คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานการกำกับดูแลคุณภาพและการตรวจสอบการปลอมปนสินค้ามาตรฐานข้าวหอมมะลิไทย ดังนี้
1. นับตั้งแต่ ได้มีการกำหนดข้าวหอมมะลิเป็นสินค้ามาตรฐานและมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทย และเริ่มมีการส่งออกตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2545 เป็นต้นมา ก่อนการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยทุกครั้ง ผู้ส่งออกจะต้องจัดให้มีการตรวจสอบมาตรฐานสินค้า และมีเจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานสินค้า สุ่มออกกำกับดูแลการดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าโดยมีผู้ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (เซอร์เวย์เยอร์) เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานสินค้า และมีเจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานสินค้า สุ่มออกกำกับดูแลการดำเนินการสอบมาตรฐานสินค้าให้เป็นไปตามระเบียบและหลักเกณฑ์วิธีการที่กำหนด และได้รับรายงานผลการกำกับดูแลการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าจากสำนักงานมาตรฐานสินค้า กรมการค้าต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอเป็นรายเดือน โดยสรุปในรอบปี 2547 พบว่าสินค้ามาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยที่ต้องปรับปรุงคุณภาพให้ถูกต้องจำนวน 29 ครั้ง ของผู้ส่งออก 19 ราย หรือร้อยละ 12.0 ของจำนวนผู้ส่งออกทั้งหมด 159 ราย และได้ดำเนินมาตรการกับผู้ที่ฝ่าฝืนตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าขาออก พ.ศ. 2503 โดยพักใช้ใบอนุญาตผู้ตรวจสอบฯ 6 ราย ทำทัณฑ์บนผู้ส่งออก 3 ราย ผู้ตรวจสอบฯ 4 ราย และเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบฯ 1 ราย
2. เนื่องจากได้มีการพัฒนาข้าวปทุมธานี 1 ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิไทยจึงมีการนำข้าวปทุมธานี 1 ปลอมปนเข้าไปในข้าวหอมมะลิไทยที่ส่งออก โดยกระบวนการตรวจสอบตามระเบียบที่ใช้อยู่ไม่สามารถแยกความแตกต่างของข้าวหอมมะลิไทยกับข้าวหอมปทุมธานีได้ จากการสุ่มตรวจสอบสายพันธุ์ข้าวเบื้องต้น (ตุลาคม 2546 — มีนาคม 2547) พบว่าข้าวหอมมะลิไทยที่สุ่มตรวจใน 100 ตัวอย่าง มีถึง 47 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 47.0 มีคุณภาพไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน ดังนั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อคุณภาพ ราคา ความเชื่อถือ และชื่อเสียงของข้าวหอมมะลิไทย กระทรวงพาณิชย์ จึงได้นำเอาวิธีการตรวจสอบสายพันธุ์ข้าว (DNA) ซึ่งเป็นวิธีการตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพมาใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2547 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ได้นำเรียนฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ทราบในชั้นหนึ่งแล้ว และหลังจากที่ใช้มาตรการดังกล่าว ได้พบว่าข้าวหอมมะลิไทยที่สุ่มตรวจใน 100 ตัวอย่าง (ตุลาคม 2547 — 10 กุมภาพันธ์ 2548) มีเพียง 13 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 13.0 มีคุณภาพไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน (เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2548 ไม่พบตัวอย่างข้าวที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐานเลย) การใช้มาตรการตรวจสอบสายพันธุ์ข้าว (DNA) ทำให้การปลอมปนมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และผลการวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการดังกล่าว สามารถใช้เป็นข้อยุติการโต้แย้งในเรื่องคุณภาพมาตรฐานของทุกฝ่ายได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะยังคงดำเนินการในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป
3. มาตรการตรวจสอบสายพันธุ์ข้าว (DNA) ดังกล่าว ยังไม่ได้กำหนดไว้ในระเบียบ เนื่องจากมีต้นทุนสูงกับบริษัทผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (บริษัทเซอร์เวย์) ที่ได้รับอนุญาต และเป็นภาระค่าใช้จ่ายกับผู้ส่งออก อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์จึงได้ประสานกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ (BIOTEC) เพื่อหาแนวทางและพัฒนากระบวนการตรวจสอบให้รวดเร็ว และมีต้นทุนต่ำลงอีกทั้งดำเนินการเผยแพร่ความรู้เชิงวิชาการ ให้กับผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบที่สนใจ ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจลงทุนในเชิงพาณิชย์ได้
4. กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการตามโครงการส่งเสริมมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทยที่ส่งออก (ตุลาคม 2547 —กันยายน 2548) เพื่อเผยแพร่ สร้างความเข้าใจในเรื่องมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทยในแหล่งผลิต โดยร่วมมือและประสานกับจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในการตรวจสอบคุณภาพเบื้องต้นและรับรองโรงสีที่ผลิตข้าวหอมมะลิไทย อันเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานของสินค้าข้าวหอมมะลิไทยตั้งแต่แหล่งผลิตจนถึงผู้ส่งออก
5. การส่งออกข้าวหอมมะลิไทย ตั้งแต่ปี 2545-2547 มีปริมาณ 1.4, 2.3 และ 2.2 ล้านเมตริกตัน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19.5, 29.6 และ 22.2 ของปริมาณการส่งออกข้าวทั้งหมด ตามลำดับมีมูลค่า 18,087, 32,318 และ 35,829 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26.9, 42.3 และ 32.5 ของมูลค่าการส่งออกข้าวทั้งหมด ตามลำดับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548--จบ--
