คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถานการณ์อุทกภัยและการดำเนินการให้ความช่วยเหลือของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2548 จนถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2548 ดังนี้
1. การแจ้งเตือนภัย
สำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายผลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มีวิทยุแจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาวะอากาศฝนตกหนักและคลื่นลมแรงจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมทั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 11 สุราษฎร์ธานี และ เขต 12 สงขลา ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2548 แล้ว โดยให้จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังภัยจากภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งโดยเด็ดขาดและกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อำเภอ/กิ่งอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จัดเจ้าหน้าที่อยู่ปฏิบัติงานติดตามสถานการณ์เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงจากเวบไซต์กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่เชื่อมโยงกับกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อตรวจสอบสภาพกลุ่มฝนจากเรดาร์ของกรมอุตุนิยมวิทยาทุกชั่วโมงและสภาพน้ำท่าจากเวบไซต์กรมชลประทานทุกระยะ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบตามแผนป้องกันและบรรเทาอุทกภัยของจังหวัดและอำเภอ/กิ่งอำเภอที่กำหนด
2. สถานการณ์อุทกภัย (ระหว่างวันที่ 7 - 12 ธันวาคม 2548)
2.1 พื้นที่ประสบภัย รวม 6 จังหวัด 37 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 180 ตำบล 831 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดสงขลา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช
2.2 ความเสียหาย
1) ด้านชีวิต ประชาชนเดือดร้อน 23,985 ครัวเรือน 81,175 คน มีผู้เสียชีวิต 3 คน ได้แก่ ด.ช.อับดุล การิม มามะ อายุ 6 ปี บ้านเลขที่ 52 ต.สะบารัง อ.เมืองฯ จ.ปัตตานี ด.ช.ณัฐกิตย์ ขุนชุม อายุ 6 ปี บ้านเลขที่ 2 ม.2 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช และนายยง แก้วทอง อายุ 67 ปี ม.13 ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองฯ จ.พัทลุง
2) ด้านทรัพย์สิน ในเบื้องต้นได้รับความเสียหาย ถนน 330 สาย สะพาน 57 แห่ง พื้นที่การเกษตรประมาณ 33,735 ไร่ ฝาย 1 แห่ง ปศุสัตว์ 748 ตัว บ่อปลา 376 บ่อ
2.3 มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น อยู่ระหว่างการสำรวจ
3. สถานการณ์อุทกภัยปัจจุบัน
3.1 พื้นที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา นครศรีธรรมราช นราธิวาส และพัทลุง
3.2 พื้นที่ที่ยังคงมีสถานการณ์ จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา และปัตตานี
1) จังหวัดสงขลา มีพื้นที่ประสบภัย 10 อำเภอ 56 ตำบล ได้แก่ อำเภอเมืองฯ เทพา หาดใหญ่ นาทวี นาหม่อม สะบ้าย้อย จะนะ คลองหอยโข่ง กระแสสินธุ์ และระโนด
สถานการณ์ปัจจุบัน ยังคงมีน้ำท่วมขัง รวม 2 อำเภอ ดังนี้
(1) อำเภอหาดใหญ่ ระดับน้ำในเขตเทศบาลเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในชุมชนเทศาพัฒนา และชุมชนเทียนจ่ออุทิศริมทางรถไฟ ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10 เมตร
(2) อำเภอนาทวี ระดับน้ำได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ยังคงมีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มบางพื้นที่
การให้ความช่วยเหลือ
(1) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช) ได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (นายพงศ์เผ่า เกษทอง) ไปสนับสนุนและประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จังหวัดสงขลาตั้งแต่ วันที่ 9 ธันวาคม 2548 แล้ว
(2) อำเภอหาดใหญ่ เทศบาลตำบลควนลัง ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา และมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี นำเรือท้องแบน 9 ลำ ข้าวกล่อง 1,000 กล่อง และน้ำดื่ม 2,000 ขวด ไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเขตพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ทั้งนี้ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากชุมชนเทศาพัฒนาและชุมชนเทียนจ่ออุทิศริมทางรถไฟอย่างต่อเนื่อง
