คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) กระทรวงพลังงานกู้ยืมเงินในวงเงิน 8,000 ล้านบาท ด้วยวิธีเบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อนำไปใช้ในการชดเชยราคาน้ำมัน โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน และเป็นผู้พิจารณากู้เงินเงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินตามความเหมาะสมและจำเป็น ตามที่กระทรวงหลังงานเสนอ โดยให้รับความเห็นของของกระทรวงการคลัง ที่ว่าเมื่อราคาน้ำมันปรับลดลงกว่าระดับที่กำหนดแล้ว ขอให้เร่งดำเนินการชำระคืนเงินกู้โดยเร็ว เพื่อลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ไปดำเนินการด้วย
กระทรวงพลังงานรายงานว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้ดำเนินการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน โดยให้เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2547 เป็นต้นไป และกระทรวงพลังงานได้รายงานผลการตรึงราคาน้ำมันให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะแล้ว ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้จ่ายเงินชดเชยสะสมจำนวน 6,570 ล้านบาทไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2547 จนถึงวันที่ 26 เมษายน 2547 ทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิติดลบ 2,462 ล้านบาท และกองทุนน้ำมันฯ มีหนี้ค้างจ่ายชดเชยตรึงราคาน้ำมันอีกจำนวน 1,703 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินมาจ่ายชดเชยหนี้ดังกล่าว
คณะกรรมการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์กรมหาชน) ได้พิจารณาเรื่อง การกู้เงินด้วยวิธีเบิกเงินเกินบัญชีของสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน และได้มีมติเห็นชอบให้มีการกู้เงินในวงเงิน 8,000 ล้านบาท ด้วยวิธีเบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อนำมาใช้ในการตรึงราคาน้ำมัน โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน และเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินของสถาบันฯ
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว เห็นควรให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) กู้เงินโดยวิธีเบิกเงินเกินบัญชี ในวงเงินไม่เกิน 8,000 ล้านบาท จากธนาคารออมสิน หรือสถาบันการเงินอื่น โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อนำไปชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไม่ให้สูงเกินกว่าระดับที่กำหนด แลให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินตามความเหมาะสมและจำเป็น ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้เมื่อราคาน้ำมันปรับลดลงกว่าระดับที่กำหนดแล้ว ขอให้เร่งดำเนินการชำระคืนเงินกู้โดยเร็ว เพื่อลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 4 พฤษภาคม 2547--จบ--
-พธ-
กระทรวงพลังงานรายงานว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้ดำเนินการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน โดยให้เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2547 เป็นต้นไป และกระทรวงพลังงานได้รายงานผลการตรึงราคาน้ำมันให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะแล้ว ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้จ่ายเงินชดเชยสะสมจำนวน 6,570 ล้านบาทไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2547 จนถึงวันที่ 26 เมษายน 2547 ทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิติดลบ 2,462 ล้านบาท และกองทุนน้ำมันฯ มีหนี้ค้างจ่ายชดเชยตรึงราคาน้ำมันอีกจำนวน 1,703 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินมาจ่ายชดเชยหนี้ดังกล่าว
คณะกรรมการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์กรมหาชน) ได้พิจารณาเรื่อง การกู้เงินด้วยวิธีเบิกเงินเกินบัญชีของสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน และได้มีมติเห็นชอบให้มีการกู้เงินในวงเงิน 8,000 ล้านบาท ด้วยวิธีเบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อนำมาใช้ในการตรึงราคาน้ำมัน โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน และเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินของสถาบันฯ
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว เห็นควรให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) กู้เงินโดยวิธีเบิกเงินเกินบัญชี ในวงเงินไม่เกิน 8,000 ล้านบาท จากธนาคารออมสิน หรือสถาบันการเงินอื่น โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อนำไปชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไม่ให้สูงเกินกว่าระดับที่กำหนด แลให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินตามความเหมาะสมและจำเป็น ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้เมื่อราคาน้ำมันปรับลดลงกว่าระดับที่กำหนดแล้ว ขอให้เร่งดำเนินการชำระคืนเงินกู้โดยเร็ว เพื่อลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 4 พฤษภาคม 2547--จบ--
-พธ-