คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องการช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอแล้วมีมติดังนี้
1. กำหนดให้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของทางราชการและเจ้าหน้าที่ของบริษัท/ห้าง ฯ ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกี่ยวกับการขออนุญาตมี พกพา และใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตนเองในการปฏิบัติงานในพื้นที่ ฯ ตามความเหมาะสมและจำเป็น โดยอาจกำหนดให้มีหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการขออนุญาตมี พกพา และใช้อาวุธปืนเป็นกรณีเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
2. กำหนดให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดมาตรการส่งเสริม และสนับสนุนให้บริษัทผู้รับประกันภัยรับประกันภัยบุคคลและเครื่องจักรในงานก่อสร้างของทางราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในอัตราปกติ โดยอาจจัดให้มีโครงการและมาตรการจูงใจเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนด้วยก็ได้
3. กำหนดให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจในพื้นที่ เพื่อรับผิดชอบและดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาต เก็บรักษา จำหน่าย และใช้วัตถุระเบิดเพื่อการระเบิดหินสำหรับการก่อสร้างในลักษณะ One Stop Service ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการขอและใช้วัตถุระเบิด เพื่อนำไปใช้ระเบิดหิน เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนหินประเภทต่าง ๆ ที่จะใช้ในงานก่อสร้าง รวมทั้งการกำหนดมาตรการเพื่อให้มีการนำวัตถุระเบิดไปใช้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ด้วย
กรณีที่สามารถใช้วัสดุอื่นซึ่งมีคุณภาพและคุณสมบัติใช้ทดแทนวัสดุสำหรับงานก่อสร้างของทางราชการได้ ให้พิจารณานำมาใช้ทดแทนได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น โดยให้พิจารณาวัสดุทดแทนที่หาได้จากแหล่งในพื้นที่เป็นลำดับแรก และให้คิดราคาค่าวัสดุและค่าขนส่งในอัตราปกติ
4. กำหนดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ พิจารณาขยายอายุสัญญาในงานก่อสร้างของทางราชการที่มีนิติสัมพันธ์หรือที่รอเซ็นสัญญาได้จำนวน 180 วัน และหากมีความจำเป็นต้องขยายอายุสัญญา เกินกว่า 180 วัน ให้เป็นอำนาจของหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ซึ่งหัวหน้าส่วนราชการหรือผู้ว่าราชการจังหวัด มอบอำนาจเป็นผู้อนุมัติขยายอายุสัญญา สำหรับงานก่อสร้างใหม่และไม่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา ฯ ให้พิจารณาเพิ่มระยะเวลาดำเนินการที่จะกำหนดในสัญญาได้จำนวนไม่เกินร้อยละ 50 ของระยะเวลาที่ได้ประมาณการไว้เดิม
5. ในการกำหนดราคากลางงานก่อสร้างของทางราชการ ควรกำหนดให้คำนวณราคากลางงานก่อสร้างตามหลักเกณฑ์ปกติ แล้วบวกเพิ่มเป็นค่าตอบแทนพิเศษเพื่อจูงใจในการปฏิบัติงานจำนวนร้อยละ 5 ของราคากลางที่คำนวณได้เป็นราคากลางงานก่อสร้างนั้น จนกว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่ภาวะปกติตามประกาศของทางราชการ
6. ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ควรกำหนดให้ขออนุมัติเบิกจ่ายจากเงิน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ทั้งนี้ กำหนดให้มีการประสานการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุข 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้ใช้มาตรการดังกล่าวเป็นการเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส) ซึ่งได้รับผลกระทบจากการเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยจนกว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่ภาวะปกติตามประกาศของทางราชการ
กระทรวงการคลังรายงานว่า
