คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปผลความก้าวหน้าการดำเนินการรับจดทะเบียนแก้ปัญหาสังคมและความยากจนเชิงบูรณาการ ครั้งที่ 11 ประจำวันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ 2547 ดังนี้
1. ผลการจดทะเบียน มีผู้จดทะเบียนรวมทั้งประเทศทั้งสิ้น 6,357,306 ราย คิดเป็นร้อยละ 14.98 ของประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชนที่กำหนดให้ไปจดทะเบียนแล้ว จำนวนปัญหาทั้งสิ้น 8,994,989 ปัญหา แยกเป็น 2 พื้นที่ดำเนินการ ดังนี้
- ผลการจดทะเบียนในพื้นที่ 75 จังหวัด นับถึงวันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2547 รวม 59 วัน ผู้จดทะเบียนทั้งสิ้น 6,133,092 คน จำนวนปัญหา 8,738,966 ปัญหา ปัญหามากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน ปัญหาที่ดินทำกิน และปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน ตามลำดับ
- ผลการจดทะเบียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นับถึงวันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2547 รวม 34 วัน ผู้จดทะเบียนทั้งสิ้น 224,214 คน จำนวนปัญหา 256,023 ปัญหา ปัญหามากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน และปัญหาที่ดินทำกิน ตามลำดับ
2. ผลการบันทึกข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ นับถึงวันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2547 มีผู้จดทะเบียนที่ได้รับการบันทึกข้อมูลลงในระบบคอมพิวเตอร์แล้วจำนวน 4,841,302 ราย จำนวนปัญหาทั้งสิ้น 6,916,145 ปัญหา โดยกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้อำเภอ/กิ่งอำเภอ/เขต ทั่วประเทศทำการบันทึกข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในวันอาทิตย์ที่ 29 กุมภาพันธ์ 2547
3. การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ฐานข้อมูลจากการบันทึกข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ณ วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2547 ดังต่อไปนี้
3.1 ข้อมูลผู้ประสบปัญหาที่ดินทำกิน
1) ปัญหาที่ดินทำกินที่บันทึกข้อมูลแล้ว 2,491,388 คน แยกเป็น ผู้ไม่มีที่ดินทำกิน 900,637 ราย มีที่ดินเดิมแต่ขอเพิ่ม 1,070,986 ราย เช่าที่ดินของรัฐทำประโยชน์อยู่ 167,172 ราย ถือครองที่ดินของรัฐทำประโยชน์อยู่ 301,458 ราย ไม่สามารถระบุได้ 51,135 ราย
2) ความต้องการขอรับการช่วยเหลือ (1)ต้องการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ในการทำสวน ร้อยละ 26.91 ต้องการใช้ทำนา ร้อยละ 25.73 ต้องการใช้ทำไร่ ร้อยละ 18.35 ทำเกษตรผสมผสาน ร้อยละ 13.49 เลี้ยงสัตว์ ร้อยละ 13.07 ทำการประมง ร้อยละ 2.44
3.2 ข้อมูลด้านปัญหาหนี้สินภาคประชาชน
1) ปัญหาหนี้สิน ฯ มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,119,283 คน
2) วงเงินหนี้สิน 298,159,163,854 บาท จำแนกเป็น หนี้สินในระบบ จำนวน 237,069,372,402 บาท หรือร้อยละ 80.95 และ หนี้นอกระบบ จำนวน 61,089,791,452 บาท หรือร้อยละ 19.05
3) ความต้องการขอรับการช่วยเหลือ ขยายเวลาการชำระหนี้ คิดเป็นร้อยละ 23.22 หาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ คิดเป็นร้อยละ 22.46 จัดหาอาชีพเสริม คิดเป็นร้อยละ 21.36 กำหนดระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย คิดเป็นร้อยละ 17.25 และขอพักชำระหนี้ชั่วคราว คิดเป็นร้อยละ 12.46
3.3 ข้อมูลด้านปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน
ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจนมาจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,226,792 คน ลักษณะการพักอาศัยปัจจุบัน คือ พักอาศัยกับญาติ ร้อยละ 50.82 และเช่าที่อยู่อาศัยของเอกชน ร้อยละ 24.22 ความต้องการขอรับการช่วยเหลือ คือ ต้องการซื้อบ้านราคาถูก ร้อยละ 49.0 และ ต้องการที่ดินราคาถูกเพื่อปลูกบ้าน ร้อยละ 38.27
4. การประมวลผลภาพรวมของการจดทะเบียนรายหลังคาเรือน(บ้านเลขที่เดียวกัน)
ในฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ มีผู้ไปจดทะเบียนทั้งสิ้น 4,321,205 หลังคาเรือน แต่มีจำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 4,840,602 ราย เพราะเกิดจากการที่มีผู้จดทะเบียนซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันไปขอจดทะเบียนในปัญหาที่อาจแตกต่างกัน หรือปัญหาเดียวกัน
เมื่อพิจารณาถึงปัญหาที่ผู้มาจดทะเบียนมากที่สุด 3 ปัญหาในแต่ละประเภทปัญหา พบว่า
