ทำเนียบรัฐบาล--15 ธ.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังชี้แจงตามข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2541 เรื่อง โครงการลงทุนเพื่อสังคมและการกู้เงินจากธนาคารโลก สรุปได้ดังนี้
1. การมอบหมายให้ธนาคารออมสินบริหารจัดการโครงการแนวทางที่ 2 ภายใต้โครงการลงทุนเพื่อสังคม จะเป็นการขัดกับอำนาจหน้าที่ของธนาคารออมสินตามพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. 2489 หรือไม่
กระทรวงการคลังชี้แจงว่าในชั้นต้นเห็นว่า น่าจะไม่ขัดกับอำนาจหน้าที่ของธนาคารออมสิน เนื่องจากการบริหารโครงการลงทุนเป็นการดำเนินการในฐานะตัวแทนของกระทรวงการคลังตามหลักกฎหมายในเรื่องตัวแทน ประกอบกับวัตถุประสงค์ของการบริหารกองทุน ไม่มีข้อใดขัดกับวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งธนาคารออมสินและการประกอบธุรกิจของธนาคารออมสิน แต่เพื่อความชัดเจนในประเด็นนั้น กระทรวงการคลังและธนาคารออมสินจึงได้ดำเนินการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดกิจการอันพึงเป็นงานธนาคารของธนาคารออมสิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 ออกตามความในพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. 2489 และยกร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ 43) พ.ศ. 2541 ว่าด้วยการประกอบกิจการอันพึงเป็นงานธนาคารของธนาคารออมสินที่เกี่ยวกับกาารจัดการหรือรับจัดการกองทุนตามมาตรา 3(12) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ เพื่อกำหนดวัตถุประสงค์และประเภทของธุรกิจให้ธนาคารออมสิน สามารถบริหาารจัดการโครงการลงทุนเพื่อสังคม ตามแนวทางที่ 2 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2541 อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาฯ และเห็นชอบร่างกฎกระทรวงตามที่กระทรวงการคลังเสนอ จึงถือได้ว่าการมอบหมายให้ธนาคารออมสินบริหารจัดการโครงการลงทุนเพื่อสังคม ตามแนวทางที่ 2 นั้นไม่ขัดกับอำนาจหน้าที่ของธนาคารออมสิน ตามพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. 2489 อย่างแน่นอน
2. การสนับสนุนแบบให้เปล่าโครงการต่าง ๆ ที่เสนอโดยองค์กรชุมชน ซึ่งกำหนดเกณฑ์ว่าต้องเป็นโครงการที่ไม่ซ้ำกับโครงการของภาครัฐที่ได้รับการสนับสนุนอยู่หรือได้รับแหล่งทุนอื่นแล้ว นั้น ควรกำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมด้วยว่า พื้นที่ดำเนินโครงการต้องไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการในแนวทางที่ 1 และโครงการของภาครัฐอื่น ๆ
กระทรวงการคลังชี้แจงว่า ธนาคารออมสิน ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน ทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอเพื่อตรวจสอบความซ้ำซ้อนของพื้นที่โครงการ ซึ่งต้องไม่เป็นโครงการที่ซ้ำซ้อนกับโครงการตามแนวทางที่ 1 และโครงการของภาครัฐอื่น ๆ อยู่แล้ว นอกจากนี้คณะกรรมการกำกับนโยบาย (PSC) ยังได้มอบหมายให้ธนาคารออมสิน กำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมว่าความไม่ซ้ำซ้อนนั้น ให้หมายรวมถึงการไม่ซ้ำซ้อนทั้งพื้นที่โครงการและกิจกรรมของโครงการด้วย
3. เกณฑ์การสนับสนุนโครงการที่เน้นการใช้แรงงานคนและเทคโนโลยีเรียบง่าย นั้น จะต้องไม่เป็นช่องทางให้ผู้รับเหมาที่ดำเนินงานโดยใช้เครื่องจักรเป็นส่วนใหญ่สามารถเข้ามาดำเนินงานตามโครงการนี้ได้
