คณะรัฐมนตรีรับทราบการดำเนินการกับโรงสีและท่าข้าวที่มีพฤติกรรมกระทำความผิดตามที่กระทรวพาณิชย์เสนอ ดังนี้
1. การประชุมคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พุทธศักราช 2489 (คณะกรรมการ ป.ก.ข.) ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานกรรมการ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2548 เพื่อพิจารณากำหนดประเภทของผู้ประกอบการค้าข้าวและให้ผู้ประกอบการค้าข้าวขออนุญาต โดย
1.1 ให้เพิ่มประเภทผู้ประกอบการค้าข้าวจากเดิมที่กำหนดไว้ 7 ประเภท (ค้าข้าวส่งไปจำหน่ายต่างประเทศ สีข้าว ซื้อขายโดยมียุ้งฉาง ขายส่ง ขายปลีก เรือข้าว และค้าเร่) เพิ่มเป็น 8 ประเภท โดยเพิ่มเติม ท่าข้าว เป็นประเภทผู้ประกอบการค้าข้าวอีก 1 ประเภท และกำหนดความหมายของผู้ประกอบการค้าข้าวประเภท ท่าข้าว ได้แก่ ผู้ทำการค้าข้าวที่มีสถานที่จัดไว้เพื่อทำการค้าข้าวและให้รวมถึงตลาดกลางข้าวเปลือกด้วย พร้อมทั้งกำหนดให้ผู้ประกอบการค้าข้าวประเภทท่าข้าวต้องขออนุญาตประกอบการค้าข้าวเพิ่มเติมจากเดิมที่กำหนดเพียง 3 ประเภท คือ ค้าข้าวส่งไปจำหน่ายต่างประเทศ สีข้าว และขายส่ง
1.2 กำหนดเงื่อนไขในหนังสืออนุญาตให้ผู้ประกอบการค้าข้าวประเภทสีข้าวและท่าข้าว ต้องปฏิบัติ ดังนี้ 1) ใช้เครื่องชั่งและเครื่องวัดความชื้นที่มีคำรับรองจากกรมการค้าภายใน ตามกฎหมายว่าด้วยมาตราชั่งตวงวัด 2) ไม่เอาเปรียบเกษตรกรในการซื้อขาย การชั่งน้ำหนัก การหักลดน้ำหนักความชื้น และการหักสิ่งเจือปน 3) ไม่ปลอมปนข้าว และ 4) ปฏิบัติตามนโยบายหรือระเบียบของทางราชการเกี่ยวกับการค้าข้าวโดยเคร่งครัด
1.3 กำหนดระยะเวลาในการเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวแก่ผู้ค้าข้าวประเภทสีข้าวและท่าข้าวที่กระทำความผิดครั้งแรกให้เพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวไม่เกิน 6 เดือน และครั้งที่สองให้เพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวไม่เกิน 2 ปี โดยให้พิจารณาตามความหนักเบาของการกระทำความผิด กรณีจะเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวของผู้ประกอบการรายใด ขอให้นำเสนอคณะกรรมการ ป.ก.ข. พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการต่อไป
การกำหนดประเภทของผู้ประกอบการค้าข้าวและให้ผู้ประกอบการค้าข้าวขออนุญาตเพิ่มเติม รวมทั้งการกำหนดเงื่อนไขในหนังสืออนุญาตให้ผู้ประกอบการค้าข้าวประเภทสีข้าวและท่าข้าวต้องปฏิบัติตามมติคณะกรรมการ ป.ก.ข. ดังข้างต้น จะมีผลให้โรงสีและท่าข้าว ซึ่งจะต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการค้าข้าวกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด ตาม 1.2 และหากโรงสีหรือท่าข้าวปฏิบัติ ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่วางไว้จะสามารถเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการรายนั้นไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ตามระยะเวลาที่ถูกเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าว
2. การดำเนินการดูแลให้ความเป็นธรรมกับเกษตรกร โดยได้มีหนังสือขอความร่วมมือจังหวัดกำกับดูแลให้ความเป็นธรรมในการจำนำและ/หรือซื้อขายข้าวเปลือกของเกษตรกร โดยให้สอดส่องดูแลพฤติกรรมของ โรงสี และหากโรงสีมีพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร ขอให้ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เข้มงวดกวดขันมิให้มีการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรในการจำนำและ/หรือซื้อขายข้าวเปลือกของเกษตรกรตลอดมา โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2547 ถึงมกราคม 2548 ได้ตรวจสอบโรงสีและสถานที่รับซื้อสินค้าเกษตร จำนวน 2,137 ราย เครื่องชั่ง 2,240 เครื่อง เครื่องถูกต้อง 2,032 เครื่อง เครื่องผิดตามสภาพการใช้งานไม่ได้มีเจตนาทุจริตได้ดำเนินการผูกบัตรห้ามใช้และสั่งแก้ไขให้ถูกต้อง 207 เครื่อง เครื่องผิดมีเจตนาทุจริต 1 เครื่อง ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีแล้ว
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าเมื่อมีการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการค้าข้าวที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ตามผลการประชุม
คณะกรรมการ ป.ก.ข. ตาม 1 แล้ว จะช่วยให้การเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรของโรงสีและท่าข้าวลดน้อยลง เพราะการเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวจะมีผลให้โรงสีและท่าข้าวต้องยุติการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นบทลงโทษที่รุนแรงมาก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548--จบ--
1. การประชุมคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พุทธศักราช 2489 (คณะกรรมการ ป.ก.ข.) ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานกรรมการ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2548 เพื่อพิจารณากำหนดประเภทของผู้ประกอบการค้าข้าวและให้ผู้ประกอบการค้าข้าวขออนุญาต โดย
1.1 ให้เพิ่มประเภทผู้ประกอบการค้าข้าวจากเดิมที่กำหนดไว้ 7 ประเภท (ค้าข้าวส่งไปจำหน่ายต่างประเทศ สีข้าว ซื้อขายโดยมียุ้งฉาง ขายส่ง ขายปลีก เรือข้าว และค้าเร่) เพิ่มเป็น 8 ประเภท โดยเพิ่มเติม ท่าข้าว เป็นประเภทผู้ประกอบการค้าข้าวอีก 1 ประเภท และกำหนดความหมายของผู้ประกอบการค้าข้าวประเภท ท่าข้าว ได้แก่ ผู้ทำการค้าข้าวที่มีสถานที่จัดไว้เพื่อทำการค้าข้าวและให้รวมถึงตลาดกลางข้าวเปลือกด้วย พร้อมทั้งกำหนดให้ผู้ประกอบการค้าข้าวประเภทท่าข้าวต้องขออนุญาตประกอบการค้าข้าวเพิ่มเติมจากเดิมที่กำหนดเพียง 3 ประเภท คือ ค้าข้าวส่งไปจำหน่ายต่างประเทศ สีข้าว และขายส่ง
1.2 กำหนดเงื่อนไขในหนังสืออนุญาตให้ผู้ประกอบการค้าข้าวประเภทสีข้าวและท่าข้าว ต้องปฏิบัติ ดังนี้ 1) ใช้เครื่องชั่งและเครื่องวัดความชื้นที่มีคำรับรองจากกรมการค้าภายใน ตามกฎหมายว่าด้วยมาตราชั่งตวงวัด 2) ไม่เอาเปรียบเกษตรกรในการซื้อขาย การชั่งน้ำหนัก การหักลดน้ำหนักความชื้น และการหักสิ่งเจือปน 3) ไม่ปลอมปนข้าว และ 4) ปฏิบัติตามนโยบายหรือระเบียบของทางราชการเกี่ยวกับการค้าข้าวโดยเคร่งครัด
1.3 กำหนดระยะเวลาในการเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวแก่ผู้ค้าข้าวประเภทสีข้าวและท่าข้าวที่กระทำความผิดครั้งแรกให้เพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวไม่เกิน 6 เดือน และครั้งที่สองให้เพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวไม่เกิน 2 ปี โดยให้พิจารณาตามความหนักเบาของการกระทำความผิด กรณีจะเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวของผู้ประกอบการรายใด ขอให้นำเสนอคณะกรรมการ ป.ก.ข. พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการต่อไป
การกำหนดประเภทของผู้ประกอบการค้าข้าวและให้ผู้ประกอบการค้าข้าวขออนุญาตเพิ่มเติม รวมทั้งการกำหนดเงื่อนไขในหนังสืออนุญาตให้ผู้ประกอบการค้าข้าวประเภทสีข้าวและท่าข้าวต้องปฏิบัติตามมติคณะกรรมการ ป.ก.ข. ดังข้างต้น จะมีผลให้โรงสีและท่าข้าว ซึ่งจะต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการค้าข้าวกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด ตาม 1.2 และหากโรงสีหรือท่าข้าวปฏิบัติ ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่วางไว้จะสามารถเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการรายนั้นไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ตามระยะเวลาที่ถูกเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าว
2. การดำเนินการดูแลให้ความเป็นธรรมกับเกษตรกร โดยได้มีหนังสือขอความร่วมมือจังหวัดกำกับดูแลให้ความเป็นธรรมในการจำนำและ/หรือซื้อขายข้าวเปลือกของเกษตรกร โดยให้สอดส่องดูแลพฤติกรรมของ โรงสี และหากโรงสีมีพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร ขอให้ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เข้มงวดกวดขันมิให้มีการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรในการจำนำและ/หรือซื้อขายข้าวเปลือกของเกษตรกรตลอดมา โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2547 ถึงมกราคม 2548 ได้ตรวจสอบโรงสีและสถานที่รับซื้อสินค้าเกษตร จำนวน 2,137 ราย เครื่องชั่ง 2,240 เครื่อง เครื่องถูกต้อง 2,032 เครื่อง เครื่องผิดตามสภาพการใช้งานไม่ได้มีเจตนาทุจริตได้ดำเนินการผูกบัตรห้ามใช้และสั่งแก้ไขให้ถูกต้อง 207 เครื่อง เครื่องผิดมีเจตนาทุจริต 1 เครื่อง ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีแล้ว
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าเมื่อมีการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการค้าข้าวที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ตามผลการประชุม
คณะกรรมการ ป.ก.ข. ตาม 1 แล้ว จะช่วยให้การเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรของโรงสีและท่าข้าวลดน้อยลง เพราะการเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวจะมีผลให้โรงสีและท่าข้าวต้องยุติการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นบทลงโทษที่รุนแรงมาก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548--จบ--