แท็ก
คณะรัฐมนตรี
ทำเนียบรัฐบาล--4 ก.พ.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบมติคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายสังคมเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2540 เกี่ยวกับนโยบายการบริหารการศึกษา ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายสังคมเสนอ สรุปได้ดังนี้
1. อุปสรรคการจัดการศึกษาของไทย
1.1 ปัจจุบันประชาชน 60 ล้านคน ร้อยละ 60 สำเร็จการศึกษาเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
1.2 เด็กและเยาวชนไทย ซึ่งมีถึง 29 - 30 ล้านคน (อายุระหว่าง 0 - 25 ปี) มีเพียง 14 ล้านคน ที่เรียนอยู่ในระบบโรงเรียน และอีกประมาณ 4 ล้านคน ที่เรียนอยู่นอกระบบโรงเรียน จึงเห็นว่าเยาวชนที่ขาดโอกาสศึกษาต่อมีจำนวนถึง 12 ล้านคน
1.3 เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่จบเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จึงไม่สามารถพัฒนาให้มีคุณภาพ และมีรายได้เทียบเท่าผู้ที่จบมัธยมปลาย หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จึงทำให้ขาดบุคลากรที่สำร็จขั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขาดบุคลากรขั้นอุดมศึกษา อาทิ ครู อาจารย์ วิศวกร แพทย์ พยาบาล สถาปนิก นักการเงิน นักการบัญชี เป็นต้น
2. การแก้ไขอุปสรรคทางการศึกษา
2.1 การศึกษาชั้นอนุบาลในปี 2540 ต้องนำเด็กอายุ 3 - 5 ปี เข้าโรงเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนปฐมวัย
2.2 ให้โอกาสเด็กที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เข้าเรียนต่อมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทุกคน ผู้ที่ด้อยโอกาสต้องสนับสนุนทุนการศึกษา
2.3 เด็กที่จบมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต้องให้เรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 1ผู้ที่ด้อยโอกาสต้องสนับสนุนให้ทุนการศึกษา ค่าบำรุงการศึกษา พร้อมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็น
2.4 ให้โอกาสผู้ที่สำเร็จประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือมัธยมศึกษาปีที่ 6 และมีผลเฉลี่ยของการเรียนอยู่ในระดับดี แต่ขาดทุนทรัพย์ ต้องให้ทุนการศึกษาเพื่อให้สามารถเรียนต่อในสถาบันราชภัฏ และสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลได้ โดยให้อยู่หอพักในวิทยาลัย แต่ต้องทำงานเพื่อช่วยพัฒนาวิทยาลัย
3. นโยบายการศึกษา
ให้การศึกษา 12 ปี แก่ประชาชนทุกเพศทุกวัย และให้เด็กและเยาวชนไทยได้เรียนอย่างต่อเนื่องในระบบโรงเรียน จบการศึกษา 12 ปี ทุกคน ภายในปี 2550 โดยให้มีหลักสูตรที่ทันกับการพัฒนาเศรษฐกิจยุคโลกาภิวัตน์ และการพัฒนาของท้องถิ่น รวมทั้งศักยภาพของประชาชน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายพัฒนาคน ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระยะที่ 8
3.1 การเพิ่มนักเรียนและนักศึกษา ทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน (กศน.) ในปี 2540 และ 2541 จะเพิ่มการรับนักเรียนและนักศึกษาทุกระดับ ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงอุดมศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้เพียงพอต่อนักเรียนและนักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อ โดยจะขอขยายห้องเรียน อุปกรณ์การเรียนการสอน และบุคลากร
3.2 การจัดงบประมาณ มีการจัดงบประมาณให้สอดคล้องกับโครงการปฏิรูปการศึกษา โดยมุ่งเน้นการเพิ่มงบประมาณด้านการลงทุนการศึกษา ให้มีสัดส่วนร้อยละ 40 ของงบประมาณกระทรวงศึกษาธิการ
ปี 2541 หากรัฐบาลจัดสรรให้งบประมาณเป็น 200,000 ล้านบาท อัตราส่วนค่าใช้จ่ายและเงินเดือนประจำงบพัฒนาจะเท่ากับ 60:40
4. การจัดซื้อคอมพิวเตอร์
ให้จัดซื้อคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย และมุ่งเน้นจะใช้ได้อีก 5 ปี เป็นเครื่องที่สามารถซ่อมและหาอะไหล่ได้ง่าย ต้องมีระบบของ Lan มี CD Rom มี Multi - Media และต่อ Internet ได้ เป็นคอมพิวเตอร์ที่จะใช้ช่วยการเรียนการสอน และบริหารได้
สำหรับนโยบายการศึกษา 12 ปี นั้น มีแนวทางในการดำเนินการ กล่าวคือ เมื่อเปิดเทอมจะต้องทำให้คนที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สามารถศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และคนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สามารถศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือประโยควิชาชีพ (ปวช.) ให้ได้ จึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม-แห่งชาติ และสำนักงบประมาณ รับไปพิจารณาหาแนวทางดำเนินการที่เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมแล้วนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายสังคมพิจารณาต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2540--
คณะรัฐมนตรีรับทราบมติคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายสังคมเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2540 เกี่ยวกับนโยบายการบริหารการศึกษา ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายสังคมเสนอ สรุปได้ดังนี้
1. อุปสรรคการจัดการศึกษาของไทย
1.1 ปัจจุบันประชาชน 60 ล้านคน ร้อยละ 60 สำเร็จการศึกษาเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
1.2 เด็กและเยาวชนไทย ซึ่งมีถึง 29 - 30 ล้านคน (อายุระหว่าง 0 - 25 ปี) มีเพียง 14 ล้านคน ที่เรียนอยู่ในระบบโรงเรียน และอีกประมาณ 4 ล้านคน ที่เรียนอยู่นอกระบบโรงเรียน จึงเห็นว่าเยาวชนที่ขาดโอกาสศึกษาต่อมีจำนวนถึง 12 ล้านคน
1.3 เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่จบเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จึงไม่สามารถพัฒนาให้มีคุณภาพ และมีรายได้เทียบเท่าผู้ที่จบมัธยมปลาย หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จึงทำให้ขาดบุคลากรที่สำร็จขั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขาดบุคลากรขั้นอุดมศึกษา อาทิ ครู อาจารย์ วิศวกร แพทย์ พยาบาล สถาปนิก นักการเงิน นักการบัญชี เป็นต้น
2. การแก้ไขอุปสรรคทางการศึกษา
2.1 การศึกษาชั้นอนุบาลในปี 2540 ต้องนำเด็กอายุ 3 - 5 ปี เข้าโรงเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนปฐมวัย
2.2 ให้โอกาสเด็กที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เข้าเรียนต่อมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทุกคน ผู้ที่ด้อยโอกาสต้องสนับสนุนทุนการศึกษา
2.3 เด็กที่จบมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต้องให้เรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 1ผู้ที่ด้อยโอกาสต้องสนับสนุนให้ทุนการศึกษา ค่าบำรุงการศึกษา พร้อมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็น
2.4 ให้โอกาสผู้ที่สำเร็จประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือมัธยมศึกษาปีที่ 6 และมีผลเฉลี่ยของการเรียนอยู่ในระดับดี แต่ขาดทุนทรัพย์ ต้องให้ทุนการศึกษาเพื่อให้สามารถเรียนต่อในสถาบันราชภัฏ และสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลได้ โดยให้อยู่หอพักในวิทยาลัย แต่ต้องทำงานเพื่อช่วยพัฒนาวิทยาลัย
3. นโยบายการศึกษา
ให้การศึกษา 12 ปี แก่ประชาชนทุกเพศทุกวัย และให้เด็กและเยาวชนไทยได้เรียนอย่างต่อเนื่องในระบบโรงเรียน จบการศึกษา 12 ปี ทุกคน ภายในปี 2550 โดยให้มีหลักสูตรที่ทันกับการพัฒนาเศรษฐกิจยุคโลกาภิวัตน์ และการพัฒนาของท้องถิ่น รวมทั้งศักยภาพของประชาชน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายพัฒนาคน ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระยะที่ 8
3.1 การเพิ่มนักเรียนและนักศึกษา ทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน (กศน.) ในปี 2540 และ 2541 จะเพิ่มการรับนักเรียนและนักศึกษาทุกระดับ ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงอุดมศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้เพียงพอต่อนักเรียนและนักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อ โดยจะขอขยายห้องเรียน อุปกรณ์การเรียนการสอน และบุคลากร
3.2 การจัดงบประมาณ มีการจัดงบประมาณให้สอดคล้องกับโครงการปฏิรูปการศึกษา โดยมุ่งเน้นการเพิ่มงบประมาณด้านการลงทุนการศึกษา ให้มีสัดส่วนร้อยละ 40 ของงบประมาณกระทรวงศึกษาธิการ
ปี 2541 หากรัฐบาลจัดสรรให้งบประมาณเป็น 200,000 ล้านบาท อัตราส่วนค่าใช้จ่ายและเงินเดือนประจำงบพัฒนาจะเท่ากับ 60:40
4. การจัดซื้อคอมพิวเตอร์
ให้จัดซื้อคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย และมุ่งเน้นจะใช้ได้อีก 5 ปี เป็นเครื่องที่สามารถซ่อมและหาอะไหล่ได้ง่าย ต้องมีระบบของ Lan มี CD Rom มี Multi - Media และต่อ Internet ได้ เป็นคอมพิวเตอร์ที่จะใช้ช่วยการเรียนการสอน และบริหารได้
สำหรับนโยบายการศึกษา 12 ปี นั้น มีแนวทางในการดำเนินการ กล่าวคือ เมื่อเปิดเทอมจะต้องทำให้คนที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สามารถศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และคนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สามารถศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือประโยควิชาชีพ (ปวช.) ให้ได้ จึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม-แห่งชาติ และสำนักงบประมาณ รับไปพิจารณาหาแนวทางดำเนินการที่เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมแล้วนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายสังคมพิจารณาต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2540--