(3) ทหาร พล. พัฒนา 4 จัดรถบรรทุก 3 คัน รถกู้ภัย 1 คัน ไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่บ้านทุ่งลุง ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่
(4) อำเภอนาทวี กองอำนวยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนจังหวัด นำเรือท้องแบน จำนวน 2 ลำ อาหาร น้ำดื่ม ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ระดับน้ำในลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วันที่ 12 ธ.ค.2548 (เวลา 16.00 น.) ดังนี้
- จุดวัดน้ำบ้านคลองแงะ (X173) วัดได้ 16.80 เมตร (ระดับตลิ่ง 18.00 เมตร) ต่ำกว่าตลิ่ง 1.20 เมตร
- จุดวัดน้ำบ้านบางศาลา (X90) วัดได้ 7.18 เมตร (ระดับตลิ่ง 9.00 เมตร) ต่ำกว่าตลิ่ง 1.82 เมตร
- จุดวัดน้ำบ้านหาดใหญ่ใน (X44) วัดได้ 5.65 เมตร (ระดับตลิ่ง 6.50 เมตร) ต่ำกว่าตลิ่ง 0.85 เมตร ระดับน้ำลดลง 0.33 เมตร (เวลา 06.00 น. วันที่ 12 ธ.ค.48 วัดได้ 5.98 เมตร) และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เวลา 16.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. 2548
จากการตรวจสอบระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา มีอ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองสะเดา ซึ่งอยู่ตอนบนของจังหวัดสงขลา มีปริมาณน้ำ 55.41 ล้าน ลบ.ม. (ความจุ 56.74 ล้าน ลบ.ม.) ยังสามารถรับน้ำได้อีก 1.33 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำคลองหลา มีปริมาณน้ำ 15.62 ล้าน ลบ.ม. (ความจุ 25 ล้าน ลบ.ม.) ยังสามารถรับน้ำได้อีก 9.38 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำคลองจำไหร มีปริมาณน้ำ 4.12 ล้าน ลบ.ม. (ความจุ 6 ล้าน ลบ.ม.) ยังสามารถรับน้ำได้อีก 1.88 ล้าน ลบ.ม. โดยทั้ง 3 อ่าง ยังสามารถรับน้ำได้อีก 12.59 ล้าน ลบ.ม.
2) จังหวัดปัตตานี มีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองฯ หนองจิก มายอ ยะรัง ทุ่งยางแดง และโคกโพธิ์
สถานการณ์ปัจจุบัน
เนื่องจากเขื่อนปัตตานีได้ระบายน้ำ ปริมาณ 480 ลบ.ม./วินาที เพื่อรองรับสภาวะน้ำฝนที่จะตกลงมาอีก จึงเป็นเหตุให้น้ำล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี โดยสถานีวัดน้ำ X 10A อ.เมืองฯ ระดับน้ำวัดได้ 1.35 เมตร (ระดับวิกฤติ 1.15 เมตร) สูงกว่าระดับวิกฤติ 0.20 เมตร ทำให้มีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มของอำเภอยะรัง และหนองจิก ระดับน้ำสูง 0.30 เมตร โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีมีน้ำท่วมขังที่ ต.สะบารัง(บ้านลงอ่าง) ประชาชนเดือดร้อน 600 ครัวเรือน ระดับน้ำสูง เมตร และต.ตะลุโบะ(บ้านจะบังติกอ) ประชาชนเดือดร้อน 300 ครัวเรือนระดับน้ำสูง 1.00-1.20 เมตร เส้นทางสายหลักยังคงมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 0.20 เมตร แต่ยังคงใช้สัญจรไปมาได้
การให้ความช่วยเหลือ
- จังหวัดได้ระดมเจ้าหน้าที่ขนย้ายสิ่งของ และช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ว
- สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี และทหารจากค่ายสิรินทรจัดส่งเรือท้องแบน จำนวน 6 ลำ ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย
4. พยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา
กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ ฉบับที่ 2 (185/2548) เรื่อง ฝนตกหนักในภาคใต้ และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย ว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว คาดว่า จะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและอ่าวไทยในวันนี้(12 ธ.ค.2548) ลักษณะเช่นนี้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนในระยะแรก และอุณหภูมิจะลดลง กับมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีกำลังแรงขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้อีกในพื้นที่เสี่ยงภัย ของจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส สำหรับอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนในภาคใต้ตอนล่าง และชาวเรือในอ่าวไทยระวังภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 12 — 16 ธันวาคม 2548
