ทำเนียบรัฐบาล--27 พ.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการสนับสนุนเขตอุตสาหกรรมที่ปลอดภาระภาษีศุลกากร ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
1. สนับสนุนเขตอุตสาหกรรมที่ปลอดภาระภาษีศุลกากรในฐานะที่เป็นมาตรการสำคัญในการสนับสนุนอุตสาหกรรมส่งออกประเภทรุ่งเรือง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้น เพื่อการนี้เขตอุตสาหกรรมแต่ละแห่งควรจะจัดตั้งขึ้นสำหรับการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือหลายกลุ่ม หรือทั้ง 4 กลุ่ม (อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ และอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะด้าน) เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยง ความคล่องตัว ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีประสิทธิภาพ
2. เห็นชอบหลักการให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเขตอุตสาหกรรมดังกล่าว และผู้ประกอบกิจการโรงงานในเขตอุตสาหกรรม ได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้
2.1 ผู้ประกอบกิจการเขตอุตสาหกรรมฯ
- ได้รับยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักรไม่ว่าตั้งในเขตใด
- ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ 5 ปี สำหรับโครงการที่ตั้งในเขต 1 7 ปี สำหรับโครงการที่ตั้งในเขต 2 และ8 ปี สำหรับโครงการที่ตั้งในเขต 3
2.2 ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ตั้งในเขตฯ
- ได้รับยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักรไม่ว่าตั้งในเขตใด
- ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ 5 ปี สำหรับโครงการที่ตั้งในเขต 1 7 ปี สำหรับโครงการที่ตั้งในเขต 2 และ8 ปี สำหรับโครงการที่ตั้งในเขต 3 ยกเว้นอุตสาหกรรมสนับสนุนได้รับยกเว้นเป็นเวลา 8 ปี ไม่ว่าตั้งในเขตใด
ทั้งนี้ ได้พิจารณาว่า ไม่ควรให้สิทธิและประโยชน์ที่จะให้แก่โครงการที่ตั้งในเขต 1 และเขต 2 เหมือนกับโครงการที่ตั้งในเขต 3 เพื่อไม่ขัดกับหลักการกระจายอุตสาหกรรมในต่างจังหวัด นอกจากนั้น ในเขต 1 ไม่อนุมัติให้การส่งเสริมการจัดตั้งเขตคลังสินค้าทัณฑ์บนในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนจังหวัดสมุทรปราการมอบให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง และกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันพิจารณาว่าพื้นที่ใดควรอนุมัติให้การส่งเสริมการจัดตั้งเขตคลังสินค้าทัณฑ์บน
3. ให้กระทรวงการคลังปรับปรุงประกาศกรมศุลกากร โดยเปลี่ยนแปลงพื้นที่การจัดตั้งเขตคลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับประกอบการค้าเสรีที่ปลอดจากภาระภาษีอากร เป็นไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ เพื่อการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมที่ปลอดภาระภาษีศุลกากร ตามข้อ 1. 4. เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินนโยบายสนับสนุนการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมที่ปลอดภาระภาษีศุลกากรในลำดับต่อ ๆ ไป จึงอนุมัติในหลักการให้กระทรวงอุตสาหกรรม กรมศุลกากร และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ร่วมกันพิจารณาปรับปรุง แก้ไข เพิ่มเติม ประเภทกลุ่มอุตสาหกรรม และขนาดพื้นที่จัดตั้งเขตอุตสาหกรรมที่ปลอดภาระภาษีศุลกากรได้โดยไม่ต้องนำเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตว่าในระยะยาวควรพิจารณาสนับสนุนอุตสาหกรรมกลุ่มอื่นนอกเหนือจาก 4 กลุ่ม ที่ได้กำหนดไว้ในเขตอุตสาหกรรมที่ปลอดภาระภาษีศุลกากร และกระทรวงอุตสาหกรรมควรประสานงานกับหน่วยงานด้านบริการพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อให้การจัดการด้านสาธารณูปโภคในเขตดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 27 พฤษภาคม 2540--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการสนับสนุนเขตอุตสาหกรรมที่ปลอดภาระภาษีศุลกากร ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
