คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือกิจการอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือภายในประเทศตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยยกเว้นอากรนำเข้าสำหรับเครื่องจักร วัสดุ และอุปกรณ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ และการให้สิทธิประโยชน์พิเศษด้านการส่งเสริมการลงทุนโดยไม่จำกัดเขต และจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอู่เรือที่ได้มีการศึกษาไว้แล้ว และจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมอื่น ในการตั้งอู่เรือ โดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือภายในประเทศ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้มีผลในทางปฏิบัติเป็นรูปธรรม เพื่อบรรลุเป้าประสงค์ต่อไป
กระทรวงอุตสาหกรรม ได้สรุปผลการดำเนินการ ดังนี้
1. ดำเนินการจัดทำยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากภาครัฐและเอกชน โดยกำหนดกรอบยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ ประกอบด้วยยุทธศาสตร์สำคัญ 3 ด้าน คือ การส่งเสริม สนับสนุนการอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ การแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบ และการบริหารจัดการ ดังนี้
1.1 ด้านการส่งเสริม สนับสนุนกิจการอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ
(1) การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอู่เรือ และจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมอื่นในการตั้งอู่เรือ
(2) ส่งเสริมการขนส่งทางน้ำ โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าชายฝั่งทะเล โดยสร้างท่าเรือภูมิภาคเพิ่มขึ้น เพื่อลดการขนส่งทางถนนลง และประหยัดพลังงาน จัดตั้งกองทุนพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ
(3) ศึกษาความต้องการและสร้างบุคลากรในภาพรวมของอุตสาหกรรมต่อเรือฯ พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจให้นักวิจัยเข้ามาทำงานด้านนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของอู่เรือ จัดตั้งสถาบันตรวจเรือที่เป็นมาตรฐานสากล
(4) ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่อง อุตสาหกรรมผลิตวัสดุ อุปกรณ์และเหล็กที่ใช้ในการต่อเรือและสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการอู่เรือจากต่างประเทศเกิดการร่วมทุนกับผู้ประกอบการไทย
1.2 ด้านการปรับปรุง แก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบ
(1) ยกเว้นอากรนำเข้า สำหรับเครื่องจักร วัสดุ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการต่อเรือและซ่อมเรือ
(2) การให้สิทธิประโยชน์สูงสุดด้านการส่งเสริมการลงทุนแก่อุตสาหกรรมอู่เรือ โดยไม่จำกัดเขตการส่งเสริม และการให้สิทธิพิเศษ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้าน
(3) พัฒนากระบวนการผลิต โดยนำเอาเทคโนโลยี Software เครื่องมือ ระบบการบริหารและจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในอู่เรือ
2. แนวทางการดำเนินการ
2.1 ระยะสั้น และสำคัญเร่งด่วน (1-5 ปี)
(1) ด้านการส่งเสริม สนับสนุนกิจการอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ
- จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอู่เรือตามที่กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีได้ทำการศึกษาไว้หรือจัดหาสถานที่ตั้งอู่เรืออื่น ๆ ที่เหมาะสม
- ส่งเสริมการขนส่งทางน้ำ โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าชายฝั่งทะเล โดยสนับสนุนให้มีการสร้างท่าเรือภูมิภาคเพิ่มขึ้น และปรับปรุงท่าเรือที่มีอยู่ในปัจจุบันให้มีความเหมาะสมสามารถอำนวยความสะดวกได้เพื่อลดการขนส่งทางถนนลง และประหยัดพลังงาน
(2) ด้านการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบ
- ยกเว้นอากรนำเข้า สำหรับเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการต่อเรือและซ่อมเรือ
- ให้สิทธิประโยชน์สูงสุดสำหรับอุตสาหกรรมอู่เรือโดยไม่จำกัดเขต
- กำหนดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจต้องต่อเรือกับอู่เรือในประเทศ ที่มีความสามารถต่อได้และกำชับให้ส่วนราชการฯ ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2546 อย่างเคร่งครัด
2.2 ระยะยาว/ระยะต่อไป (5-10 ปี)
(1) ด้านการส่งเสริม สนับสนุนกิจการอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ
- จัดตั้งกองทุนพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ
- ศึกษาความต้องการและสร้างบุคลากรในภาพรวมของอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือพร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจให้นักวิจัยเข้ามาทำงานด้านนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของอู่เรือ
- ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่อง อุตสาหกรรมผลิตวัสดุ อุปกรณ์และเหล็กที่ใช้ในการต่อเรือ และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการอู่เรือจากต่างประเทศเกิดการร่วมทุนกับผู้ประกอบการไทย
(2) ด้านการบริหารและการจัดการ
- การจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการเพื่อกำกับดูและอำนวยความสะดวกแก่อุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือกับต่างประเทศในด้านต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยี ผู้เชี่ยวชาญ และการพัฒนาบุคลากร รวมถึงการส่งเสริม การวิจัยและพัฒนา