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 13 ธันวาคม 2548--จบ--
1. การแจ้งเตือนภัย
สำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายผลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มีวิทยุแจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาวะอากาศฝนตกหนักและคลื่นลมแรงจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมทั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 11 สุราษฎร์ธานี และ เขต 12 สงขลา ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2548 แล้ว โดยให้จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังภัยจากภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งโดยเด็ดขาดและกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อำเภอ/กิ่งอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จัดเจ้าหน้าที่อยู่ปฏิบัติงานติดตามสถานการณ์เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงจากเวบไซต์กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่เชื่อมโยงกับกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อตรวจสอบสภาพกลุ่มฝนจากเรดาร์ของกรมอุตุนิยมวิทยาทุกชั่วโมงและสภาพน้ำท่าจากเวบไซต์กรมชลประทานทุกระยะ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบตามแผนป้องกันและบรรเทาอุทกภัยของจังหวัดและอำเภอ/กิ่งอำเภอที่กำหนด
2. สถานการณ์อุทกภัย (ระหว่างวันที่ 7 - 12 ธันวาคม 2548)
2.1 พื้นที่ประสบภัย รวม 6 จังหวัด 37 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 180 ตำบล 831 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดสงขลา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช
2.2 ความเสียหาย
1) ด้านชีวิต ประชาชนเดือดร้อน 23,985 ครัวเรือน 81,175 คน มีผู้เสียชีวิต 3 คน ได้แก่ ด.ช.อับดุล การิม มามะ อายุ 6 ปี บ้านเลขที่ 52 ต.สะบารัง อ.เมืองฯ จ.ปัตตานี ด.ช.ณัฐกิตย์ ขุนชุม อายุ 6 ปี บ้านเลขที่ 2 ม.2 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช และนายยง แก้วทอง อายุ 67 ปี ม.13 ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองฯ จ.พัทลุง
2) ด้านทรัพย์สิน ในเบื้องต้นได้รับความเสียหาย ถนน 330 สาย สะพาน 57 แห่ง พื้นที่การเกษตรประมาณ 33,735 ไร่ ฝาย 1 แห่ง ปศุสัตว์ 748 ตัว บ่อปลา 376 บ่อ
2.3 มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น อยู่ระหว่างการสำรวจ
3. สถานการณ์อุทกภัยปัจจุบัน
3.1 พื้นที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา นครศรีธรรมราช นราธิวาส และพัทลุง
3.2 พื้นที่ที่ยังคงมีสถานการณ์ จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา และปัตตานี
1) จังหวัดสงขลา มีพื้นที่ประสบภัย 10 อำเภอ 56 ตำบล ได้แก่ อำเภอเมืองฯ เทพา หาดใหญ่ นาทวี นาหม่อม สะบ้าย้อย จะนะ คลองหอยโข่ง กระแสสินธุ์ และระโนด
สถานการณ์ปัจจุบัน ยังคงมีน้ำท่วมขัง รวม 2 อำเภอ ดังนี้
(1) อำเภอหาดใหญ่ ระดับน้ำในเขตเทศบาลเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในชุมชนเทศาพัฒนา และชุมชนเทียนจ่ออุทิศริมทางรถไฟ ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10 เมตร
(2) อำเภอนาทวี ระดับน้ำได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ยังคงมีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มบางพื้นที่
การให้ความช่วยเหลือ
(1) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช) ได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (นายพงศ์เผ่า เกษทอง) ไปสนับสนุนและประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จังหวัดสงขลาตั้งแต่ วันที่ 9 ธันวาคม 2548 แล้ว
(2) อำเภอหาดใหญ่ เทศบาลตำบลควนลัง ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา และมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี นำเรือท้องแบน 9 ลำ ข้าวกล่อง 1,000 กล่อง และน้ำดื่ม 2,000 ขวด ไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเขตพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ทั้งนี้ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากชุมชนเทศาพัฒนาและชุมชนเทียนจ่ออุทิศริมทางรถไฟอย่างต่อเนื่อง
