ทำเนียบรัฐบาล--20 ก.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติการเปิดสถานกงสุลใหญ่อาชีด สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ประจำกรุงเทพฯ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาแล้วเห็นว่าสถานกงสุลใหญ่อาชีด สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประจำ กรุงเทพฯ ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อทำหน้าที่เป็นสำนักงานตัวแทนรัฐบาลในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยน ทางวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและ การพัฒนาความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ สาธารณรัฐอุซเบกิสถานจะ ได้ยกระดับสถานกงสุลใหญ่ฯ ดังกล่าวขึ้นเป็นสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยในโอกาสต่อไป
ในการนี้ สาธารณรัฐอุซเบกิสถานเป็นประเทศหนึ่งที่แยกตัวออกมาจากสหภาพโซเวียต และ ประกาศเอกราชเมื่อปี 2534 ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียกลางติดกับทางตอนใต้ของสาธารณรัฐคาซัคสถาน มีระบบพรรคการเมืองพรรคเดียว โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข มีนโยบายพัฒนาประเทศตามแนวทาง เสรีนิยมประชาธิปไตย และแยกการเมืองออกจากศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ เป็น ประเทศหนึ่งที่มีระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และมีเสถียรภาพและความมั่นคงที่สุดในภูมิภาคเอเชียกลาง
ประเทศไทยได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐอุซเบกิสถานเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2535 โดยมีความสัมพันธ์ที่มีแนวโน้มที่จะพัฒนาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ประเทศไทยนับเป็น ประเทศที่ไม่ใช่มุสลิมประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประสงค์จะตั้งสำนักงานตัวแทนการทูตและกงสุล ซึ่งไทยกำลังพิจารณาเปิดสถานเอกอัครราชทูตประจำสาธารณรัฐ อุซเบกิสถาน การเปิดสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประจำกรุงเทพฯ จะเป็นการเสริมสร้าง ช่องทางการทูตที่สำคัญที่สาธารณรัฐอุซเบกิสถานจะสนองตอบในการขอเปิดสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำสาธารณรัฐอุซเบกิสถานในอนาคตประเทศไทยและสาธารณรัฐอุซเบกิสถานได้ให้ความสนใจใน การติดต่อค้าขายสินค้าระหว่างกันในหลายประเภท ปัจจุบันได้มีการเปิดสายการบินแห่งชาติของ สาธารณรัฐอุซเบกิสถานจากกรุงทาชเคนต์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐอุซเบกิสถานมายังกรุงเทพฯ ทำให้ การติดต่อค้าขายสะดวกและขยายตัวสูงขึ้น ดังนั้น การเปิดสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประจำ กรุงเทพฯ จะเป็นประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกแก่การติดต่อทางด้านธุรกิจ และส่งเสริมความ สัมพันธ์อันดีทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทย และสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 19 กันยายน 2539--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติการเปิดสถานกงสุลใหญ่อาชีด สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ประจำกรุงเทพฯ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาแล้วเห็นว่าสถานกงสุลใหญ่อาชีด สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประจำ กรุงเทพฯ ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อทำหน้าที่เป็นสำนักงานตัวแทนรัฐบาลในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยน ทางวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและ การพัฒนาความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ สาธารณรัฐอุซเบกิสถานจะ ได้ยกระดับสถานกงสุลใหญ่ฯ ดังกล่าวขึ้นเป็นสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยในโอกาสต่อไป
ในการนี้ สาธารณรัฐอุซเบกิสถานเป็นประเทศหนึ่งที่แยกตัวออกมาจากสหภาพโซเวียต และ ประกาศเอกราชเมื่อปี 2534 ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียกลางติดกับทางตอนใต้ของสาธารณรัฐคาซัคสถาน มีระบบพรรคการเมืองพรรคเดียว โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข มีนโยบายพัฒนาประเทศตามแนวทาง เสรีนิยมประชาธิปไตย และแยกการเมืองออกจากศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ เป็น ประเทศหนึ่งที่มีระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และมีเสถียรภาพและความมั่นคงที่สุดในภูมิภาคเอเชียกลาง
ประเทศไทยได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐอุซเบกิสถานเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2535 โดยมีความสัมพันธ์ที่มีแนวโน้มที่จะพัฒนาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ประเทศไทยนับเป็น ประเทศที่ไม่ใช่มุสลิมประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประสงค์จะตั้งสำนักงานตัวแทนการทูตและกงสุล ซึ่งไทยกำลังพิจารณาเปิดสถานเอกอัครราชทูตประจำสาธารณรัฐ อุซเบกิสถาน การเปิดสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประจำกรุงเทพฯ จะเป็นการเสริมสร้าง ช่องทางการทูตที่สำคัญที่สาธารณรัฐอุซเบกิสถานจะสนองตอบในการขอเปิดสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำสาธารณรัฐอุซเบกิสถานในอนาคตประเทศไทยและสาธารณรัฐอุซเบกิสถานได้ให้ความสนใจใน การติดต่อค้าขายสินค้าระหว่างกันในหลายประเภท ปัจจุบันได้มีการเปิดสายการบินแห่งชาติของ สาธารณรัฐอุซเบกิสถานจากกรุงทาชเคนต์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐอุซเบกิสถานมายังกรุงเทพฯ ทำให้ การติดต่อค้าขายสะดวกและขยายตัวสูงขึ้น ดังนั้น การเปิดสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประจำ กรุงเทพฯ จะเป็นประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกแก่การติดต่อทางด้านธุรกิจ และส่งเสริมความ สัมพันธ์อันดีทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทย และสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 19 กันยายน 2539--