แท็ก
คณะรัฐมนตรี
ทำเนียบรัฐบาล--24 ก.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค และท้องถิ่น(กนภ.)ครั้งที่ 3/2539 เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2539 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
1. การจัดตั้งบรรษัทพัฒนาองค์กรชุมชน
ก. ข้อสังเกต กนภ.
1)ในเรื่องของบทบาทอำนาจหน้าที่ของบรรษัท ควรให้มีความชัดเจน โดยเฉพาะการ ออกซื้อขายตราสาร หุ้นกู้ ตั๋วเงิน และกู้ยืมเงิน โดยอาจมีรัฐบาลค้ำประกัน และการร่วมลงทุนกับองค์กร ชุมชน เครือข่ายองค์กรชุมชนสถาบันการเงินและองค์กรหรือบุคคลภายนอกอื่นใด
2) ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมการพัฒนาชุมชน การเคหะแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงการคลัง มาประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาในการปรับปรุงรูปแบบและวิธีการจัดตั้งบรรษัทพัฒนาองค์กรชุมชน เพื่อให้ เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
3) ในการดำเนินงานของบรรษัทพัฒนาองค์กรชุมชนควรเน้นกลุ่มเป้าหมายที่ยากจน ซึ่งจะไป ช่วยเสริมสถาบันการเงินที่มีอยู่แล้ว เช่น สหกรณ์และกลุ่มออมทรัพย์
1.2 มติ กนภ.
มอบให้กระทรวงการคลังเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ธนาคารออมสิน และ การเคหะแห่งชาติมาประชุมหารือร่วมกันเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย พร้อมทั้งปรับปรุงขั้นตอนการดำ เนินงานต่าง ๆ ตามข้อสังเกตของที่ประชุมและนำมาเสนอให้คณะกรรมการ กนภ. พิจารณาในการประ ชุมครั้งต่อไป
2. การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การลงทุนกลุ่มจังหวัด
2.1 การจัดแบ่งกลุ่มจังหวัด
2.1.1 พื้นที่ส่วนแรก ประกอบด้วยกลุ่มจังหวัดที่มีสภาพการพัฒนาระดับก้าวหน้า และประชากร มีรายได้ต่อหัวในอัตราสูง ซึ่งมีจำนวนรวม 10 จังหวัด
2.1.2พื้นที่ส่วนที่สอง เป็นกลุ่มจังหวัดที่มีสภาพการพัฒนาระดับรองเป็นจังหวัดนอกเหนือจาก กลุ่มที่มีสภาพการพัฒนาระดับก้าวหน้า จังหวัดที่มีสภาพการพัฒนาระดับรองจำนวน 66 จังหวัด
2.2 ขั้นตอนการดำเนินงาน
2.2.1 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักนโยบาย และแผนกระทรวงมหาดไทย ร่วมกันดำเนินการเพื่อจัดทำข้อเสนอการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การลงทุนกลุ่ม จังหวัดทั้ง 14 กลุ่ม
2.2.2 จัดสัมมนาโดยเชิญนักลงทุนภาคเอกชนทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ได้ข้อคิดเห็นในเรื่องศักยภาพ และเพื่อผนึกกำลังกลไกจากภาครัฐและนักลงทุนเอกชนที่จะก่อให้ เกิดการปฏิบัติ
2.2.3 ประมวลข้อเสนอแนะจากการสัมมนาจัดทำเป็นแผนยุทธศาสตร์การลงทุนกลุ่มจังหวัด เพื่อใช้เป็นกรอบการดำเนินงาน รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณประจำปีของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ก. ข้อสังเกต กนภ.
1)ในการจัดทำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดควรใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่อยู่ในแผนลงทุนจังหวัด โดยจัดลำดับความสำคัญของโครงการในลักษณะกลุ่มจังหวัด เพื่อนำไปสู่การจัดสรรงบประมาณปี 2541 ต่อไป
2) ควรเน้นการพัฒนาจังหวัดชายแดนในทุกภาคให้มีความเจริญทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้าน
3)การพัฒนาการท่องเที่ยว จะมีส่วนช่วยในการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น ได้อย่างมาก จึงควรพิจารณาหามาตรการที่จะสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการส่งเสริมให้จังหวัด ภูเก็ตเป็นเขตปลอดภาษี
4)ในการจัดกลุ่มจังหวัดควรให้มีการยืดหยุ่น ซึ่งใช้ข้อมูลจากการสัมมนาระดับพื้นที่มาประกอบ การพิจารณาการแบ่งกลุ่มให้เหมาะสมต่อไป
5) ในขั้นตอนการจัดทำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดควรให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรมได้เข้าร่วมการจัดทำกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทยด้วย
ข. มติ กนภ.
1)ให้ความเห็นชอบในการจัดแบ่งกลุ่มจังหวัดเพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์การลงทุนตามข้อ 2.1
2) ให้ความเห็นชอบในขั้นตอนการดำเนินงานตามข้อ 2.2 โดยขอจัดการสัมมนากลุ่มจังหวัด แรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนสำหรับกลุ่มจังหวัดที่เหลือให้ดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนธันวาคม 2539
3) ให้ฝ่ายเลขานุการประสานกับคณะอนุกรรมการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคเพื่อขอรับ การสนับสนุนงบประมาณจากกองทุน กจภ. เพื่อสนับสนุนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การลงทุนกลุ่มจังหวัด โดยอาจจัดจ้างสถาบันการศึกษาหรือจ้างที่ปรึกษาดำเนินการต่อไป
4) ให้รับข้อสังเกตข้อ 3) ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาจัดทำรายละ เอียดข้อเสนอให้คณะกรรมการ กนภ.พิจารณาต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 23 กรกฏาคม 2539--
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค และท้องถิ่น(กนภ.)ครั้งที่ 3/2539 เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2539 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
1. การจัดตั้งบรรษัทพัฒนาองค์กรชุมชน
ก. ข้อสังเกต กนภ.