(3) ทหาร พล. พัฒนา 4 จัดรถบรรทุก 3 คัน รถกู้ภัย 1 คัน ไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่บ้านทุ่งลุง ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่
(4) อำเภอนาทวี กองอำนวยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนจังหวัด นำเรือท้องแบน จำนวน 2 ลำ อาหาร น้ำดื่ม ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ระดับน้ำในลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วันที่ 12 ธ.ค.2548 (เวลา 16.00 น.) ดังนี้
- จุดวัดน้ำบ้านคลองแงะ (X173) วัดได้ 16.80 เมตร (ระดับตลิ่ง 18.00 เมตร) ต่ำกว่าตลิ่ง 1.20 เมตร
- จุดวัดน้ำบ้านบางศาลา (X90) วัดได้ 7.18 เมตร (ระดับตลิ่ง 9.00 เมตร) ต่ำกว่าตลิ่ง 1.82 เมตร
- จุดวัดน้ำบ้านหาดใหญ่ใน (X44) วัดได้ 5.65 เมตร (ระดับตลิ่ง 6.50 เมตร) ต่ำกว่าตลิ่ง 0.85 เมตร ระดับน้ำลดลง 0.33 เมตร (เวลา 06.00 น. วันที่ 12 ธ.ค.48 วัดได้ 5.98 เมตร) และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เวลา 16.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. 2548
จากการตรวจสอบระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา มีอ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองสะเดา ซึ่งอยู่ตอนบนของจังหวัดสงขลา มีปริมาณน้ำ 55.41 ล้าน ลบ.ม. (ความจุ 56.74 ล้าน ลบ.ม.) ยังสามารถรับน้ำได้อีก 1.33 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำคลองหลา มีปริมาณน้ำ 15.62 ล้าน ลบ.ม. (ความจุ 25 ล้าน ลบ.ม.) ยังสามารถรับน้ำได้อีก 9.38 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำคลองจำไหร มีปริมาณน้ำ 4.12 ล้าน ลบ.ม. (ความจุ 6 ล้าน ลบ.ม.) ยังสามารถรับน้ำได้อีก 1.88 ล้าน ลบ.ม. โดยทั้ง 3 อ่าง ยังสามารถรับน้ำได้อีก 12.59 ล้าน ลบ.ม.
2) จังหวัดปัตตานี มีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองฯ หนองจิก มายอ ยะรัง ทุ่งยางแดง และโคกโพธิ์
สถานการณ์ปัจจุบัน
เนื่องจากเขื่อนปัตตานีได้ระบายน้ำ ปริมาณ 480 ลบ.ม./วินาที เพื่อรองรับสภาวะน้ำฝนที่จะตกลงมาอีก จึงเป็นเหตุให้น้ำล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี โดยสถานีวัดน้ำ X 10A อ.เมืองฯ ระดับน้ำวัดได้ 1.35 เมตร (ระดับวิกฤติ 1.15 เมตร) สูงกว่าระดับวิกฤติ 0.20 เมตร ทำให้มีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มของอำเภอยะรัง และหนองจิก ระดับน้ำสูง 0.30 เมตร โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีมีน้ำท่วมขังที่ ต.สะบารัง(บ้านลงอ่าง) ประชาชนเดือดร้อน 600 ครัวเรือน ระดับน้ำสูง เมตร และต.ตะลุโบะ(บ้านจะบังติกอ) ประชาชนเดือดร้อน 300 ครัวเรือนระดับน้ำสูง 1.00-1.20 เมตร เส้นทางสายหลักยังคงมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 0.20 เมตร แต่ยังคงใช้สัญจรไปมาได้
การให้ความช่วยเหลือ
- จังหวัดได้ระดมเจ้าหน้าที่ขนย้ายสิ่งของ และช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ว
- สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี และทหารจากค่ายสิรินทรจัดส่งเรือท้องแบน จำนวน 6 ลำ ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย
4. พยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา
กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ ฉบับที่ 2 (185/2548) เรื่อง ฝนตกหนักในภาคใต้ และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย ว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว คาดว่า จะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและอ่าวไทยในวันนี้(12 ธ.ค.2548) ลักษณะเช่นนี้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนในระยะแรก และอุณหภูมิจะลดลง กับมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีกำลังแรงขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้อีกในพื้นที่เสี่ยงภัย ของจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส สำหรับอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนในภาคใต้ตอนล่าง และชาวเรือในอ่าวไทยระวังภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 12 — 16 ธันวาคม 2548
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 13 ธันวาคม 2548--จบ--