แท็ก
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
กระทรวงการต่างประเทศ
สาธารณรัฐประชาชนจีน
กระทรวงการคลัง
นายกรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการทำหนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อจัดตั้งสำนักงานกงสุล ณ นครซีอาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้สืบเนื่องจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 19 —23 พฤษภาคม 2548 และได้แจ้งต่อทางการมณฑลส่านซี (Shaanxi) สาธารณรัฐประชาชนจีนว่ารัฐบาลไทยจะจัดตั้งสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซีอานโดยเร็ว เพื่อกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจรวมทั้งอำนวยความสะดวกให้ชาวส่านซีเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
ซึ่งรัฐบาลจีนได้เห็นชอบต่อการที่รัฐบาลไทยจะจัดตั้งสำนักงานกงสุล ณ นครซีอานแล้ว โดยในชั้นต้นสำนักงานกงสุลดังกล่าวจะเป็นส่วนแยกของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง โดยมีเขตอาณาครอบคลุมมณฑลส่านซี มณฑลกานซู และเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย และรัฐบาลจีนได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักงานกงสุลฯ
ทั้งนี้ การจัดตั้งสำนักงานกงสุล ณ นครซีอานสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การขยายความสัมพันธ์กับจีนในฐานะหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกันอย่างรอบด้าน เนื่องจากนครซีอานเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมที่สำคัญโดยเป็นประตูไปสู่ภาคกลางและภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน นอกจากนั้นมณฑลส่านซียังมีศักยภาพในด้านการค้า การลงทุนเป็นแหล่งอุตสาหกรรมและมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญทางภาคกลางของจีน ตลอดจนเป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ และเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งของการท่องเที่ยวจีน ซึ่งสามารถขยายความร่วมมือกับไทยได้ทั้งในด้านเศรษฐกิจการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 28 มิถุนายน 2548--จบ--
ซึ่งรัฐบาลจีนได้เห็นชอบต่อการที่รัฐบาลไทยจะจัดตั้งสำนักงานกงสุล ณ นครซีอานแล้ว โดยในชั้นต้นสำนักงานกงสุลดังกล่าวจะเป็นส่วนแยกของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง โดยมีเขตอาณาครอบคลุมมณฑลส่านซี มณฑลกานซู และเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย และรัฐบาลจีนได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักงานกงสุลฯ
ทั้งนี้ การจัดตั้งสำนักงานกงสุล ณ นครซีอานสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การขยายความสัมพันธ์กับจีนในฐานะหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกันอย่างรอบด้าน เนื่องจากนครซีอานเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมที่สำคัญโดยเป็นประตูไปสู่ภาคกลางและภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน นอกจากนั้นมณฑลส่านซียังมีศักยภาพในด้านการค้า การลงทุนเป็นแหล่งอุตสาหกรรมและมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญทางภาคกลางของจีน ตลอดจนเป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ และเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งของการท่องเที่ยวจีน ซึ่งสามารถขยายความร่วมมือกับไทยได้ทั้งในด้านเศรษฐกิจการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 28 มิถุนายน 2548--จบ--