1. นับตั้งแต่ ได้มีการกำหนดข้าวหอมมะลิเป็นสินค้ามาตรฐานและมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทย และเริ่มมีการส่งออกตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2545 เป็นต้นมา ก่อนการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยทุกครั้ง ผู้ส่งออกจะต้องจัดให้มีการตรวจสอบมาตรฐานสินค้า และมีเจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานสินค้า สุ่มออกกำกับดูแลการดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าโดยมีผู้ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (เซอร์เวย์เยอร์) เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานสินค้า และมีเจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานสินค้า สุ่มออกกำกับดูแลการดำเนินการสอบมาตรฐานสินค้าให้เป็นไปตามระเบียบและหลักเกณฑ์วิธีการที่กำหนด และได้รับรายงานผลการกำกับดูแลการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าจากสำนักงานมาตรฐานสินค้า กรมการค้าต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอเป็นรายเดือน โดยสรุปในรอบปี 2547 พบว่าสินค้ามาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยที่ต้องปรับปรุงคุณภาพให้ถูกต้องจำนวน 29 ครั้ง ของผู้ส่งออก 19 ราย หรือร้อยละ 12.0 ของจำนวนผู้ส่งออกทั้งหมด 159 ราย และได้ดำเนินมาตรการกับผู้ที่ฝ่าฝืนตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าขาออก พ.ศ. 2503 โดยพักใช้ใบอนุญาตผู้ตรวจสอบฯ 6 ราย ทำทัณฑ์บนผู้ส่งออก 3 ราย ผู้ตรวจสอบฯ 4 ราย และเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบฯ 1 ราย
2. เนื่องจากได้มีการพัฒนาข้าวปทุมธานี 1 ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิไทยจึงมีการนำข้าวปทุมธานี 1 ปลอมปนเข้าไปในข้าวหอมมะลิไทยที่ส่งออก โดยกระบวนการตรวจสอบตามระเบียบที่ใช้อยู่ไม่สามารถแยกความแตกต่างของข้าวหอมมะลิไทยกับข้าวหอมปทุมธานีได้ จากการสุ่มตรวจสอบสายพันธุ์ข้าวเบื้องต้น (ตุลาคม 2546 — มีนาคม 2547) พบว่าข้าวหอมมะลิไทยที่สุ่มตรวจใน 100 ตัวอย่าง มีถึง 47 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 47.0 มีคุณภาพไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน ดังนั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อคุณภาพ ราคา ความเชื่อถือ และชื่อเสียงของข้าวหอมมะลิไทย กระทรวงพาณิชย์ จึงได้นำเอาวิธีการตรวจสอบสายพันธุ์ข้าว (DNA) ซึ่งเป็นวิธีการตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพมาใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2547 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ได้นำเรียนฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ทราบในชั้นหนึ่งแล้ว และหลังจากที่ใช้มาตรการดังกล่าว ได้พบว่าข้าวหอมมะลิไทยที่สุ่มตรวจใน 100 ตัวอย่าง (ตุลาคม 2547 — 10 กุมภาพันธ์ 2548) มีเพียง 13 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 13.0 มีคุณภาพไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน (เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2548 ไม่พบตัวอย่างข้าวที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐานเลย) การใช้มาตรการตรวจสอบสายพันธุ์ข้าว (DNA) ทำให้การปลอมปนมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และผลการวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการดังกล่าว สามารถใช้เป็นข้อยุติการโต้แย้งในเรื่องคุณภาพมาตรฐานของทุกฝ่ายได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะยังคงดำเนินการในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป
3. มาตรการตรวจสอบสายพันธุ์ข้าว (DNA) ดังกล่าว ยังไม่ได้กำหนดไว้ในระเบียบ เนื่องจากมีต้นทุนสูงกับบริษัทผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (บริษัทเซอร์เวย์) ที่ได้รับอนุญาต และเป็นภาระค่าใช้จ่ายกับผู้ส่งออก อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์จึงได้ประสานกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ (BIOTEC) เพื่อหาแนวทางและพัฒนากระบวนการตรวจสอบให้รวดเร็ว และมีต้นทุนต่ำลงอีกทั้งดำเนินการเผยแพร่ความรู้เชิงวิชาการ ให้กับผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบที่สนใจ ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจลงทุนในเชิงพาณิชย์ได้
4. กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการตามโครงการส่งเสริมมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทยที่ส่งออก (ตุลาคม 2547 —กันยายน 2548) เพื่อเผยแพร่ สร้างความเข้าใจในเรื่องมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทยในแหล่งผลิต โดยร่วมมือและประสานกับจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในการตรวจสอบคุณภาพเบื้องต้นและรับรองโรงสีที่ผลิตข้าวหอมมะลิไทย อันเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานของสินค้าข้าวหอมมะลิไทยตั้งแต่แหล่งผลิตจนถึงผู้ส่งออก
5. การส่งออกข้าวหอมมะลิไทย ตั้งแต่ปี 2545-2547 มีปริมาณ 1.4, 2.3 และ 2.2 ล้านเมตริกตัน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19.5, 29.6 และ 22.2 ของปริมาณการส่งออกข้าวทั้งหมด ตามลำดับมีมูลค่า 18,087, 32,318 และ 35,829 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26.9, 42.3 และ 32.5 ของมูลค่าการส่งออกข้าวทั้งหมด ตามลำดับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548--จบ--