4.1 ปัญหาที่ดินทำกิน มีการจดทะเบียนทั้งสิ้น 2,275,469 หลัง แต่จำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 2,491,388 ราย แสดงว่ามีผู้ไปจดทะเบียนซ้ำซ้อน 215,919 ราย จึงมีผู้ต้องการได้รับความช่วยเหลือจำนวน 2,275,469 หลังคาเรือน
4.2 ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน มีการจดทะเบียนทั้งสิ้น 2,795,333 หลังคาเรือน แต่จำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,119,283 ราย ไม่สามารถหักความซ้ำซ้อนได้ เนื่องจากในบ้านหลังหนึ่งอาจมีผู้จดทะเบียนมากกว่า 1 ราย และแต่ละรายมีมูลหนี้ต่างกัน
4.3 ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน มีการจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,044,241 หลังคาเรือน แต่จำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,226,792 ราย แสดงว่ามีผู้จดทะเบียนซ้ำซ้อนจำนวน 182,551 ราย จึงมีผู้ต้องการได้รับความช่วยเหลือจำนวน 1,044,241 หลังคาเรือน
5. การสั่งการเพิ่มเติม
5.1 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ส่วนราชการที่เป็น Supply Side สามารถนำข้อมูลไปใช้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว กระทรวงมหาดไทยจึงได้จัดส่งแบบวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบของตารางจำนวน 42 ตาราง ให้ส่วนราชการต่าง ๆ พิจารณา หากส่วนราชการใดเห็นว่า ข้อมูลใดที่ปรากฏอยู่ในแบบจดทะเบียน (แบบ สย.พื้นฐาน, แบบ สย.1-7) และประสงค์ให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำเป็นแบบวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม ก็ให้แจ้งกระทรวงมหาดไทยทราบภายในวันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2547
5.2 กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้จังหวัดและกรุงเทพมหานคร แจ้งอำเภอ/กิ่งอำเภอ/เขต ดำเนินการ ดังนี้
1) ประชาสัมพันธ์เชิญชวนและขอความร่วมมือ ให้เจ้าหนี้นอกระบบไปพบนายอำเภอ หรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ หรือผู้อำนวยการเขต แล้วแต่กรณี เพื่อให้ข้อมูลแห่งมูลหนี้ และทางราชการจะได้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งฝ่ายเจ้าหนี้และลูกหนี้
2) ให้ประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวาง เพื่อแจ้งให้ประชาชนซึ่งบุกรุกถือครองที่ดินของรัฐทุกประเภท และยังไม่มีเอกสิทธิ ไปจดทะเบียนทุกคน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2547--จบ--
-กภ-
1. ผลการจดทะเบียน มีผู้จดทะเบียนรวมทั้งประเทศทั้งสิ้น 6,357,306 ราย คิดเป็นร้อยละ 14.98 ของประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชนที่กำหนดให้ไปจดทะเบียนแล้ว จำนวนปัญหาทั้งสิ้น 8,994,989 ปัญหา แยกเป็น 2 พื้นที่ดำเนินการ ดังนี้
- ผลการจดทะเบียนในพื้นที่ 75 จังหวัด นับถึงวันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2547 รวม 59 วัน ผู้จดทะเบียนทั้งสิ้น 6,133,092 คน จำนวนปัญหา 8,738,966 ปัญหา ปัญหามากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน ปัญหาที่ดินทำกิน และปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน ตามลำดับ
- ผลการจดทะเบียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นับถึงวันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2547 รวม 34 วัน ผู้จดทะเบียนทั้งสิ้น 224,214 คน จำนวนปัญหา 256,023 ปัญหา ปัญหามากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน และปัญหาที่ดินทำกิน ตามลำดับ
2. ผลการบันทึกข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ นับถึงวันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2547 มีผู้จดทะเบียนที่ได้รับการบันทึกข้อมูลลงในระบบคอมพิวเตอร์แล้วจำนวน 4,841,302 ราย จำนวนปัญหาทั้งสิ้น 6,916,145 ปัญหา โดยกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้อำเภอ/กิ่งอำเภอ/เขต ทั่วประเทศทำการบันทึกข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในวันอาทิตย์ที่ 29 กุมภาพันธ์ 2547
3. การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ฐานข้อมูลจากการบันทึกข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ณ วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2547 ดังต่อไปนี้
3.1 ข้อมูลผู้ประสบปัญหาที่ดินทำกิน
1) ปัญหาที่ดินทำกินที่บันทึกข้อมูลแล้ว 2,491,388 คน แยกเป็น ผู้ไม่มีที่ดินทำกิน 900,637 ราย มีที่ดินเดิมแต่ขอเพิ่ม 1,070,986 ราย เช่าที่ดินของรัฐทำประโยชน์อยู่ 167,172 ราย ถือครองที่ดินของรัฐทำประโยชน์อยู่ 301,458 ราย ไม่สามารถระบุได้ 51,135 ราย
