คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานการใช้จ่ายเงินกู้: โครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1 ครั้งที่ 15 ซึ่งเป็นการรายงานครั้งสุดท้าย เนื่องจากสิ้นสุดระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกู้ ในวันที่ 19 มกราคม 2547 สรุปได้ดังนี้
1. โครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1 (เงินกู้ JBIC รอบ 18) : โครงการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2535 ที่กระทรวงการคลังได้กู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC หรือ OECF เดิม) จำนวน 11,200 ล้านเยน หรือประมาณ 3,000 - 3,400 ล้านบาท (ณ อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) เพื่อนำมาสมทบกองทุนสิ่งแวดล้อม ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ทั้งนี้ เพื่อให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมแก่ราชการส่วนท้องถิ่นในการก่อสร้าง/ปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียและระบบกำจัดของเสีย และ/หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด
2. การใช้จ่ายเงินกู้ JBIC : กำหนดให้มีการจัดสรรเงินกู้ JBIC สมทบเงินกองทุนสิ่งแวดล้อมในสัดส่วน 70 : 30 (ปรับสัดส่วนเป็น 75 : 25 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2541) โดยส่วนที่เป็นเงินกู้ JBIC (ร้อยละ 70 หรือ 75 ของวงเงินโครงการ) นั้น เป็นการใช้จ่ายเงินในลักษณะการจ่ายเงินจากเงินทดรองราชการเพื่อรองจ่ายจากโครงการเงินกู้ต่างประเทศก่อน แล้วจึงขอเบิกเงินกู้คืนในภายหลัง (Reimbursement) ซึ่งสำนักงานฯ ได้จัดทำคำขอเงินทดรองราชการเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปี 2544 ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกู้รวมทั้งสิ้น 10 ปี (19 มกราคม 2537 - 19 มกราคม 2547 : ระยะเวลาสัญญาเงินกู้เดิม 6 ปี และมีการขยายเวลาอีก 2 ครั้ง)
3. การเบิกจ่ายเงินกู้ JBIC สมทบเงินกองทุน ภายใต้โครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1 : เริ่มเบิกจ่ายตั้งแต่ปีงบประมาณ 2540 โดยเป็นโครงการที่ผ่านการพิจารณาและได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม คือ
3.1 โครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ โครงการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2538 โดยมีวงเงินรวมทั้งสิ้น 23,701 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 แหล่งเงิน คือ เงินงบประมาณแผ่นดิน 14,251 ล้านบาท เงินกู้ ADB 6,950 ล้านบาท และเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม 2,500 ล้านบาท (เงินกู้ JBIC 1,750 ล้านบาท และเงินกองทุน 750 ล้านบาท)
3.2 การว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อสนับสนุนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการบริหารงานโครงการตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ ภายในวงเงินไม่เกิน 222 ล้านเยน
3.3 โครงการด้านการจัดการน้ำเสียและกำจัดขยะในพื้นที่อื่น ๆ คณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมได้พิจารณาเห็นชอบในหลักการในการสนับสนุนราชการส่วนท้องถิ่นภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ระดับจังหวัดที่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณให้ดำเนินการต่อเนื่องอันเนื่องมาจากข้อจำกัดของงบประมาณแผ่นดินตั้งแต่ปี 2541 แต่เป็นพื้นที่ที่มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการให้ต่อเนื่อง โดยมีโครงการภายใต้แผนการใช้เงินกู้ JBIC จำนวน 24 พื้นที่โครงการ เป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 1,398.10 ล้านบาท (เงินกู้ JBIC 1,000.768 ล้านบาท และเงินกองทุน 397.332 ล้านบาท)
ผลการดำเนินโครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1
1. การใช้จ่ายเงิน
โครงการที่ได้รับการอนุมัติวงเงินและดำเนินโครงการ ภายใต้แผนการใช้เงินกู้ดังกล่าวมีการเบิกจ่ายเสร็จสิ้นแล้ว ตามระยะเวลาสิ้นสุดการเบิกจ่ายเงินกู้ (วันที่ 19 มกราคม 2547) มีจำนวนทั้งสิ้น 26 โครงการ ได้แก่ โครงการน้ำเสียสมุทรปราการ โครงการว่าจ้างที่ปรึกษา และโครงการในพื้นที่อื่น ๆ จำนวน 24 โครงการ รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 3,865.023 ล้านบาท (สามพันแปดร้อยหกสิบห้าล้านสองหมื่นสามพันบาทถ้วน) ซึ่งได้มีการเบิกจ่ายในส่วนของ JBIC จากเงินทดรองราชการเสร็จสิ้นแล้ว รวมทั้งมีการเบิกเงินกู้ชดใช้เงินทดรองจ่ายเสร็จสิ้นแล้วเช่นกัน
2. ผลผลิต
2.1 โครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ
1) โครงการว่าจ้างแบบเหมารวม (Turnkey) งานก่อสร้างในภาพรวมทั้งในส่วนระบบรวบรวมและระบบบำบัดน้ำเสียมีผลงานประมาณร้อยละ 97 โดยเป็นงานที่เบิกจ่ายเงินแล้วจากกองทุนสิ่งแวดล้อม ในส่วนของการจัดซื้อที่ดิน 750 ล้านบาท และการก่อสร้างระบบในส่วนเงินกู้ JBIC 1,471.861 ล้านบาท แต่จากการที่รัฐบาลได้ชะลอการก่อสร้างและเบิกจ่ายเงินโครงการว่าจ้างแบบเหมารวม (Turnkey) เพื่อออกแบบรวมก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ ดังนั้นสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้ชะลอการเบิกจ่ายเงินจากกองทุนสิ่งแวดล้อมในส่วนเงินกู้ JBIC สำหรับโครงการดังกล่าวที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2546 จำนวน 55.139 ล้านบาท ด้วยเช่นกัน และจากการที่กรมควบคุมมลพิษได้มีหนังสือแจ้งไปยังกิจการร่วมค้า NVPSKG โดยกล่าวอ้างว่าสัญญาเป็นโมฆะ และให้ผู้รับจ้างยุติการก่อสร้างในโครงการดังกล่าวโดยสิ้นเชิง โดยให้มาดำเนินการทางกฎหมายในส่วนของสัญญาให้แล้วเสร็จได้มีผลทำให้ JBIC ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2546 ว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขสัญญาเงินกู้ (Loan Agreement) โดยถ้ายังไม่มีการแก้ไขปัญหาภายในระยะเวลาอันสั้น รัฐบาลไทยจะต้องคืนเงินกู้สำหรับโครงการดังกล่าว ดังนั้น ต่อมารัฐบาลจึงได้ยกเลิกการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินโครงการจัดการน้ำเสียสมุทรปราการทั้งหมด และกระทรวงการคลังโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้ชำระคืนเงินกู้ JBIC ทั้งเงินต้นที่ได้เบิกจ่ายแล้ว พร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 4,843.976 ล้านเยน (1,706.65 ล้านบาท) ให้แก่ JBIC เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2546
2) โครงการว่าจ้างจัดการและควบคุมงานออกแบบรวมก่อสร้าง (PMC) การจัดการและควบคุมงานฯ มีระยะเวลาดำเนินการ 54 เดือน โดยมีแผนการเบิกจ่ายเงินจากกองทุนสิ่งแวดล้อมในส่วนเงินกู้ JBIC จำนวน 54 งวด แต่ต่อมาได้ปรับแผนการเบิกจ่ายเป็น 52 งวด ภายในวงเงินเดิม ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการแล้วเสร็จและเบิกจ่ายเงินแล้ว รวม 149.6 ล้านบาท
3) โครงการเทคโนโลยีสะอาด (CPIE) ถึงแม้โครงการนี้จะได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมในส่วนเงินกู้ JBIC จำนวน 73 ล้านบาท แต่เนื่องจากคณะกรรมการกองทุนมีมติเห็นชอบให้อนุมัติเพียง 10 งวดงานในเบื้องต้น จำนวน 27.213 ล้านบาท เนื่องจากโครงการยังขาดความชัดเจนถึงความสำคัญและความจำเป็นของโครงการ และผลสำเร็จของโครงการที่จับต้องได้ อย่างไรก็ตาม ต่อมากรมควบคุมมลพิษได้ขอยกเลิกการใช้เงินในส่วนที่เหลือจำนวน 45.787 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมในการประชุมครั้งที่ 8/2544 วันที่ 10 ตุลาคม 2544 ได้มีมติยกเลิกการสนับสนุนเงินโครงการในส่วนที่เหลือ ดังนั้น จึงเป็นวงเงินที่ให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าว จำนวน 27.213 ล้านบาท