1)ในเรื่องของบทบาทอำนาจหน้าที่ของบรรษัท ควรให้มีความชัดเจน โดยเฉพาะการ ออกซื้อขายตราสาร หุ้นกู้ ตั๋วเงิน และกู้ยืมเงิน โดยอาจมีรัฐบาลค้ำประกัน และการร่วมลงทุนกับองค์กร ชุมชน เครือข่ายองค์กรชุมชนสถาบันการเงินและองค์กรหรือบุคคลภายนอกอื่นใด
2) ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมการพัฒนาชุมชน การเคหะแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงการคลัง มาประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาในการปรับปรุงรูปแบบและวิธีการจัดตั้งบรรษัทพัฒนาองค์กรชุมชน เพื่อให้ เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
3) ในการดำเนินงานของบรรษัทพัฒนาองค์กรชุมชนควรเน้นกลุ่มเป้าหมายที่ยากจน ซึ่งจะไป ช่วยเสริมสถาบันการเงินที่มีอยู่แล้ว เช่น สหกรณ์และกลุ่มออมทรัพย์
1.2 มติ กนภ.
มอบให้กระทรวงการคลังเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ธนาคารออมสิน และ การเคหะแห่งชาติมาประชุมหารือร่วมกันเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย พร้อมทั้งปรับปรุงขั้นตอนการดำ เนินงานต่าง ๆ ตามข้อสังเกตของที่ประชุมและนำมาเสนอให้คณะกรรมการ กนภ. พิจารณาในการประ ชุมครั้งต่อไป
2. การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การลงทุนกลุ่มจังหวัด
2.1 การจัดแบ่งกลุ่มจังหวัด
2.1.1 พื้นที่ส่วนแรก ประกอบด้วยกลุ่มจังหวัดที่มีสภาพการพัฒนาระดับก้าวหน้า และประชากร มีรายได้ต่อหัวในอัตราสูง ซึ่งมีจำนวนรวม 10 จังหวัด
2.1.2พื้นที่ส่วนที่สอง เป็นกลุ่มจังหวัดที่มีสภาพการพัฒนาระดับรองเป็นจังหวัดนอกเหนือจาก กลุ่มที่มีสภาพการพัฒนาระดับก้าวหน้า จังหวัดที่มีสภาพการพัฒนาระดับรองจำนวน 66 จังหวัด
2.2 ขั้นตอนการดำเนินงาน
2.2.1 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักนโยบาย และแผนกระทรวงมหาดไทย ร่วมกันดำเนินการเพื่อจัดทำข้อเสนอการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การลงทุนกลุ่ม จังหวัดทั้ง 14 กลุ่ม
2.2.2 จัดสัมมนาโดยเชิญนักลงทุนภาคเอกชนทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ได้ข้อคิดเห็นในเรื่องศักยภาพ และเพื่อผนึกกำลังกลไกจากภาครัฐและนักลงทุนเอกชนที่จะก่อให้ เกิดการปฏิบัติ
2.2.3 ประมวลข้อเสนอแนะจากการสัมมนาจัดทำเป็นแผนยุทธศาสตร์การลงทุนกลุ่มจังหวัด เพื่อใช้เป็นกรอบการดำเนินงาน รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณประจำปีของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ก. ข้อสังเกต กนภ.
1)ในการจัดทำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดควรใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่อยู่ในแผนลงทุนจังหวัด โดยจัดลำดับความสำคัญของโครงการในลักษณะกลุ่มจังหวัด เพื่อนำไปสู่การจัดสรรงบประมาณปี 2541 ต่อไป
2) ควรเน้นการพัฒนาจังหวัดชายแดนในทุกภาคให้มีความเจริญทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้าน
3)การพัฒนาการท่องเที่ยว จะมีส่วนช่วยในการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น ได้อย่างมาก จึงควรพิจารณาหามาตรการที่จะสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการส่งเสริมให้จังหวัด ภูเก็ตเป็นเขตปลอดภาษี
4)ในการจัดกลุ่มจังหวัดควรให้มีการยืดหยุ่น ซึ่งใช้ข้อมูลจากการสัมมนาระดับพื้นที่มาประกอบ การพิจารณาการแบ่งกลุ่มให้เหมาะสมต่อไป
5) ในขั้นตอนการจัดทำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดควรให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรมได้เข้าร่วมการจัดทำกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทยด้วย
ข. มติ กนภ.
1)ให้ความเห็นชอบในการจัดแบ่งกลุ่มจังหวัดเพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์การลงทุนตามข้อ 2.1
2) ให้ความเห็นชอบในขั้นตอนการดำเนินงานตามข้อ 2.2 โดยขอจัดการสัมมนากลุ่มจังหวัด แรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนสำหรับกลุ่มจังหวัดที่เหลือให้ดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนธันวาคม 2539
3) ให้ฝ่ายเลขานุการประสานกับคณะอนุกรรมการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคเพื่อขอรับ การสนับสนุนงบประมาณจากกองทุน กจภ. เพื่อสนับสนุนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การลงทุนกลุ่มจังหวัด โดยอาจจัดจ้างสถาบันการศึกษาหรือจ้างที่ปรึกษาดำเนินการต่อไป
4) ให้รับข้อสังเกตข้อ 3) ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาจัดทำรายละ เอียดข้อเสนอให้คณะกรรมการ กนภ.พิจารณาต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 23 กรกฏาคม 2539--