ทำเนียบรัฐบาล--18 ก.พ.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการเตรียมการป้องกัน การขจัด และความร่วมมือเกี่ยวกับมลพิษที่มีสาเหตุจากน้ำมัน ค.ศ.1990 (International Convention on Oil Population Preparedness, Response and Cooperation, 1990) และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเพื่อส่งตราสารการเข้าเป็นภาคีต่อองค์การทางทะเลระหว่างประเทศต่อไป
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์สำคัญของอนุสัญญาดังกล่าว คือ เพื่อให้ประเทศภาคีเตรียมการป้องกันและขจัดมลพิษทางทะเลอันเนื่องมาจากน้ำมันทั้งในระดับชาติ และระดับนานาชาติ และกำหนดให้เรือบรรทุน้ำมันจัดเตรียมแผนฉุกเฉินประจำเรือ เพื่อสามารถดำเนินการป้องกันและแก้ไขความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุของเรือ รวมทั้งให้มีความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐบาลกับภาคอุตสาหกรรม เพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษที่อาจเกิดขึ้นด้วย
สำหรับสาระสำคัญของอนุสัญญาฯ ดักงล่าว สรุปได้ดังนี้
1. เจ้าของเรือหรือฐานขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งต้องจัดทำแผนฉุกเฉินประจำเรือหรือฐานขุดเจาะ ซึ่งกำหนดขั้นตอนและรายละเอียดเกี่ยวกับการแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นกับเรือให้รัฐชายฝั่งทราบและดำเนินการแก้ไข
2. หน่วยงานของรัฐต้องจัดเตรียมแผนปฏิบัติการระดับชาติในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำอันเนื่องมาจากน้ำมัน โดยกำหนดแนวทางในการให้และรับความร่วมมือระหว่างประเทศในระดับภูมิภาคทั้งทางวิชาการ และความร่วมมือระดับทวิภาคี พหุภาคี ในส่วนของการปฏิบัติงานอีกด้วย
3. องค์การทางทะเลระหว่างประเทศจะให้บริการทางวิชาการแก่ประเทศภาคี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2540--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการเตรียมการป้องกัน การขจัด และความร่วมมือเกี่ยวกับมลพิษที่มีสาเหตุจากน้ำมัน ค.ศ.1990 (International Convention on Oil Population Preparedness, Response and Cooperation, 1990) และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเพื่อส่งตราสารการเข้าเป็นภาคีต่อองค์การทางทะเลระหว่างประเทศต่อไป
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์สำคัญของอนุสัญญาดังกล่าว คือ เพื่อให้ประเทศภาคีเตรียมการป้องกันและขจัดมลพิษทางทะเลอันเนื่องมาจากน้ำมันทั้งในระดับชาติ และระดับนานาชาติ และกำหนดให้เรือบรรทุน้ำมันจัดเตรียมแผนฉุกเฉินประจำเรือ เพื่อสามารถดำเนินการป้องกันและแก้ไขความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุของเรือ รวมทั้งให้มีความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐบาลกับภาคอุตสาหกรรม เพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษที่อาจเกิดขึ้นด้วย
สำหรับสาระสำคัญของอนุสัญญาฯ ดักงล่าว สรุปได้ดังนี้
1. เจ้าของเรือหรือฐานขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งต้องจัดทำแผนฉุกเฉินประจำเรือหรือฐานขุดเจาะ ซึ่งกำหนดขั้นตอนและรายละเอียดเกี่ยวกับการแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นกับเรือให้รัฐชายฝั่งทราบและดำเนินการแก้ไข
2. หน่วยงานของรัฐต้องจัดเตรียมแผนปฏิบัติการระดับชาติในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำอันเนื่องมาจากน้ำมัน โดยกำหนดแนวทางในการให้และรับความร่วมมือระหว่างประเทศในระดับภูมิภาคทั้งทางวิชาการ และความร่วมมือระดับทวิภาคี พหุภาคี ในส่วนของการปฏิบัติงานอีกด้วย
3. องค์การทางทะเลระหว่างประเทศจะให้บริการทางวิชาการแก่ประเทศภาคี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2540--