ทำเนียบรัฐบาล--16 ส.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรและผู้ยากจน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรและผู้ยากจน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538
1.1 แสดงความประสงค์ขอกู้ 23,229 ราย เป็นเงิน 3,166.21 ล้านบาท
1.2 ถอนความประสงค์ 4,315 ราย เป็นเงิน 667.54 ล้านบาท
1.3 อยู่ระหว่างการสอบสวน 3,276 ราย เป็นเงิน 409.74 ล้านบาท
1.4 อยู่ระหว่างการอนุมัติ 2,978 ราย เป็นเงิน 645.51 ล้านบาท
1) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 1,571 ราย เป็นเงิน 350.79 ล้านบาท
2) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 1,407 ราย เป็นเงิน 294.72 ล้านบาท
1.5 อยู่ระหว่างการจ่ายเงินกู้ 1,647 ราย เป็นเงิน 186.06 ล้านบาท
1) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 921 ราย เป็นเงิน 110.19 ล้านบาท
2) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 726 ราย เป็นเงิน 75.87 ล้านบาท
1.6 จ่ายเงินกู้ด้านการเกษตร 11,013 ราย เป็นเงิน 1,257.36 ล้านบาท
1) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 3,973 ราย เป็นเงิน 447.77 ล้านบาท
2) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 7,040 ราย เป็นเงิน 809.59 ล้านบาท
1.7 จ่ายเงินกู้ด้านสถาบันเกษตรกร 72 สถาบัน เป็นเงิน 265.29 ล้านบาท
2. จากผลการดำเนินงานข้างต้น ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ได้ ดำเนินงานตามข้อบังคับฉบับที่ 16 ได้ 809.59 ล้านบาท หรือร้อยละ 50 ของเป้าหมาย (1,620 ล้าน บาท) และจ่ายเงินกู้ผ่านสถาบันเกษตรได้ 265.29 ล้านบาท หรือร้อยละ 70 ของเป้าหมาย (380 ล้านบาท) รวม 1,074.88 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 54 ของเป้าหมาย (เป้าหมาย 2,000 ล้านบาท)
3. คำขอกู้ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ มีจำนวน 3,276 ราย เมื่อ คิดเฉลี่ยเทียบกับจำนวนสาขาของ ธ.ก.ส. ซึ่งมีทั้งสิ้นขณะนี้ 365 สาขา จะเห็นว่าค้างการสอบสวนอยู่ เฉลี่ยสาขาละ 9 รายเท่านั้นซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินงานตามปกติของธนาคาร
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 15 สิงหาคม 2538--
คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรและผู้ยากจน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรและผู้ยากจน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2538
1.1 แสดงความประสงค์ขอกู้ 23,229 ราย เป็นเงิน 3,166.21 ล้านบาท
1.2 ถอนความประสงค์ 4,315 ราย เป็นเงิน 667.54 ล้านบาท
1.3 อยู่ระหว่างการสอบสวน 3,276 ราย เป็นเงิน 409.74 ล้านบาท
1.4 อยู่ระหว่างการอนุมัติ 2,978 ราย เป็นเงิน 645.51 ล้านบาท
1) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 1,571 ราย เป็นเงิน 350.79 ล้านบาท
2) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 1,407 ราย เป็นเงิน 294.72 ล้านบาท
1.5 อยู่ระหว่างการจ่ายเงินกู้ 1,647 ราย เป็นเงิน 186.06 ล้านบาท
1) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 921 ราย เป็นเงิน 110.19 ล้านบาท
2) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 726 ราย เป็นเงิน 75.87 ล้านบาท
1.6 จ่ายเงินกู้ด้านการเกษตร 11,013 ราย เป็นเงิน 1,257.36 ล้านบาท
1) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 3,973 ราย เป็นเงิน 447.77 ล้านบาท
2) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 7,040 ราย เป็นเงิน 809.59 ล้านบาท
1.7 จ่ายเงินกู้ด้านสถาบันเกษตรกร 72 สถาบัน เป็นเงิน 265.29 ล้านบาท
2. จากผลการดำเนินงานข้างต้น ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ได้ ดำเนินงานตามข้อบังคับฉบับที่ 16 ได้ 809.59 ล้านบาท หรือร้อยละ 50 ของเป้าหมาย (1,620 ล้าน บาท) และจ่ายเงินกู้ผ่านสถาบันเกษตรได้ 265.29 ล้านบาท หรือร้อยละ 70 ของเป้าหมาย (380 ล้านบาท) รวม 1,074.88 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 54 ของเป้าหมาย (เป้าหมาย 2,000 ล้านบาท)
3. คำขอกู้ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ มีจำนวน 3,276 ราย เมื่อ คิดเฉลี่ยเทียบกับจำนวนสาขาของ ธ.ก.ส. ซึ่งมีทั้งสิ้นขณะนี้ 365 สาขา จะเห็นว่าค้างการสอบสวนอยู่ เฉลี่ยสาขาละ 9 รายเท่านั้นซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินงานตามปกติของธนาคาร
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 15 สิงหาคม 2538--