คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการเข้าร่วมงาน China-Asean Expo 2004 สาระสำคัญมีดังนี้
1. งานแสดงสินค้า China-Asean Expo 2004 งานแสดงสินค้า China-Asean Expo 2004 จัดโดย The People's Government of Guangxi Zhuang โดยมี 2 กิจกรรมหลัก ได้แก่
1.1 การจัดแสดงสินค้าและบริการ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการค้า การลงทุนกและการท่องเที่ยว โดยแบ่งการจัดแสดงสินค้า เป็น 6 Theme หลักคือ National Theme, Commodities Trade Theme, Investment Them, International Economics & Technical Cooperation Theme, Tourism Theme และ Science and Technology Theme ซึ่งในการจัดงานครั้งนี้ มีผู้ประกอบการทั้งชาวจีนและชาวต่างประเทศมาร่วมงานทั้งสิ้น 1,505 ราย และสินค้าที่มาร่วมแสดงในงานมีมากกว่า 200 ชนิด
1.2 การประชุมผู้นำระดับสูงด้านการค้าและการลงทุน (China-Asean Business and Investment Summit) เพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี ระหว่างประเทศจีน และ ASEAN ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อันจะเป็นการช่วยผลักดันและพัฒนาเขตการค้าเสรีจีน-ASEAN ให้เป็นรูปธรรมรวดเร็วยิ่งขึ้น
2. การเข้าร่วมงาน China-Asean Expo 2004 ของไทย กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการส่งออก ได้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าและบริการในงานรวม 2 Hall ได้แก่
2.1 National Hall เป็นการแสดงภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
2.2 Commodities Trade Halls เป็นการจัดแสดงสินค้า เพื่อการเจรจาธุรกิจการค้า โดยประเทศไทยได้นำธุรกิจเข้าร่วม รวมทั้งสิ้น 112 คูหา 72 บริษัท ซึ่งมากที่สุดในกลุ่ม ASEAN โดยเป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำนวน 21 คูหา สำหรับสินค้าที่นำไปจัดแสดง ได้แก่ เครื่องจักรและเครื่องมือ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที สินค้าอาหาร ยาและสินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าเกษตร วัสดุก่อสร้าง วัตถุดิบเคมีภัณฑ์หัตถกรรม เสื้อผ้าและสิ่งทออื่น ๆ สินค้าเหล่านี้ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจและประชาชนชาวจีน ตลอดจนชาวต่างชาติที่เข้าร่วมชมงานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยที่ให้มีการทดลองชิมผลไม้ต่าง ๆ เช่น ทุเรียน มะม่วง มังคุด และฝรั่ง เป็นต้น นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้นำลองกองจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปร่วมประชาสัมพันธ์และให้ทดลองชิม รวมทั้งได้มีการประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยด้วย
3. การประชุม China-Asean Business and Investment Summit เป็นการประชุมระดับผู้นำและรัฐมนตรีด้านการค้าและอุตสาหกรรมของจีนและประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน โดยมีผู้เข้าประชุมประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรีของจีนมาดามอู๋ อี๋ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน (นายโป๋ ซี ไหล) ผู้นำประเทศกัมพูชา ลาว พม่า ไทย รัฐมนตรีด้านการค้าและอุตสาหกรรมประเทศบรูไน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม ผู้นำจากสมาคมการค้า บริษัทข้ามชาติ CEO ของบริษัทชั้นนำ และผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงมาร่วมด้วย ในส่วนของประเทศไทย รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ได้ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในช่วงผู้นำประเทศ ซึ่งเป็นสุนทรพจน์ที่มีเนื้อหาสมบูรณ์และได้รับการชื่นชมจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอันมาก การได้กล่าวสุนทรพจน์ในช่วงของรัฐมนตรีเศรษฐกิจและการค้า เป็นการกล่าวย้ำ เนื้อหาที่รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวไปแล้วในช่วงแรก นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนจีน และ ASEAN ว่าจะมีส่วนช่วยให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การขยายตัวทางการค้า การลงทุน นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้กล่าวถึงการร่วมมือผลักดันเขตการค้าเสรีจีน - ASEAN ว่าจะมีส่วนช่วยลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันบนผลประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่าย เป็นต้น ทั้งนี้เป็นที่คาดว่ามูลค่าการค้าระหว่างจีนและ ASEAN จะมีมูลค่าถึง 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปลายปีนี้
4. การเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน (นายโป๋ ซี ไหล) มีประเด็นที่หยิบยกขึ้นหารือ ดังนี้
4.1 รัฐมนตรีพาณิชย์จีนให้ความเห็นว่าข้าวที่นำเข้าไทยกำลังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวจีน เนื่องจากมีคุณภาพดีและมีรสชาติถูกปากชาวจีน ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีนเห็นว่าจะมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ยังเน้นให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อการพบปะกันระหว่างภาคเอกชนของ 2 ประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อขยายความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกัน รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีนให้สัญญาว่าจะนำผู้นำจีนมาพบปะกับผู้ส่งออกไทยเพิ่มขึ้นในงาน China-Asean Expo ครั้งต่อไป (ปี 2005)
4.2 เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 30 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน ในปี 2005 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ทั้งสองฝ่ายได้เสนอให้มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น การจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมจีนในประเทศไทย และการสร้างศาลาไทยในสวนสาธารณะของจีน เป็นต้น
4.3 ในด้านความร่วมมือทางการค้า ทั้งสองฝ่ายคาดการณ์ว่าการค้าไทย-จีน ในปี 2010 จะบรรลุเป้าหมายมูลค่าที่ตั้งไว้คือ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างแน่นอน และขอให้จีนอำนวยความสะดวกในเรื่องการตรวจสอบผลไม้ที่นำเข้าจากไทยให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจีนรับว่าจะพยายามให้การอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ พร้อมเสนอให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทยเข้าหารือกับหัวหน้าหน่วยงานตรวจสอบผักผลไม้จีน (AQSIQ) นายหลี่ ฉางเจียง อีกทางหนึ่งด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 พฤศจิกายน 2547--จบ--
-กภ-
1. งานแสดงสินค้า China-Asean Expo 2004 งานแสดงสินค้า China-Asean Expo 2004 จัดโดย The People's Government of Guangxi Zhuang โดยมี 2 กิจกรรมหลัก ได้แก่
1.1 การจัดแสดงสินค้าและบริการ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการค้า การลงทุนกและการท่องเที่ยว โดยแบ่งการจัดแสดงสินค้า เป็น 6 Theme หลักคือ National Theme, Commodities Trade Theme, Investment Them, International Economics & Technical Cooperation Theme, Tourism Theme และ Science and Technology Theme ซึ่งในการจัดงานครั้งนี้ มีผู้ประกอบการทั้งชาวจีนและชาวต่างประเทศมาร่วมงานทั้งสิ้น 1,505 ราย และสินค้าที่มาร่วมแสดงในงานมีมากกว่า 200 ชนิด
1.2 การประชุมผู้นำระดับสูงด้านการค้าและการลงทุน (China-Asean Business and Investment Summit) เพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี ระหว่างประเทศจีน และ ASEAN ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อันจะเป็นการช่วยผลักดันและพัฒนาเขตการค้าเสรีจีน-ASEAN ให้เป็นรูปธรรมรวดเร็วยิ่งขึ้น
2. การเข้าร่วมงาน China-Asean Expo 2004 ของไทย กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการส่งออก ได้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าและบริการในงานรวม 2 Hall ได้แก่
2.1 National Hall เป็นการแสดงภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
2.2 Commodities Trade Halls เป็นการจัดแสดงสินค้า เพื่อการเจรจาธุรกิจการค้า โดยประเทศไทยได้นำธุรกิจเข้าร่วม รวมทั้งสิ้น 112 คูหา 72 บริษัท ซึ่งมากที่สุดในกลุ่ม ASEAN โดยเป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำนวน 21 คูหา สำหรับสินค้าที่นำไปจัดแสดง ได้แก่ เครื่องจักรและเครื่องมือ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที สินค้าอาหาร ยาและสินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าเกษตร วัสดุก่อสร้าง วัตถุดิบเคมีภัณฑ์หัตถกรรม เสื้อผ้าและสิ่งทออื่น ๆ สินค้าเหล่านี้ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจและประชาชนชาวจีน ตลอดจนชาวต่างชาติที่เข้าร่วมชมงานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยที่ให้มีการทดลองชิมผลไม้ต่าง ๆ เช่น ทุเรียน มะม่วง มังคุด และฝรั่ง เป็นต้น นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้นำลองกองจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปร่วมประชาสัมพันธ์และให้ทดลองชิม รวมทั้งได้มีการประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยด้วย
