คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการเปิดตลาดนำเข้านมผงขาดมันเนยปี 2547 เพิ่มเติม จำนวน 12,252.03 ตัน อัตราภาษีร้อยละ 5 ให้ผู้ประกอบการที่ต้องการตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ให้นำเข้าให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2547 และใช้ผลิตผลิตภัณฑ์นมให้หมดภายในวันที่ 30 มกราคม 2548 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอว่า
1. ความเป็นมา
- ตามที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) ตั้งแต่ปี 2538 จำเป็นต้องเปิดตลาดนำเข้าสินค้าเกษตร สำหรับสินค้าเกษตรที่มีผลกระทบให้สามารถกำหนดโควตาและอัตราภาษีในโควตาและนอกโควตาได้ สำหรับนมผงขาดมันเนย เป็นสินค้าหนึ่งที่อยู่ในข้อผูกพัน โดยในปี 2547 ข้อผูกพันกับ WTO คือ ต้องเปิดตลาดนำเข้าไม่น้อยกว่า 55,000 ตัน อัตราภาษีในโควตาอยู่ระหว่างร้อยละ 0.20 และอัตราภาษีนอกโควตา ร้อยละ 216 การบริหารโควตาให้อยู่ในการกำกับดูแลของคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการปศุสัตว์แห่งชาติ
- สำหรับการเปิดตลาดนำเข้านมผงขาดมันเนย ปี 2547 คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการ
ปศุสัตว์ แห่งชาติ ได้เปิดตลาดครั้งแรก รวม 55,000 ตัน อัตราภาษีในโควตาเท่ากับปีที่ผ่านมา คือ ร้อยละ 5 อัตราภาษีนอกโควตาเท่ากับที่ผูกพันไว้ คือ ร้อยละ 216 โดยหากมีความจำเป็นผู้ประกอบการสามารถขอเพิ่มเติมได้ กรณีการเปิดตลาดมากกว่าที่ผูกพันจะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา
2. ความต้องการโควตานำเข้านมผงขาดมันเนยเพิ่มเติม
- มีผู้ประกอบการ รวม 41 ราย ได้ขอโควตานำเข้านมผงขาดมันเนยเพิ่มเติมรวม 20,000 ตัน เนื่องจากปริมาณโควตาเดิมได้รับไม่เพียงพอ โดยนมผงขาดมันเนย ที่นำเข้านี้จะใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตภัณฑ์นมอื่น ๆ เช่น ผลิตนมข้นหวาน ไอศกรีม ช็อคโกแลต ขนมปัง นมเปรี้ยว เป็นต้น
- จากการพิจารณาของคณะทำงานกลั่นกรองที่ประกอบด้วยฝ่ายเกษตรกร ผู้ประกอบการและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เห็นควรเปิดตลาดนำเข้านมผงขาดมันเนยเพิ่มเติมให้ผู้ประกอบการ ปี 2547 เพิ่มเติม รวม 12,252.03 ตัน โดยโควตาที่เปิดเพิ่มเติมนี้ ไม่จัดให้กลุ่มผู้ประกอบการที่ผลิตนมพร้อมดื่ม (นมพาสเจอร์ไรส์ และ ยูเอชที) และเมื่อเปิดตลาดเพิ่มเติมแล้วหากมีปัญหาน้ำนมดิบของเกษตรกร ทางสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย จะเข้าไปตรวจสอบและจัดการแก้ปัญหาน้ำนมดิบให้โดยทันที
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 14 ธันวาคม 2547--จบ--
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอว่า
1. ความเป็นมา
- ตามที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) ตั้งแต่ปี 2538 จำเป็นต้องเปิดตลาดนำเข้าสินค้าเกษตร สำหรับสินค้าเกษตรที่มีผลกระทบให้สามารถกำหนดโควตาและอัตราภาษีในโควตาและนอกโควตาได้ สำหรับนมผงขาดมันเนย เป็นสินค้าหนึ่งที่อยู่ในข้อผูกพัน โดยในปี 2547 ข้อผูกพันกับ WTO คือ ต้องเปิดตลาดนำเข้าไม่น้อยกว่า 55,000 ตัน อัตราภาษีในโควตาอยู่ระหว่างร้อยละ 0.20 และอัตราภาษีนอกโควตา ร้อยละ 216 การบริหารโควตาให้อยู่ในการกำกับดูแลของคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการปศุสัตว์แห่งชาติ
- สำหรับการเปิดตลาดนำเข้านมผงขาดมันเนย ปี 2547 คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการ
ปศุสัตว์ แห่งชาติ ได้เปิดตลาดครั้งแรก รวม 55,000 ตัน อัตราภาษีในโควตาเท่ากับปีที่ผ่านมา คือ ร้อยละ 5 อัตราภาษีนอกโควตาเท่ากับที่ผูกพันไว้ คือ ร้อยละ 216 โดยหากมีความจำเป็นผู้ประกอบการสามารถขอเพิ่มเติมได้ กรณีการเปิดตลาดมากกว่าที่ผูกพันจะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา
2. ความต้องการโควตานำเข้านมผงขาดมันเนยเพิ่มเติม
- มีผู้ประกอบการ รวม 41 ราย ได้ขอโควตานำเข้านมผงขาดมันเนยเพิ่มเติมรวม 20,000 ตัน เนื่องจากปริมาณโควตาเดิมได้รับไม่เพียงพอ โดยนมผงขาดมันเนย ที่นำเข้านี้จะใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตภัณฑ์นมอื่น ๆ เช่น ผลิตนมข้นหวาน ไอศกรีม ช็อคโกแลต ขนมปัง นมเปรี้ยว เป็นต้น
- จากการพิจารณาของคณะทำงานกลั่นกรองที่ประกอบด้วยฝ่ายเกษตรกร ผู้ประกอบการและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เห็นควรเปิดตลาดนำเข้านมผงขาดมันเนยเพิ่มเติมให้ผู้ประกอบการ ปี 2547 เพิ่มเติม รวม 12,252.03 ตัน โดยโควตาที่เปิดเพิ่มเติมนี้ ไม่จัดให้กลุ่มผู้ประกอบการที่ผลิตนมพร้อมดื่ม (นมพาสเจอร์ไรส์ และ ยูเอชที) และเมื่อเปิดตลาดเพิ่มเติมแล้วหากมีปัญหาน้ำนมดิบของเกษตรกร ทางสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย จะเข้าไปตรวจสอบและจัดการแก้ปัญหาน้ำนมดิบให้โดยทันที
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 14 ธันวาคม 2547--จบ--