ทำเนียบรัฐบาล--13 พ.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง เรื่องโครงการลงทุนเพื่อสังคมและการกู้เงินจากธนาคารโลก ดังนี้
1. อนุมัติให้กระทรวงการคลังดำเนินโครงการลงทุนเพื่อสังคม ในวงเงินทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 21,689.0 ล้านบาท หรือเทียบเท่าประมาณ 482.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ หากมีการทบทวนโครงการย่อยให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการกำกับนโยบาย (PSC) เป็นผู้อนุมัติการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงการและจัดสรรเงินกู้ตามความจำเป็นและเหมาะสมภายใต้กรอบวงเงินลงทุน
2. อนุมัติในหลักการและเงื่อนไขให้กระทรวงการคลังกู้เงินจากธนาคารโลกในวงเงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำมาใช้จ่ายตามโครงการย่อยภายใต้แนวทางที่ 1 จำนวน 12 โครงการ และแนวทางที่ 2 ทั้งนี้ ในส่วนโครงการย่อยที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้ดำเนินการได้ เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจฯ แล้ว
3. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลงนามในสัญญากู้เงิน รวมทั้งเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
4. ให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณสมทบสำหรับโครงการในแนวทางที่ 1 ตามความจำเป็นในแต่ละปีต่อไป
5. ให้กระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเทศบาลที่มีสิทธิใช้เงินกู้ภายใต้กองทุนพัฒนาเมืองในภูมิภาค (RUDF)
6. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดเตรียมทำความเห็นทางกฎหมายโดยด่วนต่อไป
กระทรวงการคลังพิจารณาเห็นว่า ปัญหาวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาวะการจ้างงาน ซึ่งจากการคาดการณ์ของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมจะมีผู้ว่างงานและผู้ถูกเลิกจ้างเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปี 2541 ประมาณ 2 ล้านคน ซึ่งจะขยายผลไปสู่ปัญหาทางสังคมในอนาคตเป็นอย่างมาก จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว แต่โดยที่รัฐบาลมีงบประมาณที่จะนำมาใช้จ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจำกัด ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงได้พิจาณาทาบทามขอกู้เงินจากธนาคารโลกและรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาทางสังคมแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจดังกล่าว โดยได้จัดทำเป็นโครงการเงินกู้ภายใต้ชื่อ "โครงการลงทุนเพื่อสังคม (Social Investment Project - SIP)" ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้มีมติเห็นชอบในหลักการและกรอบการดำเนินโครงการการบริหาร จัดการ ตลอดจนโครงการย่อยภายใต้กรอบโครงการการลงทุนในแนวทางที่ 1 แล้ว เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2541
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 12 พฤษภาคม 2541--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง เรื่องโครงการลงทุนเพื่อสังคมและการกู้เงินจากธนาคารโลก ดังนี้
1. อนุมัติให้กระทรวงการคลังดำเนินโครงการลงทุนเพื่อสังคม ในวงเงินทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 21,689.0 ล้านบาท หรือเทียบเท่าประมาณ 482.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ หากมีการทบทวนโครงการย่อยให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการกำกับนโยบาย (PSC) เป็นผู้อนุมัติการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงการและจัดสรรเงินกู้ตามความจำเป็นและเหมาะสมภายใต้กรอบวงเงินลงทุน
2. อนุมัติในหลักการและเงื่อนไขให้กระทรวงการคลังกู้เงินจากธนาคารโลกในวงเงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำมาใช้จ่ายตามโครงการย่อยภายใต้แนวทางที่ 1 จำนวน 12 โครงการ และแนวทางที่ 2 ทั้งนี้ ในส่วนโครงการย่อยที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้ดำเนินการได้ เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจฯ แล้ว
3. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลงนามในสัญญากู้เงิน รวมทั้งเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
4. ให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณสมทบสำหรับโครงการในแนวทางที่ 1 ตามความจำเป็นในแต่ละปีต่อไป
5. ให้กระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเทศบาลที่มีสิทธิใช้เงินกู้ภายใต้กองทุนพัฒนาเมืองในภูมิภาค (RUDF)
6. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดเตรียมทำความเห็นทางกฎหมายโดยด่วนต่อไป
กระทรวงการคลังพิจารณาเห็นว่า ปัญหาวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาวะการจ้างงาน ซึ่งจากการคาดการณ์ของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมจะมีผู้ว่างงานและผู้ถูกเลิกจ้างเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปี 2541 ประมาณ 2 ล้านคน ซึ่งจะขยายผลไปสู่ปัญหาทางสังคมในอนาคตเป็นอย่างมาก จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว แต่โดยที่รัฐบาลมีงบประมาณที่จะนำมาใช้จ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจำกัด ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงได้พิจาณาทาบทามขอกู้เงินจากธนาคารโลกและรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาทางสังคมแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจดังกล่าว โดยได้จัดทำเป็นโครงการเงินกู้ภายใต้ชื่อ "โครงการลงทุนเพื่อสังคม (Social Investment Project - SIP)" ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้มีมติเห็นชอบในหลักการและกรอบการดำเนินโครงการการบริหาร จัดการ ตลอดจนโครงการย่อยภายใต้กรอบโครงการการลงทุนในแนวทางที่ 1 แล้ว เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2541
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 12 พฤษภาคม 2541--