ทำเนียบรัฐบาล--22 ก.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติการค้ำประกันเงินกู้ของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจากสถาบันเครดิต
เพื่อการบูรณะแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน (KfW) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติให้กระทรวงการคลังในนามราชอาณาจักรไทยค้ำประกันเงินกู้ของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรม
แห่งประเทศไทย จากสถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน (KfW) ในวงเงิน 50 ล้านมาร์ค
เยอรมนี หรือเงินเหรียญสหรัฐเทียบเท่า
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายเป็น
ผู้ลงนามในสัญญาค้ำประกันเงินกู้เและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
3. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เตรียมการจัดทำความเห็นทางกฎหมายต่อไป
สำหรับเงื่อนไขของการกู้เงินดังกล่าว สรุปได้ดังต่อไปนี้
ผู้กู้ บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ผู้ให้กู้ สถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน (KfW)
ผู้ค้ำประกัน กระทรวงการคลังในนามราชอาณาจักรไทย
วงเงินกู้ เทียบเท่า 50 ล้านมาร์คเยอรมนี หรือเงินเหรียญสหรัฐเทียบเท่า แบ่งเป็น 2
ส่วน ส่วนละ 25 ล้านมาร์คเยอรมนี
อัตราดอกเบี้ย สามารถเลือกกำหนดเป็นอัตราคงที่หรืออัตราลอยตัวได้ก่อนการเบิกจ่ายเงินกู้
งวดแรก ดังนี้
1. อัตราดอกเบี้ยคงที่ เท่ากับต้นทุนการระดมเงินของ KfW บวกร้อยละ 1.45
ประมาณร้อยละ 7.5 หากกู้เป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ หรือ
2. อัตราดอกเบี้ยลอยตัว เท่ากับอัตราดอกเบี้ย LIBOR 6 เดือน บวกร้อยละ
1.45 โดยชำระปีละ 2 งวด ทุกวันที่ 15 มีนาคม และ 15 กันยายน ของ
แต่ละปี โดยหากบรรษัทฯ เลือกเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว จะสามารถ
เปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ได้ในภายหลัง
ระยะเงินกู้ 10 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 2.5 ปี
การชำระคืนเงินต้น แบ่งเป็น 16 งวดๆ ละเท่าๆ กัน โดยชำระทุก 6 เดือน เริ่มงวดแรก ณ
เดือนที่ 30 หลังจากเบิกเงินกู้ครั้งแรก หรืออย่างช้าไม่เกิน 36 เดือน หลัง
จากวันลงนามในสัญญาเงินกู้
การเบิกเงินกู้ ตามความก้าวหน้าของโครงการ จำนวนเงินเบิกขั้นต่ำในแต่ละครั้ง เท่ากับ
500,000 มาร์คเยอรมนี หรือเงินเหรียญสหรัฐเทียบเท่า
ส่วนแรก กำหนดเบิกภายใน 18 เดือน
ส่วนที่ 2 กำหนดเบิกภายใน 30 เดือน โดยก่อนที่จะเบิกเงิน ส่วนที่สองได้
ต้องมีการเบิกเงินส่วนแรกไปแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90
การชำระคืนก่อนกำหนด สามารถชำระคืนได้ แต่หากเป็นกรณีที่บรรษัทฯ เลือกอัตราดอกเบี้ยคงที่ ต้องมี
การจ่ายชดเชยค่าเสียโอกาสให้กับ KfW ด้วย
ค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้ ร้อยละ 0.25 ต่อปี โดยเงินกู้ส่วนแรก เริ่มคิดภายหลัง 30 วัน นับจากวันลง
นามในสัญญาเงินกู้เงินกู้ส่วนที่สอง เริ่มคิด 30 วัน หลังจากได้มีการเบิกเงินกู้
ส่วนแรกไปแล้วเป็นจำนวนถึง 20 ล้านมาร์คเยอรมนี หรือร้อยละ 80 ทั้งนี้
ค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้จะต้องจ่ายเป็นเงินสกุลมาร์คเยอรมนีทุกสิ้นไตรมาส
ค่าธรรมเนียมจัดการ ร้อยละ 0.75 ของวงเงิน หรือเท่ากับ 375,000 มาร์ค
เยอรมนี ภายใน 60 วันหลังจากวันลงนามในสัญญาเงินกู้
