คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎหมายฯ) เกี่ยวกับขั้นตอนและระยะเวลาการประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายข้อสังเกตของสำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เป็นการแก้ไขกฎหมายศุลกากรให้สามารถปฏิบัติการทางศุลกากรอย่างอ่อนตัว ยืดหยุ่นได้ และสามารถปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อย่างทันต่อเหตุการณ์ โดยกำหนดให้อธิบดีมีอำนาจกำหนดระเบียบวิธีการศุลกากร ปรับปรุงการลงโทษให้เหมาะสมกับค่าเงินปัจจุบัน และเพิ่มเติมให้มีการหักจ่ายเงินสินบนรางวัลได้ รวมทั้งแก้ไขบทบัญญัติส่วนอื่นให้สอดคล้องกัน เพื่อให้การดำเนินงานของศุลกากรรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางการค้า การลงทุนระหว่างประเทศ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. เพิ่มเติมให้อธิบดีกรมศุลกากรมีอำนาจกำหนดระเบียบพิธีการศุลกากรเพื่อใช้กับบุคคล หรือของ หรือยวดยาน หรือเรือประเภทใดก็ได้
2. แก้ไขเพิ่มเติมให้การยื่นรายงานเรือเข้าเป็นไปตามระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และแบบที่อธิบดีกำหนด จากเดิมที่ให้เป็นไปตามแบบที่กำหนด รวมทั้งปรับปรุงโทษกรณีกระทำผิดจากปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทเป็น ไม่เกินหนึ่งแสนบาท
3. แก้ไขเพิ่มเติมให้นายเรือยื่นบัญชีสินค้าขาออกสำหรับเรือ ตามระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและแบบที่อธิบดีกำหนด จากเดิมที่กำหนดให้ยื่นภายในหกวันนับแต่วันที่ได้ออกใบปล่อยเรือขาออก และต้องมีใบรับรองสินค้าตามแบบที่กำหนด
4. แก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้ควบคุมอากาศยานต้องยื่นรายงานอากาศยานเข้าอันถูกต้องตามระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และแบบที่อธิบดีกำหนด จากเดิมที่กำหนดให้ยื่นตามแบบที่อธิบดีกำหนด ภายใน 24 ชั่วโมงรวมทั้งปรับปรุงโทษกรณีกระทำผิด จากเดิมที่ให้ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท เป็น ไม่เกินหนึ่งแสนบาท
5. แก้ไขเพิ่มเติมให้มีการยื่นใบขนสินค้าขาออก โดยสำแดงการขอคืนภาษีไว้ด้วย หากตรวจพบว่า ของไม่ตรงตามสำแดงหรือของขาดหรือไม่มีของที่สำแดงในการส่งออก ให้ถือเป็นความผิดโดยไม่ต้องคำนึงถึงเจตนาหรือประมาทเลินเล่อ จากเดิมที่ต้องปรากฏว่าเป็นการกระทำทุจริต และปรับปรุงอัตราโทษ จากเดิมให้มีโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือสามเท่าของจำนวนค่าภาษีที่ขอคืน หรือจำคุกไม่เกินหกเดือน เป็น ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือสามเท่าของจำนวนค่าภาษีที่ขอคืนรวมค่าอากรขาออก หรือจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่ผู้ยื่นใบขนสินค้ามิได้เป็นผู้สำแดงคำขอคืนค่าอากร รวมทั้งกำหนดให้ริบของอันเป็นความผิด และให้มีการหักจ่ายเงินสินบนรางวัลร้อยละ 55 จากเงินค่าขายของกลาง
6. แก้ไขเพิ่มเติมเรื่อง การขอคืนอากรขาเข้า สำหรับของที่ส่งกลับออกไปยังเมืองต่างประเทศ หรือส่งกลับออกไปเป็นของใช้สิ้นเปลืองในเรือเดินทางไปเมืองต่างประเทศ จากเดิมให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในพระราชบัญญัติเป็น ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข เวลาและวิธีการที่อธิบดีกำหนด
7. แก้ไขเพิ่มเติมเรื่อง การขอคืนอากรขาเข้า กรณีที่ผู้นำเข้าส่งออกเอง หรือคืนอากรให้กับผู้ส่งออกในกรณีที่มีการขายต่อให้กับผู้ส่งออก หรือมีการผลิตภายในประเทศหลาย ๆ ทอด จากเดิมให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในพระราชบัญญัติ เป็น ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข เวลา และวิธีการที่อธิบดีกำหนด ยกเว้นของที่กฎกระทรวงระบุห้ามคืนอากร
8. แก้ไขเพิ่มเติมเรื่อง การค้ำประกันของกระทรวงการคลังหรือธนาคารแทนการชำระอากรขาเข้า สำหรับของที่นำเข้าที่จะใช้เฉพาะในการผลิต หรือผสม หรือประกอบ หรือบรรจุ หรือดำเนินการอื่นใด ด้วยของที่นำเข้ามานั้นเพื่อส่งออกไปยังเมืองต่างประเทศ หรือส่งไปเป็นของใช้สิ้นเปลืองในเรือเดินทางไปเมืองต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขมาตรา 19 ทวิ ซึ่งให้อธิบดีอนุญาตให้ รับการค้ำประกันแทนการชำระอากรขาเข้าได้
9. แก้ไขเพิ่มเติม กรณีของนำเข้าตามมาตรา 19 ทวิ เพื่อให้ชัดเจนว่าอย่างไรจึงถือว่าของนั้นได้ส่งออกตามมาตรา 19 จัตวา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2547--จบ--