1. สนับสนุนเขตอุตสาหกรรมที่ปลอดภาระภาษีศุลกากรในฐานะที่เป็นมาตรการสำคัญในการสนับสนุนอุตสาหกรรมส่งออกประเภทรุ่งเรือง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้น เพื่อการนี้เขตอุตสาหกรรมแต่ละแห่งควรจะจัดตั้งขึ้นสำหรับการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือหลายกลุ่ม หรือทั้ง 4 กลุ่ม (อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ และอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะด้าน) เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยง ความคล่องตัว ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีประสิทธิภาพ
2. เห็นชอบหลักการให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเขตอุตสาหกรรมดังกล่าว และผู้ประกอบกิจการโรงงานในเขตอุตสาหกรรม ได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้
2.1 ผู้ประกอบกิจการเขตอุตสาหกรรมฯ
- ได้รับยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักรไม่ว่าตั้งในเขตใด
- ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ 5 ปี สำหรับโครงการที่ตั้งในเขต 1 7 ปี สำหรับโครงการที่ตั้งในเขต 2 และ8 ปี สำหรับโครงการที่ตั้งในเขต 3
2.2 ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ตั้งในเขตฯ
- ได้รับยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักรไม่ว่าตั้งในเขตใด
- ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ 5 ปี สำหรับโครงการที่ตั้งในเขต 1 7 ปี สำหรับโครงการที่ตั้งในเขต 2 และ8 ปี สำหรับโครงการที่ตั้งในเขต 3 ยกเว้นอุตสาหกรรมสนับสนุนได้รับยกเว้นเป็นเวลา 8 ปี ไม่ว่าตั้งในเขตใด
ทั้งนี้ ได้พิจารณาว่า ไม่ควรให้สิทธิและประโยชน์ที่จะให้แก่โครงการที่ตั้งในเขต 1 และเขต 2 เหมือนกับโครงการที่ตั้งในเขต 3 เพื่อไม่ขัดกับหลักการกระจายอุตสาหกรรมในต่างจังหวัด นอกจากนั้น ในเขต 1 ไม่อนุมัติให้การส่งเสริมการจัดตั้งเขตคลังสินค้าทัณฑ์บนในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนจังหวัดสมุทรปราการมอบให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง และกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันพิจารณาว่าพื้นที่ใดควรอนุมัติให้การส่งเสริมการจัดตั้งเขตคลังสินค้าทัณฑ์บน
3. ให้กระทรวงการคลังปรับปรุงประกาศกรมศุลกากร โดยเปลี่ยนแปลงพื้นที่การจัดตั้งเขตคลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับประกอบการค้าเสรีที่ปลอดจากภาระภาษีอากร เป็นไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ เพื่อการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมที่ปลอดภาระภาษีศุลกากร ตามข้อ 1. 4. เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินนโยบายสนับสนุนการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมที่ปลอดภาระภาษีศุลกากรในลำดับต่อ ๆ ไป จึงอนุมัติในหลักการให้กระทรวงอุตสาหกรรม กรมศุลกากร และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ร่วมกันพิจารณาปรับปรุง แก้ไข เพิ่มเติม ประเภทกลุ่มอุตสาหกรรม และขนาดพื้นที่จัดตั้งเขตอุตสาหกรรมที่ปลอดภาระภาษีศุลกากรได้โดยไม่ต้องนำเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตว่าในระยะยาวควรพิจารณาสนับสนุนอุตสาหกรรมกลุ่มอื่นนอกเหนือจาก 4 กลุ่ม ที่ได้กำหนดไว้ในเขตอุตสาหกรรมที่ปลอดภาระภาษีศุลกากร และกระทรวงอุตสาหกรรมควรประสานงานกับหน่วยงานด้านบริการพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อให้การจัดการด้านสาธารณูปโภคในเขตดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 27 พฤษภาคม 2540--