กระทรวงการคลังชี้แจงว่า ธนาคารออมสินได้กำหนดหลักเกณฑ์การสนับสนุนแก่องค์กรชุมชนไว้ว่าต้องเป็นโครงการขนาดเล็กที่ใช้เทคโนโลยีเรียบง่าย โดยเน้นการใช้แรงงานในท้องถิ่นและไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับเหมา ที่ดำเนินงานโดยใช้เครื่องจักรเป็นส่วนใหญ่เข้ามาดำเนินการในโครงการได้ นอกจากนี้ธนาคารออมสินได้พัฒนาระบบข้อมูลราคามาตรฐานต่อหน่วย (Unit Cost Data Base) สำหรับวัสดุและค่าจ้างแรงงานขึ้นใหม่เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการประเมินค่าใช้จ่ายโครงการ โดยใช้ราคากลางทางราชการเป็นฐาน และได้สำรวจราคาวัสดุและครุภัณฑ์ในพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อใช้ในการกำหนดราคากลางให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของแต่ละพื้นที่ โดยจะต้องเท่ากับหรือต่ำกว่าราคามาตรฐานต่อหน่วยที่ทางราชการกำหนด เพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์โดยการเสนอราคาที่สูงเกินจริง ส่วนค่าจ้างแรงงานจะใช้ราคาตามที่กฎหมายแรงงานกำหนด
4. พื้นที่ดำเนินการซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเน้นพื้นที่ที่มีศักยภาพ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจและพื้นที่ยากจน นั้น ควรพิจารณาให้มีการกระจายการดำเนินการไปในทุกพื้นที่ของประเทศโดยทั่วถึงกัน และให้คำนึงถึงประชากรเป็นหลัก
กระทรวงการคลังชี้แจงว่า คณะกรรมการกำกับนโยบาย (PSC) มีมติในเบื้องต้นว่าควรให้ใช้แผนภูมิเป้าหมาย (Targeting Map) ที่ธนาคารออมสิน โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อการลงทุนทางสังคม ได้กำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนตามตัวชี้วัด ที่นำมาใช้ประกอบการพิจารณา ดังนี้ จำนวนประชากร ให้น้ำหนัก ร้อยละ 25 จำนวนคนว่างงานนอกฤดูกาล ให้น้ำหนัก ร้อยละ 25 จำนวนประชากรยากจน ให้น้ำหนัก ร้อยละ 40 จำนวนคนว่างงานตามฤดูกาล ให้น้ำหนัก ร้อยละ 10
สำหรับการกระจายเงินอุดหนุน ธนาคารออมสินจัดแบ่งพื้นที่ทั่วประเทศเป็น 9 กลุ่มจังหวัด และใช้เกณฑ์ตัวชี้วัดข้างต้นในการจัดสรรเงินสำหรับแต่ละกลุ่มจังหวัด แต่ละจังหวัดจะไม่กำหนดเงินอุดหนุนให้ แต่จะพิจารณาจากโครงการที่ชุมชนของแต่ละจังหวัดเสนอมา โดยแต่ละจังหวัดจะมีการแข่งขันกันในกลุ่มของตนเองเพื่อเสนอโครงการที่ดี หรือจัดทำเป็นโครงการร่วมกันระหว่างจังหวัด โดยธนาคารออมสินจะพิจารณาทบทวนการกระจายเงินอุดหนุนทุก ๆ 6 เดือน ตามสถานการณ์และความจำเป็นในแต่ละพื้นที่และในระยะต่อไป จะต้องสอดคล้องกับสัดส่วนประชากรและกรอบการแบ่งปันงบประมาณของประเทศโดยรวม
5. การสนับสนุนทางการเงินแบบให้เปล่า หากดำเนินการในลักษณะเงินทุนหมุนเวียนจะทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างกว้างขวาง มีผู้ได้รับประโยชน์มากขึ้น และเป็นไปตามเป้าหมายของกองทุน
กระทรวงการคลังชี้แจงว่า ขณะนี้ธนาคารออมสินได้พิจารณาสนับสนุนทางการเงินในลักษณะเงินอุดหนุน แก่โครงการที่เสนอโดยองค์กรชุมชนทุกประเภทที่อยู่ในข่ายได้รับการสนับสนุนโดยพยายามหลีกเลี่ยงการใช้คำว่าให้เปล่า โดยให้ชุมชนสมทบค่าใช้จ่ายโครงการเพื่อดำเนินโครงการส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังเน้นให้มีการคืนทุนทั้งในด้านเศรษฐกิจและด้านสังคมแก่ชุมชนและสังคม จึงได้ถือว่าเป็นการส่งเสริมให้องค์กรที่ได้รับการสนับสนุนโครงการสามารถจัดให้มีกองทุนหมุนเวียนขึ้นในองค์กรเพื่อดำเนินการในระยะต่อไปได้อยู่แล้ว นอกเหนือจากกรณีปกติที่ชุมชนต้องการเงินทุนหมุนเวียนก็สามารถใช้เงินจากกองทุนหมุนเวียนต่าง ๆ ของรัฐที่มีอยู่แล้ว หรือรัฐอาจใช้เงินงบประมาณมาจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนขึ้นใหม่หรือเพิ่มขนาดของกองทุนหมุนเวียนที่มีอยู่แล้วได้