-กภ-
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เป็นการแก้ไขกฎหมายศุลกากรให้สามารถปฏิบัติการทางศุลกากรอย่างอ่อนตัว ยืดหยุ่นได้ และสามารถปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อย่างทันต่อเหตุการณ์ โดยกำหนดให้อธิบดีมีอำนาจกำหนดระเบียบวิธีการศุลกากร ปรับปรุงการลงโทษให้เหมาะสมกับค่าเงินปัจจุบัน และเพิ่มเติมให้มีการหักจ่ายเงินสินบนรางวัลได้ รวมทั้งแก้ไขบทบัญญัติส่วนอื่นให้สอดคล้องกัน เพื่อให้การดำเนินงานของศุลกากรรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางการค้า การลงทุนระหว่างประเทศ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. เพิ่มเติมให้อธิบดีกรมศุลกากรมีอำนาจกำหนดระเบียบพิธีการศุลกากรเพื่อใช้กับบุคคล หรือของ หรือยวดยาน หรือเรือประเภทใดก็ได้
2. แก้ไขเพิ่มเติมให้การยื่นรายงานเรือเข้าเป็นไปตามระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และแบบที่อธิบดีกำหนด จากเดิมที่ให้เป็นไปตามแบบที่กำหนด รวมทั้งปรับปรุงโทษกรณีกระทำผิดจากปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทเป็น ไม่เกินหนึ่งแสนบาท
3. แก้ไขเพิ่มเติมให้นายเรือยื่นบัญชีสินค้าขาออกสำหรับเรือ ตามระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและแบบที่อธิบดีกำหนด จากเดิมที่กำหนดให้ยื่นภายในหกวันนับแต่วันที่ได้ออกใบปล่อยเรือขาออก และต้องมีใบรับรองสินค้าตามแบบที่กำหนด
4. แก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้ควบคุมอากาศยานต้องยื่นรายงานอากาศยานเข้าอันถูกต้องตามระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และแบบที่อธิบดีกำหนด จากเดิมที่กำหนดให้ยื่นตามแบบที่อธิบดีกำหนด ภายใน 24 ชั่วโมงรวมทั้งปรับปรุงโทษกรณีกระทำผิด จากเดิมที่ให้ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท เป็น ไม่เกินหนึ่งแสนบาท
5. แก้ไขเพิ่มเติมให้มีการยื่นใบขนสินค้าขาออก โดยสำแดงการขอคืนภาษีไว้ด้วย หากตรวจพบว่า ของไม่ตรงตามสำแดงหรือของขาดหรือไม่มีของที่สำแดงในการส่งออก ให้ถือเป็นความผิดโดยไม่ต้องคำนึงถึงเจตนาหรือประมาทเลินเล่อ จากเดิมที่ต้องปรากฏว่าเป็นการกระทำทุจริต และปรับปรุงอัตราโทษ จากเดิมให้มีโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือสามเท่าของจำนวนค่าภาษีที่ขอคืน หรือจำคุกไม่เกินหกเดือน เป็น ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือสามเท่าของจำนวนค่าภาษีที่ขอคืนรวมค่าอากรขาออก หรือจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่ผู้ยื่นใบขนสินค้ามิได้เป็นผู้สำแดงคำขอคืนค่าอากร รวมทั้งกำหนดให้ริบของอันเป็นความผิด และให้มีการหักจ่ายเงินสินบนรางวัลร้อยละ 55 จากเงินค่าขายของกลาง
6. แก้ไขเพิ่มเติมเรื่อง การขอคืนอากรขาเข้า สำหรับของที่ส่งกลับออกไปยังเมืองต่างประเทศ หรือส่งกลับออกไปเป็นของใช้สิ้นเปลืองในเรือเดินทางไปเมืองต่างประเทศ จากเดิมให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในพระราชบัญญัติเป็น ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข เวลาและวิธีการที่อธิบดีกำหนด
7. แก้ไขเพิ่มเติมเรื่อง การขอคืนอากรขาเข้า กรณีที่ผู้นำเข้าส่งออกเอง หรือคืนอากรให้กับผู้ส่งออกในกรณีที่มีการขายต่อให้กับผู้ส่งออก หรือมีการผลิตภายในประเทศหลาย ๆ ทอด จากเดิมให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในพระราชบัญญัติ เป็น ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข เวลา และวิธีการที่อธิบดีกำหนด ยกเว้นของที่กฎกระทรวงระบุห้ามคืนอากร
8. แก้ไขเพิ่มเติมเรื่อง การค้ำประกันของกระทรวงการคลังหรือธนาคารแทนการชำระอากรขาเข้า สำหรับของที่นำเข้าที่จะใช้เฉพาะในการผลิต หรือผสม หรือประกอบ หรือบรรจุ หรือดำเนินการอื่นใด ด้วยของที่นำเข้ามานั้นเพื่อส่งออกไปยังเมืองต่างประเทศ หรือส่งไปเป็นของใช้สิ้นเปลืองในเรือเดินทางไปเมืองต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขมาตรา 19 ทวิ ซึ่งให้อธิบดีอนุญาตให้ รับการค้ำประกันแทนการชำระอากรขาเข้าได้
9. แก้ไขเพิ่มเติม กรณีของนำเข้าตามมาตรา 19 ทวิ เพื่อให้ชัดเจนว่าอย่างไรจึงถือว่าของนั้นได้ส่งออกตามมาตรา 19 จัตวา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2547--จบ--
-กภ-