กฎหมายที่ใช้บังคับ กฎหมายของประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 กรกฎาคม 2541--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติการค้ำประกันเงินกู้ของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจากสถาบันเครดิต
เพื่อการบูรณะแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน (KfW) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติให้กระทรวงการคลังในนามราชอาณาจักรไทยค้ำประกันเงินกู้ของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรม
แห่งประเทศไทย จากสถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน (KfW) ในวงเงิน 50 ล้านมาร์ค
เยอรมนี หรือเงินเหรียญสหรัฐเทียบเท่า
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายเป็น
ผู้ลงนามในสัญญาค้ำประกันเงินกู้เและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
3. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เตรียมการจัดทำความเห็นทางกฎหมายต่อไป
สำหรับเงื่อนไขของการกู้เงินดังกล่าว สรุปได้ดังต่อไปนี้
ผู้กู้ บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ผู้ให้กู้ สถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน (KfW)
ผู้ค้ำประกัน กระทรวงการคลังในนามราชอาณาจักรไทย
วงเงินกู้ เทียบเท่า 50 ล้านมาร์คเยอรมนี หรือเงินเหรียญสหรัฐเทียบเท่า แบ่งเป็น 2
ส่วน ส่วนละ 25 ล้านมาร์คเยอรมนี
อัตราดอกเบี้ย สามารถเลือกกำหนดเป็นอัตราคงที่หรืออัตราลอยตัวได้ก่อนการเบิกจ่ายเงินกู้
งวดแรก ดังนี้
1. อัตราดอกเบี้ยคงที่ เท่ากับต้นทุนการระดมเงินของ KfW บวกร้อยละ 1.45
ประมาณร้อยละ 7.5 หากกู้เป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ หรือ
2. อัตราดอกเบี้ยลอยตัว เท่ากับอัตราดอกเบี้ย LIBOR 6 เดือน บวกร้อยละ
1.45 โดยชำระปีละ 2 งวด ทุกวันที่ 15 มีนาคม และ 15 กันยายน ของ
แต่ละปี โดยหากบรรษัทฯ เลือกเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว จะสามารถ
เปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ได้ในภายหลัง
ระยะเงินกู้ 10 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 2.5 ปี
การชำระคืนเงินต้น แบ่งเป็น 16 งวดๆ ละเท่าๆ กัน โดยชำระทุก 6 เดือน เริ่มงวดแรก ณ
เดือนที่ 30 หลังจากเบิกเงินกู้ครั้งแรก หรืออย่างช้าไม่เกิน 36 เดือน หลัง
จากวันลงนามในสัญญาเงินกู้
การเบิกเงินกู้ ตามความก้าวหน้าของโครงการ จำนวนเงินเบิกขั้นต่ำในแต่ละครั้ง เท่ากับ
500,000 มาร์คเยอรมนี หรือเงินเหรียญสหรัฐเทียบเท่า
ส่วนแรก กำหนดเบิกภายใน 18 เดือน
ส่วนที่ 2 กำหนดเบิกภายใน 30 เดือน โดยก่อนที่จะเบิกเงิน ส่วนที่สองได้
ต้องมีการเบิกเงินส่วนแรกไปแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90
การชำระคืนก่อนกำหนด สามารถชำระคืนได้ แต่หากเป็นกรณีที่บรรษัทฯ เลือกอัตราดอกเบี้ยคงที่ ต้องมี
การจ่ายชดเชยค่าเสียโอกาสให้กับ KfW ด้วย
ค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้ ร้อยละ 0.25 ต่อปี โดยเงินกู้ส่วนแรก เริ่มคิดภายหลัง 30 วัน นับจากวันลง
นามในสัญญาเงินกู้เงินกู้ส่วนที่สอง เริ่มคิด 30 วัน หลังจากได้มีการเบิกเงินกู้
ส่วนแรกไปแล้วเป็นจำนวนถึง 20 ล้านมาร์คเยอรมนี หรือร้อยละ 80 ทั้งนี้
ค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้จะต้องจ่ายเป็นเงินสกุลมาร์คเยอรมนีทุกสิ้นไตรมาส
ค่าธรรมเนียมจัดการ ร้อยละ 0.75 ของวงเงิน หรือเท่ากับ 375,000 มาร์ค
เยอรมนี ภายใน 60 วันหลังจากวันลงนามในสัญญาเงินกู้
กฎหมายที่ใช้บังคับ กฎหมายของประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 กรกฎาคม 2541--