6. ขั้นตอนการดำเนินงานซึ่งจะมีการส่งเสริมและเผยแพร่ข้อมูลของกองทุน โดยกระทำผ่านสื่อในหลายรูปแบบ นั้น คณะกรรมการบริหารกองทุนควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการให้ชัดเจน รวมทั้งความแตกต่างกับโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐอื่น ๆ โดยให้มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง
กระทรวงการคลังชี้แจงว่า ได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินดำเนินการส่งเสริมและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนฯ โดยผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ รวมทั้งการเผยแพร่ข้อมูลในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้ชุมชนและองค์กรที่เกี่ยวข้องได้ทราบถึงหลักเกณฑ์ แนวทางและขั้นตอนการดำเนินงานของกองทุนฯ อย่างชัดเจนและทั่วถึงอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ธนาคารออมสิน ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการให้ชัดเจนและให้มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องทั่วถึง และในกรณีที่ต้องทำความกระจ่างในส่วนของโครงการภาครัฐอื่นที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง ก็จะประชาสัมพันธ์ควบคู่กันไปด้วยเพื่อความชัดเจน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 15 ธันวาคม 2541--
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังชี้แจงตามข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2541 เรื่อง โครงการลงทุนเพื่อสังคมและการกู้เงินจากธนาคารโลก สรุปได้ดังนี้
1. การมอบหมายให้ธนาคารออมสินบริหารจัดการโครงการแนวทางที่ 2 ภายใต้โครงการลงทุนเพื่อสังคม จะเป็นการขัดกับอำนาจหน้าที่ของธนาคารออมสินตามพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. 2489 หรือไม่
กระทรวงการคลังชี้แจงว่าในชั้นต้นเห็นว่า น่าจะไม่ขัดกับอำนาจหน้าที่ของธนาคารออมสิน เนื่องจากการบริหารโครงการลงทุนเป็นการดำเนินการในฐานะตัวแทนของกระทรวงการคลังตามหลักกฎหมายในเรื่องตัวแทน ประกอบกับวัตถุประสงค์ของการบริหารกองทุน ไม่มีข้อใดขัดกับวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งธนาคารออมสินและการประกอบธุรกิจของธนาคารออมสิน แต่เพื่อความชัดเจนในประเด็นนั้น กระทรวงการคลังและธนาคารออมสินจึงได้ดำเนินการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดกิจการอันพึงเป็นงานธนาคารของธนาคารออมสิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 ออกตามความในพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. 2489 และยกร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ 43) พ.ศ. 2541 ว่าด้วยการประกอบกิจการอันพึงเป็นงานธนาคารของธนาคารออมสินที่เกี่ยวกับกาารจัดการหรือรับจัดการกองทุนตามมาตรา 3(12) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ เพื่อกำหนดวัตถุประสงค์และประเภทของธุรกิจให้ธนาคารออมสิน สามารถบริหาารจัดการโครงการลงทุนเพื่อสังคม ตามแนวทางที่ 2 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2541 อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาฯ และเห็นชอบร่างกฎกระทรวงตามที่กระทรวงการคลังเสนอ จึงถือได้ว่าการมอบหมายให้ธนาคารออมสินบริหารจัดการโครงการลงทุนเพื่อสังคม ตามแนวทางที่ 2 นั้นไม่ขัดกับอำนาจหน้าที่ของธนาคารออมสิน ตามพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. 2489 อย่างแน่นอน
