้างกลไกและกระบวนการทำงานเชิงบูรณาการของกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบเพื่อป้องกันและลดปัญหาอาชญากรรมและข้อพิพาท
6) ลดปริมาณคดีและข้อพิพาทที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และส่งเสริมกระบวนการยุติธรรมทางเลือก
7) ส่งเสริมการศึกษา วิจัยและการพัฒนากระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย ให้สามารถอำนวยความยุติธรรม และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน เอกชน และสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสมอภาค และเป็นธรรม
8) พัฒนาระบบและกลไกการจำแนก วิธีการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดคดีอาญาให้กลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม
9) พัฒนาระบบการดำเนินคดีแพ่ง คดีอาญา คดีแรงงาน คดีภาษีอากร คดีปกครอง และพัฒนาการบังคับคดีแรงงาน คดีภาษีอากร คดีปกครอง คดีแพ่ง คดีล้มละลาย และการวางทรัพย์ เพื่อให้มีประสิทธิภาพ มีความเสมอภาค รวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม
4. ยุทธศาสตร์ รวม 10 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
1) ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนากระบวนการยุติธรรมด้วยนโยบายบูรณาการอำนวยความยุติธรรมในระดับชาติ
2) ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาการบริหารจัดการในระบบงานกระบวนการยุติธรรม
3) ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาบุคลากร และการกำหนดจรรยาบรรณการปฏิบัติงานในกระบวนการยุติธรรม
4) ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
5) ยุทธศาสตร์ที่ 5 การส่งเสริมการศึกษา วิจัยและพัฒนากระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย
6) ยุทธศาสตร์ที่ 6 การส่งเสริมการระงับข้อพิพาทและลดปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
7) ยุทธศาสตร์ที่ 7 การพัฒนาระบบและวิธีการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด และระบบการแก้ไขฟื้นฟู
8) ยุทธศาสตร์ที่ 8 การเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน
9) ยุทธศาสตร์ที่ 9 การส่งเสริม สนับสนุน และสร้างกลไกเพื่อขยายโอกาสให้ประชาชน ชุมชน ท้องถิ่น และเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรม
10) ยุทธศาสตร์ที่ 10 การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และการช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
5. แนวทางการขับเคลื่อนองค์กรและกลไกในกระบวนการยุติธรรม
1) การเตรียมความพร้อมขององค์กร 2) การกระจายอำนาจ 3) การสร้างมาตรฐาน 4) การก้าวเข้าสู่ความเป็นสากล
6. การแปลงแผนสู่การปฏิบัติ แผนแม่บทฯ ฉบับนี้ได้เสนอแนะแนวทางการดำเนินงานไว้โดยสรุปดังนี้
1) ให้มีคณะกรรมการระดับชาติกำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินการยุติธรรมในแต่ละปี
2) ให้มีการชี้แจงหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับเนื้อหาสาระของแผนแม่บทฯ และแนวทางปฏิบัติในการดำเนินงาน รวมทั้งกำหนดแผนงานและโครงการที่จะต้องมีการบูรณาการร่วมกัน
3) ควรมีการประสาน ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรม โดยให้มีองค์กรประสานงานกลางร่วมกับสถาบันที่มีความเป็นกลาง ดำเนินการประเมินผลในภาพรวมและในระดับยุทธศาสตร์ เมื่อสิ้นสุดแผนภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการยุติธรรมระดับชาติ
ส่วนการติดตามและประเมินผลระดับแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินการ เป็นผู้กำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัด ตลอดจนหลักเกณฑ์ในการติดตาม ประเมินผล
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2547--จบ--
-กภ-
สาระของแผนประกอบด้วยวิสัยทัศน์ พันธกิจ วัตถุประสงค์ เป้าหมายรวม และยุทธศาสตร์การพัฒนากระบวนการยุติธรรม 10 ด้าน รวมทั้งแนวทางการปรับปรุงองค์กรและกลไกในกระบวนการยุติธรรม การแปลงแผนสู่การปฏิบัติการติดตามและประเมินผล ดังนี้
1. วิสัยทัศน์
กระบวนการยุติธรรมมีการพัฒนาการอำนวยความยุติธรรมอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ รวดเร็วโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีการพัฒนาโครงสร้าง และระบบงานยุติธรรมให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และมีความเป็นสากลเพื่อก่อให้เกิดสังคมที่มีคุณภาพ มีความเสมอภาคเป็นธรรม สมานฉันท์ และสงบสุข ก่อให้เกิดดุลยภาพระหว่างการบังคับใช้กฎหมายและการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เปิดโอกาสให้มีระบบการมีส่วนร่วมและความร่วมมือของทุกภาคส่วนในสังคมในการอำนวยความยุติธรรม ตลอดจนให้ความช่วยเหลือคนยากจนและผู้ด้อยโอกาสให้ได้รับความเป็นธรรมเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
2. พันธกิจ