3. การประชุม China-Asean Business and Investment Summit เป็นการประชุมระดับผู้นำและรัฐมนตรีด้านการค้าและอุตสาหกรรมของจีนและประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน โดยมีผู้เข้าประชุมประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรีของจีนมาดามอู๋ อี๋ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน (นายโป๋ ซี ไหล) ผู้นำประเทศกัมพูชา ลาว พม่า ไทย รัฐมนตรีด้านการค้าและอุตสาหกรรมประเทศบรูไน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม ผู้นำจากสมาคมการค้า บริษัทข้ามชาติ CEO ของบริษัทชั้นนำ และผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงมาร่วมด้วย ในส่วนของประเทศไทย รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ได้ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในช่วงผู้นำประเทศ ซึ่งเป็นสุนทรพจน์ที่มีเนื้อหาสมบูรณ์และได้รับการชื่นชมจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอันมาก การได้กล่าวสุนทรพจน์ในช่วงของรัฐมนตรีเศรษฐกิจและการค้า เป็นการกล่าวย้ำ เนื้อหาที่รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวไปแล้วในช่วงแรก นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนจีน และ ASEAN ว่าจะมีส่วนช่วยให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การขยายตัวทางการค้า การลงทุน นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้กล่าวถึงการร่วมมือผลักดันเขตการค้าเสรีจีน - ASEAN ว่าจะมีส่วนช่วยลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันบนผลประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่าย เป็นต้น ทั้งนี้เป็นที่คาดว่ามูลค่าการค้าระหว่างจีนและ ASEAN จะมีมูลค่าถึง 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปลายปีนี้
4. การเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน (นายโป๋ ซี ไหล) มีประเด็นที่หยิบยกขึ้นหารือ ดังนี้
4.1 รัฐมนตรีพาณิชย์จีนให้ความเห็นว่าข้าวที่นำเข้าไทยกำลังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวจีน เนื่องจากมีคุณภาพดีและมีรสชาติถูกปากชาวจีน ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีนเห็นว่าจะมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ยังเน้นให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อการพบปะกันระหว่างภาคเอกชนของ 2 ประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อขยายความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกัน รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีนให้สัญญาว่าจะนำผู้นำจีนมาพบปะกับผู้ส่งออกไทยเพิ่มขึ้นในงาน China-Asean Expo ครั้งต่อไป (ปี 2005)
4.2 เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 30 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน ในปี 2005 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ทั้งสองฝ่ายได้เสนอให้มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น การจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมจีนในประเทศไทย และการสร้างศาลาไทยในสวนสาธารณะของจีน เป็นต้น
4.3 ในด้านความร่วมมือทางการค้า ทั้งสองฝ่ายคาดการณ์ว่าการค้าไทย-จีน ในปี 2010 จะบรรลุเป้าหมายมูลค่าที่ตั้งไว้คือ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างแน่นอน และขอให้จีนอำนวยความสะดวกในเรื่องการตรวจสอบผลไม้ที่นำเข้าจากไทยให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจีนรับว่าจะพยายามให้การอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ พร้อมเสนอให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทยเข้าหารือกับหัวหน้าหน่วยงานตรวจสอบผักผลไม้จีน (AQSIQ) นายหลี่ ฉางเจียง อีกทางหนึ่งด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 พฤศจิกายน 2547--จบ--
-กภ-