2.2 การว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อสนับสนุนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการบริหารงานโครงการตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ วงเงิน 69 ล้านบาท ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วนั้น ที่ปรึกษาฯได้ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานฯ ในการบริหารเงินกู้โครงการ (โครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1) ทั้งในด้านการวิเคราะห์และประเมินความเหมาะสมของโครงการ การติดตามประเมินผลโครงการ ตลอดจนให้คำแนะนำแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในด้านเทคนิควิชาการ และการบริหารจัดการ ทั้งในช่วงระหว่างการก่อสร้าง และการดำเนินการหรือการบำรุงรักษาระบบ รวมถึงการจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของเทศบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้วยการบริหารจัดการโครงการ ในเรื่องของการฝังกลบขยะมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล การบำรุงรักษาเครื่องจักรกลในการฝังกลบมูลฝอย และการบริหารโครงการที่ยั่งยืนภายใต้หลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย เป็นต้น
2.3 โครงการด้านการจัดการน้ำเสียและกำจัดขยะในพื้นที่อื่น ๆ คณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมได้พิจารณาเห็นชอบในรายละเอียดในการสนับสนุนราชการส่วนท้องถิ่นภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ระดับจังหวัดที่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณให้ดำเนินการต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากข้อจำกัดของงบประมาณแผ่นดินตั้งแต่ปี 2541 แต่เป็นพื้นที่ที่มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการให้ต่อเนื่อง โดยมีโครงการภายใต้แผนการใช้เงินกู้ JBIC จำนวน 24 พื้นที่โครงการ ซึ่งแบ่งเป็นโครงการด้านการจัดการน้ำเสีย 2 พื้นที่ และโครงการด้านการจัดการขยะมูลฝอย 22 พื้นที่ ปัจจุบันได้มีการเบิกจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว เป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 1,397.851 ล้านบาท (เงินกู้ JBIC 1,000.768 ล้านบาท และเงินกองทุน 397.083 ล้านบาท)
3. ผลลัพธ์
การสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวข้างต้น ได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมโดยรวม ดังนี้
3.1 ปัญหาน้ำเสียในพื้นที่ที่เทศบาลได้ก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมในระดับหนึ่ง โดยมีผลทำให้น้ำเสียจากชุมชนได้รับการบำบัดให้มีคุณภาพใกล้เคียงกับเกณฑ์มาตรฐานน้ำทิ้ง (BOD ต่ำกว่า 20 mg/l) ก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำสาธารณะ
3.2 การแก้ไขปัญหามลพิษจากขยะมูลฝอยในพื้นที่ที่เทศบาลได้ก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอย ได้มีการดำเนินการอย่างถูกหลักสุขาภิบาลทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งสามารถป้องกันผลกระทบที่เกิดจากมลพิษของขยะมูลฝอยและน้ำชะมูลฝอยได้อย่างถูกวิธี นอกจากนี้บางพื้นที่ยังได้มีการดำเนินการในลักษณะศูนย์ร่วมใช้ เพื่อให้บริการแก่พื้นที่ข้างเคียงด้วย ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากระบบที่ก่อสร้างได้อย่างคุ้มค่า
3.3 การผลักดันให้ท้องถิ่นนำหลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย (Polluter Pays Principle - PPP) ไปใช้โดยการเก็บค่าบริการบำบัดน้ำเสียและกำจัดมูลฝอยเพื่อลดภาระด้านงบประมาณของรัฐ และเพื่อเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 รวมทั้งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 4 พฤษภาคม 2547--จบ--