2. การสนับสนุนแบบให้เปล่าโครงการต่าง ๆ ที่เสนอโดยองค์กรชุมชน ซึ่งกำหนดเกณฑ์ว่าต้องเป็นโครงการที่ไม่ซ้ำกับโครงการของภาครัฐที่ได้รับการสนับสนุนอยู่หรือได้รับแหล่งทุนอื่นแล้ว นั้น ควรกำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมด้วยว่า พื้นที่ดำเนินโครงการต้องไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการในแนวทางที่ 1 และโครงการของภาครัฐอื่น ๆ
กระทรวงการคลังชี้แจงว่า ธนาคารออมสิน ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน ทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอเพื่อตรวจสอบความซ้ำซ้อนของพื้นที่โครงการ ซึ่งต้องไม่เป็นโครงการที่ซ้ำซ้อนกับโครงการตามแนวทางที่ 1 และโครงการของภาครัฐอื่น ๆ อยู่แล้ว นอกจากนี้คณะกรรมการกำกับนโยบาย (PSC) ยังได้มอบหมายให้ธนาคารออมสิน กำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมว่าความไม่ซ้ำซ้อนนั้น ให้หมายรวมถึงการไม่ซ้ำซ้อนทั้งพื้นที่โครงการและกิจกรรมของโครงการด้วย
3. เกณฑ์การสนับสนุนโครงการที่เน้นการใช้แรงงานคนและเทคโนโลยีเรียบง่าย นั้น จะต้องไม่เป็นช่องทางให้ผู้รับเหมาที่ดำเนินงานโดยใช้เครื่องจักรเป็นส่วนใหญ่สามารถเข้ามาดำเนินงานตามโครงการนี้ได้
กระทรวงการคลังชี้แจงว่า ธนาคารออมสินได้กำหนดหลักเกณฑ์การสนับสนุนแก่องค์กรชุมชนไว้ว่าต้องเป็นโครงการขนาดเล็กที่ใช้เทคโนโลยีเรียบง่าย โดยเน้นการใช้แรงงานในท้องถิ่นและไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับเหมา ที่ดำเนินงานโดยใช้เครื่องจักรเป็นส่วนใหญ่เข้ามาดำเนินการในโครงการได้ นอกจากนี้ธนาคารออมสินได้พัฒนาระบบข้อมูลราคามาตรฐานต่อหน่วย (Unit Cost Data Base) สำหรับวัสดุและค่าจ้างแรงงานขึ้นใหม่เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการประเมินค่าใช้จ่ายโครงการ โดยใช้ราคากลางทางราชการเป็นฐาน และได้สำรวจราคาวัสดุและครุภัณฑ์ในพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อใช้ในการกำหนดราคากลางให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของแต่ละพื้นที่ โดยจะต้องเท่ากับหรือต่ำกว่าราคามาตรฐานต่อหน่วยที่ทางราชการกำหนด เพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์โดยการเสนอราคาที่สูงเกินจริง ส่วนค่าจ้างแรงงานจะใช้ราคาตามที่กฎหมายแรงงานกำหนด
4. พื้นที่ดำเนินการซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเน้นพื้นที่ที่มีศักยภาพ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจและพื้นที่ยากจน นั้น ควรพิจารณาให้มีการกระจายการดำเนินการไปในทุกพื้นที่ของประเทศโดยทั่วถึงกัน และให้คำนึงถึงประชากรเป็นหลัก
กระทรวงการคลังชี้แจงว่า คณะกรรมการกำกับนโยบาย (PSC) มีมติในเบื้องต้นว่าควรให้ใช้แผนภูมิเป้าหมาย (Targeting Map) ที่ธนาคารออมสิน โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อการลงทุนทางสังคม ได้กำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนตามตัวชี้วัด ที่นำมาใช้ประกอบการพิจารณา ดังนี้ จำนวนประชากร ให้น้ำหนัก ร้อยละ 25 จำนวนคนว่างงานนอกฤดูกาล ให้น้ำหนัก ร้อยละ 25 จำนวนประชากรยากจน ให้น้ำหนัก ร้อยละ 40 จำนวนคนว่างงานตามฤดูกาล ให้น้ำหนัก ร้อยละ 10
