คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. …. และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป พร้อมกันนี้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงกลาโหมรับไปกำหนดในกฎกระทรวงเกี่ยวกับการให้ผู้ผลิตอาวุธแจ้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะนายทะเบียนตามกฎหมายอาวุธปืนฯ ได้ทราบและตรวจสอบควบคุมด้วย
ร่างพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. …. มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับแก่การผลิตอาวุธโดยส่วนราชการของกระทรวงกลาโหม และการซ่อมแซมอาวุธโดยส่วนราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
2. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีอำนาจอนุญาตให้บุคคลใดผลิตอาวุธสำหรับส่วนราชการตามที่กำหนด
3. ผู้ยื่นคำขอใบอนุญาตผลิตอาวุธต้องเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
4. ใบอนุญาตให้ใช้ได้ตามระยะเวลาที่รัฐมนตรีกำหนด แต่ไม่เกิน 5 ปี และสามารถขอต่ออายุใบอนุญาตได้
5. ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตผลิตอาวุธอื่นใดนอกจากที่ได้ระบุไว้ในใบอนุญาต
6. ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีบัญชีเกี่ยวกับชนิด ปริมาณ และการรับจ่ายประจำวันของวัตถุที่ใช้ในการผลิตอาวุธและอาวุธที่ผลิตขึ้น และต้องส่งรายงานและสำเนาบัญชีดังกล่าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
7. ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขายหรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ ซึ่งอาวุธที่ผลิตขึ้น เว้นแต่ขายหรือจำหน่ายให้แก่ส่วนราชการของกระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ได้รับอนุญาตให้มีหรือใช้อาวุธปืนตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืนฯ
8. ให้รัฐมนตรีมีอำนาจวางระเบียบการจัดให้เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการของกระทรวงกลาโหมอยู่ประจำโรงงานของผู้ได้รับใบอนุญาต เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติของผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ และให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด
9. ผู้ได้รับใบอนุญาตกระทำฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขกำหนดต้องระวางโทษจำคุกและปรับตามที่กำหนด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 มีนาคม 2547--จบ--
-กภ-
ร่างพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. …. มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับแก่การผลิตอาวุธโดยส่วนราชการของกระทรวงกลาโหม และการซ่อมแซมอาวุธโดยส่วนราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
2. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีอำนาจอนุญาตให้บุคคลใดผลิตอาวุธสำหรับส่วนราชการตามที่กำหนด
3. ผู้ยื่นคำขอใบอนุญาตผลิตอาวุธต้องเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
4. ใบอนุญาตให้ใช้ได้ตามระยะเวลาที่รัฐมนตรีกำหนด แต่ไม่เกิน 5 ปี และสามารถขอต่ออายุใบอนุญาตได้
5. ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตผลิตอาวุธอื่นใดนอกจากที่ได้ระบุไว้ในใบอนุญาต
6. ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีบัญชีเกี่ยวกับชนิด ปริมาณ และการรับจ่ายประจำวันของวัตถุที่ใช้ในการผลิตอาวุธและอาวุธที่ผลิตขึ้น และต้องส่งรายงานและสำเนาบัญชีดังกล่าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
7. ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขายหรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ ซึ่งอาวุธที่ผลิตขึ้น เว้นแต่ขายหรือจำหน่ายให้แก่ส่วนราชการของกระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ได้รับอนุญาตให้มีหรือใช้อาวุธปืนตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืนฯ
8. ให้รัฐมนตรีมีอำนาจวางระเบียบการจัดให้เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการของกระทรวงกลาโหมอยู่ประจำโรงงานของผู้ได้รับใบอนุญาต เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติของผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ และให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด
9. ผู้ได้รับใบอนุญาตกระทำฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขกำหนดต้องระวางโทษจำคุกและปรับตามที่กำหนด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 มีนาคม 2547--จบ--
-กภ-