-กภ-
1. โครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1 (เงินกู้ JBIC รอบ 18) : โครงการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2535 ที่กระทรวงการคลังได้กู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC หรือ OECF เดิม) จำนวน 11,200 ล้านเยน หรือประมาณ 3,000 - 3,400 ล้านบาท (ณ อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) เพื่อนำมาสมทบกองทุนสิ่งแวดล้อม ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ทั้งนี้ เพื่อให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมแก่ราชการส่วนท้องถิ่นในการก่อสร้าง/ปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียและระบบกำจัดของเสีย และ/หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด
2. การใช้จ่ายเงินกู้ JBIC : กำหนดให้มีการจัดสรรเงินกู้ JBIC สมทบเงินกองทุนสิ่งแวดล้อมในสัดส่วน 70 : 30 (ปรับสัดส่วนเป็น 75 : 25 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2541) โดยส่วนที่เป็นเงินกู้ JBIC (ร้อยละ 70 หรือ 75 ของวงเงินโครงการ) นั้น เป็นการใช้จ่ายเงินในลักษณะการจ่ายเงินจากเงินทดรองราชการเพื่อรองจ่ายจากโครงการเงินกู้ต่างประเทศก่อน แล้วจึงขอเบิกเงินกู้คืนในภายหลัง (Reimbursement) ซึ่งสำนักงานฯ ได้จัดทำคำขอเงินทดรองราชการเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปี 2544 ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกู้รวมทั้งสิ้น 10 ปี (19 มกราคม 2537 - 19 มกราคม 2547 : ระยะเวลาสัญญาเงินกู้เดิม 6 ปี และมีการขยายเวลาอีก 2 ครั้ง)
3. การเบิกจ่ายเงินกู้ JBIC สมทบเงินกองทุน ภายใต้โครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1 : เริ่มเบิกจ่ายตั้งแต่ปีงบประมาณ 2540 โดยเป็นโครงการที่ผ่านการพิจารณาและได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม คือ
3.1 โครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ โครงการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2538 โดยมีวงเงินรวมทั้งสิ้น 23,701 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 แหล่งเงิน คือ เงินงบประมาณแผ่นดิน 14,251 ล้านบาท เงินกู้ ADB 6,950 ล้านบาท และเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม 2,500 ล้านบาท (เงินกู้ JBIC 1,750 ล้านบาท และเงินกองทุน 750 ล้านบาท)
3.2 การว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อสนับสนุนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการบริหารงานโครงการตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ ภายในวงเงินไม่เกิน 222 ล้านเยน
3.3 โครงการด้านการจัดการน้ำเสียและกำจัดขยะในพื้นที่อื่น ๆ คณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมได้พิจารณาเห็นชอบในหลักการในการสนับสนุนราชการส่วนท้องถิ่นภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ระดับจังหวัดที่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณให้ดำเนินการต่อเนื่องอันเนื่องมาจากข้อจำกัดของงบประมาณแผ่นดินตั้งแต่ปี 2541 แต่เป็นพื้นที่ที่มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการให้ต่อเนื่อง โดยมีโครงการภายใต้แผนการใช้เงินกู้ JBIC จำนวน 24 พื้นที่โครงการ เป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 1,398.10 ล้านบาท (เงินกู้ JBIC 1,000.768 ล้านบาท และเงินกองทุน 397.332 ล้านบาท)
ผลการดำเนินโครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1
1. การใช้จ่ายเงิน