1) เร่งปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมองค์รวมด้วยการปรับเปลี่ยนกลไกและวิธีการปฏิบัติงานสู่หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และการบริหารเชิงกลยุทธ์ ด้วยการเรียนรู้เชิงนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างเสมอภาค
2) มุ่งส่งเสริมและพัฒนาระบบและกลไกที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ชุมชน องค์กรต่าง ๆ ควบคู่กับการพิทักษ์และคุ้มครองเด็กและเยาวชนอย่างมีประสิทธิผล
3. วัตถุประสงค์
1) ยกระดับกระบวนการยุติธรรมของไทยสู่เป้าหมายเชิงบูรณาการและมีความเป็นสากล ปรับเปลี่ยนกลไก และวิธีการทำงานมุ่งสู่หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
2) ปรับเปลี่ยนกลไกและวิธีการทำงานและพฤติกรรมของบุคลากรในกระบวนการสู่การทำงานเชิงบูรณาการอย่างสอดประสานกัน
3) ส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรของกระบวนการยุติธรรมทุกระดับอย่างเสมอภาค ให้มีการเรียนรู้
4) ขยายโอกาสให้ประชาชน ชุมชน และเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอำนวยความยุติธรรม และการป้องกันแก้ไขอาชญากรรมและการกระทำผิด
5) สร้างกลไกและกระบวนการทำงานเชิงบูรณาการของกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบเพื่อป้องกันและลดปัญหาอาชญากรรมและข้อพิพาท
6) ลดปริมาณคดีและข้อพิพาทที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และส่งเสริมกระบวนการยุติธรรมทางเลือก
7) ส่งเสริมการศึกษา วิจัยและการพัฒนากระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย ให้สามารถอำนวยความยุติธรรม และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน เอกชน และสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสมอภาค และเป็นธรรม
8) พัฒนาระบบและกลไกการจำแนก วิธีการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดคดีอาญาให้กลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม
9) พัฒนาระบบการดำเนินคดีแพ่ง คดีอาญา คดีแรงงาน คดีภาษีอากร คดีปกครอง และพัฒนาการบังคับคดีแรงงาน คดีภาษีอากร คดีปกครอง คดีแพ่ง คดีล้มละลาย และการวางทรัพย์ เพื่อให้มีประสิทธิภาพ มีความเสมอภาค รวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม
4. ยุทธศาสตร์ รวม 10 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
1) ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนากระบวนการยุติธรรมด้วยนโยบายบูรณาการอำนวยความยุติธรรมในระดับชาติ
2) ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาการบริหารจัดการในระบบงานกระบวนการยุติธรรม
3) ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาบุคลากร และการกำหนดจรรยาบรรณการปฏิบัติงานในกระบวนการยุติธรรม
4) ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
5) ยุทธศาสตร์ที่ 5 การส่งเสริมการศึกษา วิจัยและพัฒนากระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย
6) ยุทธศาสตร์ที่ 6 การส่งเสริมการระงับข้อพิพาทและลดปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
7) ยุทธศาสตร์ที่ 7 การพัฒนาระบบและวิธีการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด และระบบการแก้ไขฟื้นฟู
8) ยุทธศาสตร์ที่ 8 การเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน
9) ยุทธศาสตร์ที่ 9 การส่งเสริม สนับสนุน และสร้างกลไกเพื่อขยายโอกาสให้ประชาชน ชุมชน ท้องถิ่น และเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรม
10) ยุทธศาสตร์ที่ 10 การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และการช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
5. แนวทางการขับเคลื่อนองค์กรและกลไกในกระบวนการยุติธรรม
1) การเตรียมความพร้อมขององค์กร 2) การกระจายอำนาจ 3) การสร้างมาตรฐาน 4) การก้าวเข้าสู่ความเป็นสากล
6. การแปลงแผนสู่การปฏิบัติ แผนแม่บทฯ ฉบับนี้ได้เสนอแนะแนวทางการดำเนินงานไว้โดยสรุปดังนี้
1) ให้มีคณะกรรมการระดับชาติกำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินการยุติธรรมในแต่ละปี
2) ให้มีการชี้แจงหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับเนื้อหาสาระของแผนแม่บทฯ และแนวทางปฏิบัติในการดำเนินงาน รวมทั้งกำหนดแผนงานและโครงการที่จะต้องมีการบูรณาการร่วมกัน
3) ควรมีการประสาน ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรม โดยให้มีองค์กรประสานงานกลางร่วมกับสถาบันที่มีความเป็นกลาง ดำเนินการประเมินผลในภาพรวมและในระดับยุทธศาสตร์ เมื่อสิ้นสุดแผนภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการยุติธรรมระดับชาติ
ส่วนการติดตามและประเมินผลระดับแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินการ เป็นผู้กำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัด ตลอดจนหลักเกณฑ์ในการติดตาม ประเมินผล
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2547--จบ--
-กภ-