แท็ก
คณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการ (แก้ไขอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณาเพิ่มเติมให้รวมอยู่ในร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎหมาย) ไปดำเนินการด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินรายงานว่า การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มีลักษณะคล้ายคลึงกับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ดังนั้น เพื่อความชัดเจนและให้การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเห็นควรให้มีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เป็น"พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ" ตามมาตรา 2 (16) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยให้เพิ่มเติมเป็น มาตรา 38/1 "ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้กรรมการธุรกรรมและพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมีอำนาจสืบสวนสอบสวนความผิดฐานฟอกเงิน และเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา"
สาระสำคัญของการปรับปรุงกฎกระทรวงดังกล่าว เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เป็น"พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ" ตามมาตรา 2 (16) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยให้เพิ่มเติมเป็น มาตรา 38/1 "ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้กรรมการธุรกรรมและพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมีอำนาจสืบสวนสอบสวนความผิดฐานฟอกเงิน และเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา"
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 23 มีนาคม 2547--จบ--
-กภ-
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินรายงานว่า การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มีลักษณะคล้ายคลึงกับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ดังนั้น เพื่อความชัดเจนและให้การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเห็นควรให้มีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เป็น"พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ" ตามมาตรา 2 (16) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยให้เพิ่มเติมเป็น มาตรา 38/1 "ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้กรรมการธุรกรรมและพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมีอำนาจสืบสวนสอบสวนความผิดฐานฟอกเงิน และเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา"
สาระสำคัญของการปรับปรุงกฎกระทรวงดังกล่าว เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เป็น"พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ" ตามมาตรา 2 (16) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยให้เพิ่มเติมเป็น มาตรา 38/1 "ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้กรรมการธุรกรรมและพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมีอำนาจสืบสวนสอบสวนความผิดฐานฟอกเงิน และเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา"
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 23 มีนาคม 2547--จบ--
-กภ-