โครงการที่ได้รับการอนุมัติวงเงินและดำเนินโครงการ ภายใต้แผนการใช้เงินกู้ดังกล่าวมีการเบิกจ่ายเสร็จสิ้นแล้ว ตามระยะเวลาสิ้นสุดการเบิกจ่ายเงินกู้ (วันที่ 19 มกราคม 2547) มีจำนวนทั้งสิ้น 26 โครงการ ได้แก่ โครงการน้ำเสียสมุทรปราการ โครงการว่าจ้างที่ปรึกษา และโครงการในพื้นที่อื่น ๆ จำนวน 24 โครงการ รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 3,865.023 ล้านบาท (สามพันแปดร้อยหกสิบห้าล้านสองหมื่นสามพันบาทถ้วน) ซึ่งได้มีการเบิกจ่ายในส่วนของ JBIC จากเงินทดรองราชการเสร็จสิ้นแล้ว รวมทั้งมีการเบิกเงินกู้ชดใช้เงินทดรองจ่ายเสร็จสิ้นแล้วเช่นกัน
2. ผลผลิต
2.1 โครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ
1) โครงการว่าจ้างแบบเหมารวม (Turnkey) งานก่อสร้างในภาพรวมทั้งในส่วนระบบรวบรวมและระบบบำบัดน้ำเสียมีผลงานประมาณร้อยละ 97 โดยเป็นงานที่เบิกจ่ายเงินแล้วจากกองทุนสิ่งแวดล้อม ในส่วนของการจัดซื้อที่ดิน 750 ล้านบาท และการก่อสร้างระบบในส่วนเงินกู้ JBIC 1,471.861 ล้านบาท แต่จากการที่รัฐบาลได้ชะลอการก่อสร้างและเบิกจ่ายเงินโครงการว่าจ้างแบบเหมารวม (Turnkey) เพื่อออกแบบรวมก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ ดังนั้นสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้ชะลอการเบิกจ่ายเงินจากกองทุนสิ่งแวดล้อมในส่วนเงินกู้ JBIC สำหรับโครงการดังกล่าวที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2546 จำนวน 55.139 ล้านบาท ด้วยเช่นกัน และจากการที่กรมควบคุมมลพิษได้มีหนังสือแจ้งไปยังกิจการร่วมค้า NVPSKG โดยกล่าวอ้างว่าสัญญาเป็นโมฆะ และให้ผู้รับจ้างยุติการก่อสร้างในโครงการดังกล่าวโดยสิ้นเชิง โดยให้มาดำเนินการทางกฎหมายในส่วนของสัญญาให้แล้วเสร็จได้มีผลทำให้ JBIC ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2546 ว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขสัญญาเงินกู้ (Loan Agreement) โดยถ้ายังไม่มีการแก้ไขปัญหาภายในระยะเวลาอันสั้น รัฐบาลไทยจะต้องคืนเงินกู้สำหรับโครงการดังกล่าว ดังนั้น ต่อมารัฐบาลจึงได้ยกเลิกการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินโครงการจัดการน้ำเสียสมุทรปราการทั้งหมด และกระทรวงการคลังโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้ชำระคืนเงินกู้ JBIC ทั้งเงินต้นที่ได้เบิกจ่ายแล้ว พร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 4,843.976 ล้านเยน (1,706.65 ล้านบาท) ให้แก่ JBIC เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2546
2) โครงการว่าจ้างจัดการและควบคุมงานออกแบบรวมก่อสร้าง (PMC) การจัดการและควบคุมงานฯ มีระยะเวลาดำเนินการ 54 เดือน โดยมีแผนการเบิกจ่ายเงินจากกองทุนสิ่งแวดล้อมในส่วนเงินกู้ JBIC จำนวน 54 งวด แต่ต่อมาได้ปรับแผนการเบิกจ่ายเป็น 52 งวด ภายในวงเงินเดิม ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการแล้วเสร็จและเบิกจ่ายเงินแล้ว รวม 149.6 ล้านบาท
3) โครงการเทคโนโลยีสะอาด (CPIE) ถึงแม้โครงการนี้จะได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมในส่วนเงินกู้ JBIC จำนวน 73 ล้านบาท แต่เนื่องจากคณะกรรมการกองทุนมีมติเห็นชอบให้อนุมัติเพียง 10 งวดงานในเบื้องต้น จำนวน 27.213 ล้านบาท เนื่องจากโครงการยังขาดความชัดเจนถึงความสำคัญและความจำเป็นของโครงการ และผลสำเร็จของโครงการที่จับต้องได้ อย่างไรก็ตาม ต่อมากรมควบคุมมลพิษได้ขอยกเลิกการใช้เงินในส่วนที่เหลือจำนวน 45.787 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมในการประชุมครั้งที่ 8/2544 วันที่ 10 ตุลาคม 2544 ได้มีมติยกเลิกการสนับสนุนเงินโครงการในส่วนที่เหลือ ดังนั้น จึงเป็นวงเงินที่ให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าว จำนวน 27.213 ล้านบาท