- จัดทำฐานข้อมูลอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ และฐานข้อมูลต่อเรือ และซ่อมเรือ และฐานข้อมูลธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ที่ถูกต้องครบถ้วนและทันสมัย
- พัฒนากระบวนการผลิต โดยนำเอาเทคโนโลยี Software เครื่องมือระบบการบริหารและจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในอู่เรือ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 มกราคม 2548--จบ--
กระทรวงอุตสาหกรรม ได้สรุปผลการดำเนินการ ดังนี้
1. ดำเนินการจัดทำยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากภาครัฐและเอกชน โดยกำหนดกรอบยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ ประกอบด้วยยุทธศาสตร์สำคัญ 3 ด้าน คือ การส่งเสริม สนับสนุนการอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ การแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบ และการบริหารจัดการ ดังนี้
1.1 ด้านการส่งเสริม สนับสนุนกิจการอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ
(1) การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอู่เรือ และจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมอื่นในการตั้งอู่เรือ
(2) ส่งเสริมการขนส่งทางน้ำ โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าชายฝั่งทะเล โดยสร้างท่าเรือภูมิภาคเพิ่มขึ้น เพื่อลดการขนส่งทางถนนลง และประหยัดพลังงาน จัดตั้งกองทุนพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ
(3) ศึกษาความต้องการและสร้างบุคลากรในภาพรวมของอุตสาหกรรมต่อเรือฯ พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจให้นักวิจัยเข้ามาทำงานด้านนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของอู่เรือ จัดตั้งสถาบันตรวจเรือที่เป็นมาตรฐานสากล
(4) ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่อง อุตสาหกรรมผลิตวัสดุ อุปกรณ์และเหล็กที่ใช้ในการต่อเรือและสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการอู่เรือจากต่างประเทศเกิดการร่วมทุนกับผู้ประกอบการไทย
1.2 ด้านการปรับปรุง แก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบ
(1) ยกเว้นอากรนำเข้า สำหรับเครื่องจักร วัสดุ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการต่อเรือและซ่อมเรือ
(2) การให้สิทธิประโยชน์สูงสุดด้านการส่งเสริมการลงทุนแก่อุตสาหกรรมอู่เรือ โดยไม่จำกัดเขตการส่งเสริม และการให้สิทธิพิเศษ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้าน
(3) พัฒนากระบวนการผลิต โดยนำเอาเทคโนโลยี Software เครื่องมือ ระบบการบริหารและจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในอู่เรือ
2. แนวทางการดำเนินการ
2.1 ระยะสั้น และสำคัญเร่งด่วน (1-5 ปี)
(1) ด้านการส่งเสริม สนับสนุนกิจการอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ
- จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอู่เรือตามที่กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีได้ทำการศึกษาไว้หรือจัดหาสถานที่ตั้งอู่เรืออื่น ๆ ที่เหมาะสม
- ส่งเสริมการขนส่งทางน้ำ โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าชายฝั่งทะเล โดยสนับสนุนให้มีการสร้างท่าเรือภูมิภาคเพิ่มขึ้น และปรับปรุงท่าเรือที่มีอยู่ในปัจจุบันให้มีความเหมาะสมสามารถอำนวยความสะดวกได้เพื่อลดการขนส่งทางถนนลง และประหยัดพลังงาน
(2) ด้านการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบ
- ยกเว้นอากรนำเข้า สำหรับเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการต่อเรือและซ่อมเรือ
- ให้สิทธิประโยชน์สูงสุดสำหรับอุตสาหกรรมอู่เรือโดยไม่จำกัดเขต
- กำหนดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจต้องต่อเรือกับอู่เรือในประเทศ ที่มีความสามารถต่อได้และกำชับให้ส่วนราชการฯ ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2546 อย่างเคร่งครัด
2.2 ระยะยาว/ระยะต่อไป (5-10 ปี)
(1) ด้านการส่งเสริม สนับสนุนกิจการอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ
- จัดตั้งกองทุนพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ
- ศึกษาความต้องการและสร้างบุคลากรในภาพรวมของอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือพร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจให้นักวิจัยเข้ามาทำงานด้านนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของอู่เรือ
- ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่อง อุตสาหกรรมผลิตวัสดุ อุปกรณ์และเหล็กที่ใช้ในการต่อเรือ และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการอู่เรือจากต่างประเทศเกิดการร่วมทุนกับผู้ประกอบการไทย
(2) ด้านการบริหารและการจัดการ
- การจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการเพื่อกำกับดูและอำนวยความสะดวกแก่อุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือกับต่างประเทศในด้านต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยี ผู้เชี่ยวชาญ และการพัฒนาบุคลากร รวมถึงการส่งเสริม การวิจัยและพัฒนา
- จัดทำฐานข้อมูลอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ และฐานข้อมูลต่อเรือ และซ่อมเรือ และฐานข้อมูลธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ที่ถูกต้องครบถ้วนและทันสมัย
- พัฒนากระบวนการผลิต โดยนำเอาเทคโนโลยี Software เครื่องมือระบบการบริหารและจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในอู่เรือ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 มกราคม 2548--จบ--