ทำเนียบรัฐบาล--17 ก.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาทบทวนมติ (9 เมษายน 2539) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้เปลี่ยนแปลงการจัดหาจาก รถบรรทุกขนาด 1 ตัน (เบนซิน) หลังคาดับเบิ้ล แคป พร้อมติดตั้งไซเรน ไฟแดง วิทยุสื่อสาร และเครื่องหมายสะท้อนแสง จำนวน 2,534 คัน วงเงิน 1,052,877,000 บาท เป็นจัดหารถยนต์บรรทุก ขนาด 1 ตัน (ดีเซล) หลังคาดับเบิ้ลแคป พร้อมติดตั้ง ไซเรน ไฟแดง วิทยุสื่อสาร และเครื่องหมายสะท้อนแสงจำนวน 2,534 คัน ราคาคันละ 557,500 บาท รวมเป็นงบประมาณที่ต้องใช้ทั้งโครงการเป็นวงเงิน 1,412,705,000 บาท โดยใช้จ่าย จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2539 จำนวน 270,906,000 บาท ส่วนที่เหลือขอผูกพันงบประ มาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2540 จำนวน 390,985,500 บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2541 อีกจำนวน 750,813,500 บาท
2. อนุมัติให้เปลี่ยนแปลงข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี โดยให้กระทรวงมหาดไทย (กรมตำ รวจ) "จำหน่าย"”รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานมานานและอยู่ในสภาพซ่อมใช้งานไม่คุ้ม ค่าตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 (ส่วนที่ 3 การจำหน่าย) แทนการ "ทำลาย" ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุพ.ศ. 2535 เพื่อจะได้พิจารณานำไปใช้ ราชการที่เหมาะสมหรือจัดสรรให้สถานีตำรวจต่าง ๆ ที่ยังขาดแคลนและมีความจำเป็น ซึ่งกระทรวง มหาดไทย (กรมตำรวจ) จะได้เลือกดำเนินการให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดกับทางราชการต่อไป
ทั้งนี้ เดิมคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2539 อนุมัติให้เปลี่ยนแปลงรายการงบประ มาณ พ.ศ.2539 ไปดำเนินการจัดหารถบรรทุกขนาด 1 ตัน เบนซิน หลังคาดับเบิ้ลแคป พร้อมติดตั้งไซ เรน ไฟแดง วิทยุสื่อสาร และเครื่องหมายสะท้อนแสง จำนวน 2,534 คัน วงเงิน 1,052,877,000 บาท โดยจ่ายจากงบประมาณปี 2539 จำนวน270,906,000 บาท ส่วนที่ขาดให้ผูกพันงบประมาณ รายจ่ายประจำปีพ.ศ. 2540 จำนวน 390,985,500 บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2541 จำนวน 390,986,000 บาท โดยมีข้อสังเกตว่ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งาน มานานและอยู่ในสภาพซ่อมใช้งานไม่คุ้มค่า ควรพิจารณา “ทำลาย” ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ส่วนในกรณีที่อยู่ในสภาพที่ซ่อมแซมแล้วสามารถใช้งานต่อไปได้อย่างคุ้มค่า ก็ ควรพิจารณานำไปใช้ในราชการที่เหมาะสม หรือจัดสรรไปให้สถานีตำรวจต่าง ๆ ที่ยังขาดแคลนและมี ความจำเป็นฯ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 16 กรกฏาคม 2539
คณะรัฐมนตรีพิจารณาทบทวนมติ (9 เมษายน 2539) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้เปลี่ยนแปลงการจัดหาจาก รถบรรทุกขนาด 1 ตัน (เบนซิน) หลังคาดับเบิ้ล แคป พร้อมติดตั้งไซเรน ไฟแดง วิทยุสื่อสาร และเครื่องหมายสะท้อนแสง จำนวน 2,534 คัน วงเงิน 1,052,877,000 บาท เป็นจัดหารถยนต์บรรทุก ขนาด 1 ตัน (ดีเซล) หลังคาดับเบิ้ลแคป พร้อมติดตั้ง ไซเรน ไฟแดง วิทยุสื่อสาร และเครื่องหมายสะท้อนแสงจำนวน 2,534 คัน ราคาคันละ 557,500 บาท รวมเป็นงบประมาณที่ต้องใช้ทั้งโครงการเป็นวงเงิน 1,412,705,000 บาท โดยใช้จ่าย จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2539 จำนวน 270,906,000 บาท ส่วนที่เหลือขอผูกพันงบประ มาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2540 จำนวน 390,985,500 บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2541 อีกจำนวน 750,813,500 บาท
2. อนุมัติให้เปลี่ยนแปลงข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี โดยให้กระทรวงมหาดไทย (กรมตำ รวจ) "จำหน่าย"”รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานมานานและอยู่ในสภาพซ่อมใช้งานไม่คุ้ม ค่าตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 (ส่วนที่ 3 การจำหน่าย) แทนการ "ทำลาย" ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุพ.ศ. 2535 เพื่อจะได้พิจารณานำไปใช้ ราชการที่เหมาะสมหรือจัดสรรให้สถานีตำรวจต่าง ๆ ที่ยังขาดแคลนและมีความจำเป็น ซึ่งกระทรวง มหาดไทย (กรมตำรวจ) จะได้เลือกดำเนินการให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดกับทางราชการต่อไป
ทั้งนี้ เดิมคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2539 อนุมัติให้เปลี่ยนแปลงรายการงบประ มาณ พ.ศ.2539 ไปดำเนินการจัดหารถบรรทุกขนาด 1 ตัน เบนซิน หลังคาดับเบิ้ลแคป พร้อมติดตั้งไซ เรน ไฟแดง วิทยุสื่อสาร และเครื่องหมายสะท้อนแสง จำนวน 2,534 คัน วงเงิน 1,052,877,000 บาท โดยจ่ายจากงบประมาณปี 2539 จำนวน270,906,000 บาท ส่วนที่ขาดให้ผูกพันงบประมาณ รายจ่ายประจำปีพ.ศ. 2540 จำนวน 390,985,500 บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2541 จำนวน 390,986,000 บาท โดยมีข้อสังเกตว่ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งาน มานานและอยู่ในสภาพซ่อมใช้งานไม่คุ้มค่า ควรพิจารณา “ทำลาย” ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ส่วนในกรณีที่อยู่ในสภาพที่ซ่อมแซมแล้วสามารถใช้งานต่อไปได้อย่างคุ้มค่า ก็ ควรพิจารณานำไปใช้ในราชการที่เหมาะสม หรือจัดสรรไปให้สถานีตำรวจต่าง ๆ ที่ยังขาดแคลนและมี ความจำเป็นฯ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 16 กรกฏาคม 2539