2.2 การว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อสนับสนุนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการบริหารงานโครงการตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ วงเงิน 69 ล้านบาท ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วนั้น ที่ปรึกษาฯได้ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานฯ ในการบริหารเงินกู้โครงการ (โครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1) ทั้งในด้านการวิเคราะห์และประเมินความเหมาะสมของโครงการ การติดตามประเมินผลโครงการ ตลอดจนให้คำแนะนำแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในด้านเทคนิควิชาการ และการบริหารจัดการ ทั้งในช่วงระหว่างการก่อสร้าง และการดำเนินการหรือการบำรุงรักษาระบบ รวมถึงการจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของเทศบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้วยการบริหารจัดการโครงการ ในเรื่องของการฝังกลบขยะมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล การบำรุงรักษาเครื่องจักรกลในการฝังกลบมูลฝอย และการบริหารโครงการที่ยั่งยืนภายใต้หลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย เป็นต้น
2.3 โครงการด้านการจัดการน้ำเสียและกำจัดขยะในพื้นที่อื่น ๆ คณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมได้พิจารณาเห็นชอบในรายละเอียดในการสนับสนุนราชการส่วนท้องถิ่นภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ระดับจังหวัดที่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณให้ดำเนินการต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากข้อจำกัดของงบประมาณแผ่นดินตั้งแต่ปี 2541 แต่เป็นพื้นที่ที่มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการให้ต่อเนื่อง โดยมีโครงการภายใต้แผนการใช้เงินกู้ JBIC จำนวน 24 พื้นที่โครงการ ซึ่งแบ่งเป็นโครงการด้านการจัดการน้ำเสีย 2 พื้นที่ และโครงการด้านการจัดการขยะมูลฝอย 22 พื้นที่ ปัจจุบันได้มีการเบิกจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว เป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 1,397.851 ล้านบาท (เงินกู้ JBIC 1,000.768 ล้านบาท และเงินกองทุน 397.083 ล้านบาท)
3. ผลลัพธ์
การสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวข้างต้น ได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมโดยรวม ดังนี้
3.1 ปัญหาน้ำเสียในพื้นที่ที่เทศบาลได้ก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมในระดับหนึ่ง โดยมีผลทำให้น้ำเสียจากชุมชนได้รับการบำบัดให้มีคุณภาพใกล้เคียงกับเกณฑ์มาตรฐานน้ำทิ้ง (BOD ต่ำกว่า 20 mg/l) ก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำสาธารณะ
3.2 การแก้ไขปัญหามลพิษจากขยะมูลฝอยในพื้นที่ที่เทศบาลได้ก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอย ได้มีการดำเนินการอย่างถูกหลักสุขาภิบาลทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งสามารถป้องกันผลกระทบที่เกิดจากมลพิษของขยะมูลฝอยและน้ำชะมูลฝอยได้อย่างถูกวิธี นอกจากนี้บางพื้นที่ยังได้มีการดำเนินการในลักษณะศูนย์ร่วมใช้ เพื่อให้บริการแก่พื้นที่ข้างเคียงด้วย ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากระบบที่ก่อสร้างได้อย่างคุ้มค่า
3.3 การผลักดันให้ท้องถิ่นนำหลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย (Polluter Pays Principle - PPP) ไปใช้โดยการเก็บค่าบริการบำบัดน้ำเสียและกำจัดมูลฝอยเพื่อลดภาระด้านงบประมาณของรัฐ และเพื่อเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 รวมทั้งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 4 พฤษภาคม 2547--จบ--
-กภ-