สำหรับการกระจายเงินอุดหนุน ธนาคารออมสินจัดแบ่งพื้นที่ทั่วประเทศเป็น 9 กลุ่มจังหวัด และใช้เกณฑ์ตัวชี้วัดข้างต้นในการจัดสรรเงินสำหรับแต่ละกลุ่มจังหวัด แต่ละจังหวัดจะไม่กำหนดเงินอุดหนุนให้ แต่จะพิจารณาจากโครงการที่ชุมชนของแต่ละจังหวัดเสนอมา โดยแต่ละจังหวัดจะมีการแข่งขันกันในกลุ่มของตนเองเพื่อเสนอโครงการที่ดี หรือจัดทำเป็นโครงการร่วมกันระหว่างจังหวัด โดยธนาคารออมสินจะพิจารณาทบทวนการกระจายเงินอุดหนุนทุก ๆ 6 เดือน ตามสถานการณ์และความจำเป็นในแต่ละพื้นที่และในระยะต่อไป จะต้องสอดคล้องกับสัดส่วนประชากรและกรอบการแบ่งปันงบประมาณของประเทศโดยรวม
5. การสนับสนุนทางการเงินแบบให้เปล่า หากดำเนินการในลักษณะเงินทุนหมุนเวียนจะทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างกว้างขวาง มีผู้ได้รับประโยชน์มากขึ้น และเป็นไปตามเป้าหมายของกองทุน
กระทรวงการคลังชี้แจงว่า ขณะนี้ธนาคารออมสินได้พิจารณาสนับสนุนทางการเงินในลักษณะเงินอุดหนุน แก่โครงการที่เสนอโดยองค์กรชุมชนทุกประเภทที่อยู่ในข่ายได้รับการสนับสนุนโดยพยายามหลีกเลี่ยงการใช้คำว่าให้เปล่า โดยให้ชุมชนสมทบค่าใช้จ่ายโครงการเพื่อดำเนินโครงการส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังเน้นให้มีการคืนทุนทั้งในด้านเศรษฐกิจและด้านสังคมแก่ชุมชนและสังคม จึงได้ถือว่าเป็นการส่งเสริมให้องค์กรที่ได้รับการสนับสนุนโครงการสามารถจัดให้มีกองทุนหมุนเวียนขึ้นในองค์กรเพื่อดำเนินการในระยะต่อไปได้อยู่แล้ว นอกเหนือจากกรณีปกติที่ชุมชนต้องการเงินทุนหมุนเวียนก็สามารถใช้เงินจากกองทุนหมุนเวียนต่าง ๆ ของรัฐที่มีอยู่แล้ว หรือรัฐอาจใช้เงินงบประมาณมาจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนขึ้นใหม่หรือเพิ่มขนาดของกองทุนหมุนเวียนที่มีอยู่แล้วได้
6. ขั้นตอนการดำเนินงานซึ่งจะมีการส่งเสริมและเผยแพร่ข้อมูลของกองทุน โดยกระทำผ่านสื่อในหลายรูปแบบ นั้น คณะกรรมการบริหารกองทุนควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการให้ชัดเจน รวมทั้งความแตกต่างกับโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐอื่น ๆ โดยให้มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง
กระทรวงการคลังชี้แจงว่า ได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินดำเนินการส่งเสริมและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนฯ โดยผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ รวมทั้งการเผยแพร่ข้อมูลในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้ชุมชนและองค์กรที่เกี่ยวข้องได้ทราบถึงหลักเกณฑ์ แนวทางและขั้นตอนการดำเนินงานของกองทุนฯ อย่างชัดเจนและทั่วถึงอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ธนาคารออมสิน ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการให้ชัดเจนและให้มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องทั่วถึง และในกรณีที่ต้องทำความกระจ่างในส่วนของโครงการภาครัฐอื่นที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง ก็จะประชาสัมพันธ์ควบคู่กันไปด้วยเพื่อความชัดเจน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 15 ธันวาคม 2541--