1. จังหวัดยะลาแจ้งว่า ชมรมผู้รับเหมาก่อสร้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เสนอมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดเหตุการณ์ไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อทางราชการให้ความช่วยเหลือรวม 9 ประเด็น และจังหวัดยะลาได้เชิญผู้รับเหมาก่อสร้างที่ร่วมลงรายมือชื่อในหนังสือขอความช่วยเหลือ ฯ มาประชุมร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2547 ได้ข้อสรุปในเรื่องของการรักษาความปลอดภัย การขออนุญาตซื้อและ พกพาอาวุธปืนและการจัดตั้งหน่วยรักษาความปลอดภัย การประกันภัยและการประกันวินาศภัย และการควบคุมรักษาวัตถุระเบิด ส่วนประเด็นที่เหลือจำนวน 5 ประเด็น ได้แก่ การขอให้ทางราชการขยายอายุสัญญา การขอให้ทางราชการชดเชยค่าความผันผวนของราคาวัสดุ (หิน) การขอเพิ่มค่าแรงและค่า Factor F การให้เพิ่มระยะเวลาดำเนินการของสัญญาที่จะดำเนินการ และการขอให้รัฐบาลยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล นั้น จังหวัดยะลาได้พิจารณาเห็นว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจของจังหวัด ฯ จึงขอให้กระทรวงการคลัง พิจารณาดำเนินการให้ส่วนราชการที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ความช่วยเหลือ
2. กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า ประเด็นการขอความช่วยเหลือดังกล่าวเกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือ จึงได้เชิญผู้แทนสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบทมาร่วมประชุมหารือเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประชุม ฯ พิจารณาได้ข้อสรุปและมีมติให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) เป็นเจ้าของเรื่องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา
3. สำหรับกรณีการขอให้รัฐบาลยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลแก่ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในปี พ.ศ.2547 นั้น กระทรวงการคลัง (กรมสรรพากร) ได้พิจารณาเห็นว่า การคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในปัจจุบัน หากผู้ประกอบกิจการดำเนินกิจการแล้ว ไม่มีรายได้หรือมีรายได้น้อยจนทำให้มีผลประกอบการขาดทุน ก็จะไม่มีภาระในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลแต่อย่างใด อีกทั้งยังสามารถนำผลขาดทุนไปหักออกจากกำไรสุทธิในปีต่อ ๆ ไปได้อีกเป็นระยะเวลา 5 ปี จึงไม่สมควรกำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้แต่อย่างใด นอกจากนี้ในการพิจารณากำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากรจำเป็นต้องเป็นการให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการกิจการเป็นการทั่วไป โดยไม่สามารถเลือกปฏิบัติให้กับผู้ประกอบการกิจการรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 มกราคม 2548--จบ--
1. กำหนดให้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของทางราชการและเจ้าหน้าที่ของบริษัท/ห้าง ฯ ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกี่ยวกับการขออนุญาตมี พกพา และใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตนเองในการปฏิบัติงานในพื้นที่ ฯ ตามความเหมาะสมและจำเป็น โดยอาจกำหนดให้มีหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการขออนุญาตมี พกพา และใช้อาวุธปืนเป็นกรณีเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
2. กำหนดให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดมาตรการส่งเสริม และสนับสนุนให้บริษัทผู้รับประกันภัยรับประกันภัยบุคคลและเครื่องจักรในงานก่อสร้างของทางราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในอัตราปกติ โดยอาจจัดให้มีโครงการและมาตรการจูงใจเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนด้วยก็ได้
3. กำหนดให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจในพื้นที่ เพื่อรับผิดชอบและดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาต เก็บรักษา จำหน่าย และใช้วัตถุระเบิดเพื่อการระเบิดหินสำหรับการก่อสร้างในลักษณะ One Stop Service ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการขอและใช้วัตถุระเบิด เพื่อนำไปใช้ระเบิดหิน เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนหินประเภทต่าง ๆ ที่จะใช้ในงานก่อสร้าง รวมทั้งการกำหนดมาตรการเพื่อให้มีการนำวัตถุระเบิดไปใช้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ด้วย
กรณีที่สามารถใช้วัสดุอื่นซึ่งมีคุณภาพและคุณสมบัติใช้ทดแทนวัสดุสำหรับงานก่อสร้างของทางราชการได้ ให้พิจารณานำมาใช้ทดแทนได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น โดยให้พิจารณาวัสดุทดแทนที่หาได้จากแหล่งในพื้นที่เป็นลำดับแรก และให้คิดราคาค่าวัสดุและค่าขนส่งในอัตราปกติ
4. กำหนดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ พิจารณาขยายอายุสัญญาในงานก่อสร้างของทางราชการที่มีนิติสัมพันธ์หรือที่รอเซ็นสัญญาได้จำนวน 180 วัน และหากมีความจำเป็นต้องขยายอายุสัญญา เกินกว่า 180 วัน ให้เป็นอำนาจของหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ซึ่งหัวหน้าส่วนราชการหรือผู้ว่าราชการจังหวัด มอบอำนาจเป็นผู้อนุมัติขยายอายุสัญญา สำหรับงานก่อสร้างใหม่และไม่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา ฯ ให้พิจารณาเพิ่มระยะเวลาดำเนินการที่จะกำหนดในสัญญาได้จำนวนไม่เกินร้อยละ 50 ของระยะเวลาที่ได้ประมาณการไว้เดิม
5. ในการกำหนดราคากลางงานก่อสร้างของทางราชการ ควรกำหนดให้คำนวณราคากลางงานก่อสร้างตามหลักเกณฑ์ปกติ แล้วบวกเพิ่มเป็นค่าตอบแทนพิเศษเพื่อจูงใจในการปฏิบัติงานจำนวนร้อยละ 5 ของราคากลางที่คำนวณได้เป็นราคากลางงานก่อสร้างนั้น จนกว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่ภาวะปกติตามประกาศของทางราชการ
6. ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ควรกำหนดให้ขออนุมัติเบิกจ่ายจากเงิน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ทั้งนี้ กำหนดให้มีการประสานการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุข 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้ใช้มาตรการดังกล่าวเป็นการเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส) ซึ่งได้รับผลกระทบจากการเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยจนกว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่ภาวะปกติตามประกาศของทางราชการ
กระทรวงการคลังรายงานว่า
1. จังหวัดยะลาแจ้งว่า ชมรมผู้รับเหมาก่อสร้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เสนอมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดเหตุการณ์ไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อทางราชการให้ความช่วยเหลือรวม 9 ประเด็น และจังหวัดยะลาได้เชิญผู้รับเหมาก่อสร้างที่ร่วมลงรายมือชื่อในหนังสือขอความช่วยเหลือ ฯ มาประชุมร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2547 ได้ข้อสรุปในเรื่องของการรักษาความปลอดภัย การขออนุญาตซื้อและ พกพาอาวุธปืนและการจัดตั้งหน่วยรักษาความปลอดภัย การประกันภัยและการประกันวินาศภัย และการควบคุมรักษาวัตถุระเบิด ส่วนประเด็นที่เหลือจำนวน 5 ประเด็น ได้แก่ การขอให้ทางราชการขยายอายุสัญญา การขอให้ทางราชการชดเชยค่าความผันผวนของราคาวัสดุ (หิน) การขอเพิ่มค่าแรงและค่า Factor F การให้เพิ่มระยะเวลาดำเนินการของสัญญาที่จะดำเนินการ และการขอให้รัฐบาลยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล นั้น จังหวัดยะลาได้พิจารณาเห็นว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจของจังหวัด ฯ จึงขอให้กระทรวงการคลัง พิจารณาดำเนินการให้ส่วนราชการที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ความช่วยเหลือ
2. กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า ประเด็นการขอความช่วยเหลือดังกล่าวเกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือ จึงได้เชิญผู้แทนสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบทมาร่วมประชุมหารือเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประชุม ฯ พิจารณาได้ข้อสรุปและมีมติให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) เป็นเจ้าของเรื่องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา
3. สำหรับกรณีการขอให้รัฐบาลยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลแก่ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในปี พ.ศ.2547 นั้น กระทรวงการคลัง (กรมสรรพากร) ได้พิจารณาเห็นว่า การคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในปัจจุบัน หากผู้ประกอบกิจการดำเนินกิจการแล้ว ไม่มีรายได้หรือมีรายได้น้อยจนทำให้มีผลประกอบการขาดทุน ก็จะไม่มีภาระในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลแต่อย่างใด อีกทั้งยังสามารถนำผลขาดทุนไปหักออกจากกำไรสุทธิในปีต่อ ๆ ไปได้อีกเป็นระยะเวลา 5 ปี จึงไม่สมควรกำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้แต่อย่างใด นอกจากนี้ในการพิจารณากำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากรจำเป็นต้องเป็นการให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการกิจการเป็นการทั่วไป โดยไม่สามารถเลือกปฏิบัติให้กับผู้ประกอบการกิจการรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 มกราคม 2548--จบ--