2) ความต้องการขอรับการช่วยเหลือ (1)ต้องการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ในการทำสวน ร้อยละ 26.91 ต้องการใช้ทำนา ร้อยละ 25.73 ต้องการใช้ทำไร่ ร้อยละ 18.35 ทำเกษตรผสมผสาน ร้อยละ 13.49 เลี้ยงสัตว์ ร้อยละ 13.07 ทำการประมง ร้อยละ 2.44
3.2 ข้อมูลด้านปัญหาหนี้สินภาคประชาชน
1) ปัญหาหนี้สิน ฯ มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,119,283 คน
2) วงเงินหนี้สิน 298,159,163,854 บาท จำแนกเป็น หนี้สินในระบบ จำนวน 237,069,372,402 บาท หรือร้อยละ 80.95 และ หนี้นอกระบบ จำนวน 61,089,791,452 บาท หรือร้อยละ 19.05
3) ความต้องการขอรับการช่วยเหลือ ขยายเวลาการชำระหนี้ คิดเป็นร้อยละ 23.22 หาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ คิดเป็นร้อยละ 22.46 จัดหาอาชีพเสริม คิดเป็นร้อยละ 21.36 กำหนดระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย คิดเป็นร้อยละ 17.25 และขอพักชำระหนี้ชั่วคราว คิดเป็นร้อยละ 12.46
3.3 ข้อมูลด้านปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน
ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจนมาจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,226,792 คน ลักษณะการพักอาศัยปัจจุบัน คือ พักอาศัยกับญาติ ร้อยละ 50.82 และเช่าที่อยู่อาศัยของเอกชน ร้อยละ 24.22 ความต้องการขอรับการช่วยเหลือ คือ ต้องการซื้อบ้านราคาถูก ร้อยละ 49.0 และ ต้องการที่ดินราคาถูกเพื่อปลูกบ้าน ร้อยละ 38.27
4. การประมวลผลภาพรวมของการจดทะเบียนรายหลังคาเรือน(บ้านเลขที่เดียวกัน)
ในฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ มีผู้ไปจดทะเบียนทั้งสิ้น 4,321,205 หลังคาเรือน แต่มีจำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 4,840,602 ราย เพราะเกิดจากการที่มีผู้จดทะเบียนซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันไปขอจดทะเบียนในปัญหาที่อาจแตกต่างกัน หรือปัญหาเดียวกัน
เมื่อพิจารณาถึงปัญหาที่ผู้มาจดทะเบียนมากที่สุด 3 ปัญหาในแต่ละประเภทปัญหา พบว่า
4.1 ปัญหาที่ดินทำกิน มีการจดทะเบียนทั้งสิ้น 2,275,469 หลัง แต่จำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 2,491,388 ราย แสดงว่ามีผู้ไปจดทะเบียนซ้ำซ้อน 215,919 ราย จึงมีผู้ต้องการได้รับความช่วยเหลือจำนวน 2,275,469 หลังคาเรือน
4.2 ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน มีการจดทะเบียนทั้งสิ้น 2,795,333 หลังคาเรือน แต่จำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,119,283 ราย ไม่สามารถหักความซ้ำซ้อนได้ เนื่องจากในบ้านหลังหนึ่งอาจมีผู้จดทะเบียนมากกว่า 1 ราย และแต่ละรายมีมูลหนี้ต่างกัน
4.3 ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจน มีการจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,044,241 หลังคาเรือน แต่จำนวนผู้มาจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,226,792 ราย แสดงว่ามีผู้จดทะเบียนซ้ำซ้อนจำนวน 182,551 ราย จึงมีผู้ต้องการได้รับความช่วยเหลือจำนวน 1,044,241 หลังคาเรือน
5. การสั่งการเพิ่มเติม
5.1 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ส่วนราชการที่เป็น Supply Side สามารถนำข้อมูลไปใช้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว กระทรวงมหาดไทยจึงได้จัดส่งแบบวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบของตารางจำนวน 42 ตาราง ให้ส่วนราชการต่าง ๆ พิจารณา หากส่วนราชการใดเห็นว่า ข้อมูลใดที่ปรากฏอยู่ในแบบจดทะเบียน (แบบ สย.พื้นฐาน, แบบ สย.1-7) และประสงค์ให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำเป็นแบบวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม ก็ให้แจ้งกระทรวงมหาดไทยทราบภายในวันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2547
5.2 กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้จังหวัดและกรุงเทพมหานคร แจ้งอำเภอ/กิ่งอำเภอ/เขต ดำเนินการ ดังนี้
1) ประชาสัมพันธ์เชิญชวนและขอความร่วมมือ ให้เจ้าหนี้นอกระบบไปพบนายอำเภอ หรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ หรือผู้อำนวยการเขต แล้วแต่กรณี เพื่อให้ข้อมูลแห่งมูลหนี้ และทางราชการจะได้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งฝ่ายเจ้าหนี้และลูกหนี้
2) ให้ประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวาง เพื่อแจ้งให้ประชาชนซึ่งบุกรุกถือครองที่ดินของรัฐทุกประเภท และยังไม่มีเอกสิทธิ ไปจดทะเบียนทุกคน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2547--จบ--
-กภ-