คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างโครงการส่งเสริมโครงการปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดภายใต้การสนับสนุนของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ในด้านการกำหนดนโยบายและจัดทำแผนยุทธศาสตร์ การพัฒนาด้านวิชาการ การพัฒนาระบบข้อมูลและเทคโนโลยี รวมถึงการเพิ่มศักยภาพของไทย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ให้ความเห็นชอบด้วยแล้ว พร้อมทั้งมอบให้ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยในส่วนของกระทรวงกลาโหม และอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ เป็นผู้แทนไทยในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศลงนามในร่างโครงการฯ ร่วมกับผู้แทนสหประชาชาติ
โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme : UNDP) มีนโนยายในการดูแลและแก้ปัญหาผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอันเนื่องมาจากปัญหาทุ่นระเบิดและการให้การสนับสนุนการเสริมสร้างความสามารถและสมรรถนะของบุคลากรและหน่วยงานที่รับผิดชอบในด้านนี้ ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่นเพื่อช่วยลดปัญหาและพัฒนาฟื้นฟูด้านสังคมและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีปัญหาด้านทุ่นระเบิดได้เสนอร่างโครงการส่งเสริมโครงการปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิด (Facilitating the National Mine Action Programme in Thailand) เพื่อช่วยเหลือประเทศไทยผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ และได้เสนอให้ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติพิจารณา ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติได้เชิญผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้แทนจาก UNDP ร่วมประชุมเพื่อพิจารณาร่างโครงการฯ ของ UNDP ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการและให้มีการปรับปรุงแก้ไขในรายละเอียด เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศไทยมากที่สุด สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. วัตถุประสงค์ของร่างโครงการฯ
1.1 เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลไทยด้านการสนับสนุนทางเทคนิคและการพัฒนาขีดความสามารถในการจัดตั้งโครงการปฏิบัติการร่วมด้านทุ่นระเบิด ให้สามารถปรับปรุงสภาพแวดล้อมในพื้นที่ให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ โดยปราศจากภัยหรือผลกระทบจากทุ่นระเบิด และให้เกิดการเติบโตและการพัฒนาทางเศรษฐกิจในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยทุ่นระเบิด
1.2 เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศไทยในการปฏิบัติตามข้อตกลงของอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา)
2. ระยะเวลาการดำเนินการตามร่างโครงการฯ กำหนดระยะเวลา 1 ปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และมีการลงนามในร่างโครงการฯ
3. หน่วยงานรับผิดชอบหลักของประเทศไทยในการดำเนินการตามร่างโครงการฯ คือ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ซึ่งจะทำงานร่วมกับ UNDP
4. การสนับสนุน รัฐบาลญี่ปุ่นให้การสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 18,000,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 45 บาท) ผ่านทาง UNDP
5. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ประเทศไทยโดยการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ จะมีศักยภาพ และประสิทธิภาพในการดำเนินงานปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิด รวมทั้งมีความพร้อมทางด้านระบบข้อมูล และเทคโนโลยีตลอดจนงานเอกสารด้านการปฏิบัติการทุ่นระเบิดที่เป็นมาตรฐานระหว่างประเทศของสหประชาชาติ เพื่อสร้างความสนใจให้เกิดการสนับสนุนแก่ประเทศไทยจากนานาชาติในโอกาสต่อไป
กระทรวงกลาโหมพิจารณาแล้วเห็นว่า การเสนอร่างโครงการฯ ของสหประชาชาติมีจุดประสงค์หลักเพื่อให้การช่วยเหลือและสนับสนุนประเทศไทยในการปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดตามอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งจะเกิดผลดีต่อการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการดำเนินงานทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดในอนุสัญญาออตตาวา ภายในระยะเวลา 10 ปี ประกอบกับการดำเนินการตามโครงการฯ เป็นลักษณะที่ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากประเทศผู้ให้การสนับสนุนเห็นควรพิจารณาสนับสนุนให้มีการดำเนินการตามโครงการฯ ต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 10 ก.ค.44--
-สส-
โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme : UNDP) มีนโนยายในการดูแลและแก้ปัญหาผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอันเนื่องมาจากปัญหาทุ่นระเบิดและการให้การสนับสนุนการเสริมสร้างความสามารถและสมรรถนะของบุคลากรและหน่วยงานที่รับผิดชอบในด้านนี้ ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่นเพื่อช่วยลดปัญหาและพัฒนาฟื้นฟูด้านสังคมและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีปัญหาด้านทุ่นระเบิดได้เสนอร่างโครงการส่งเสริมโครงการปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิด (Facilitating the National Mine Action Programme in Thailand) เพื่อช่วยเหลือประเทศไทยผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ และได้เสนอให้ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติพิจารณา ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติได้เชิญผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้แทนจาก UNDP ร่วมประชุมเพื่อพิจารณาร่างโครงการฯ ของ UNDP ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการและให้มีการปรับปรุงแก้ไขในรายละเอียด เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศไทยมากที่สุด สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. วัตถุประสงค์ของร่างโครงการฯ
1.1 เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลไทยด้านการสนับสนุนทางเทคนิคและการพัฒนาขีดความสามารถในการจัดตั้งโครงการปฏิบัติการร่วมด้านทุ่นระเบิด ให้สามารถปรับปรุงสภาพแวดล้อมในพื้นที่ให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ โดยปราศจากภัยหรือผลกระทบจากทุ่นระเบิด และให้เกิดการเติบโตและการพัฒนาทางเศรษฐกิจในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยทุ่นระเบิด
1.2 เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศไทยในการปฏิบัติตามข้อตกลงของอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา)
2. ระยะเวลาการดำเนินการตามร่างโครงการฯ กำหนดระยะเวลา 1 ปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และมีการลงนามในร่างโครงการฯ
3. หน่วยงานรับผิดชอบหลักของประเทศไทยในการดำเนินการตามร่างโครงการฯ คือ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ซึ่งจะทำงานร่วมกับ UNDP
4. การสนับสนุน รัฐบาลญี่ปุ่นให้การสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 18,000,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 45 บาท) ผ่านทาง UNDP
5. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ประเทศไทยโดยการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ จะมีศักยภาพ และประสิทธิภาพในการดำเนินงานปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิด รวมทั้งมีความพร้อมทางด้านระบบข้อมูล และเทคโนโลยีตลอดจนงานเอกสารด้านการปฏิบัติการทุ่นระเบิดที่เป็นมาตรฐานระหว่างประเทศของสหประชาชาติ เพื่อสร้างความสนใจให้เกิดการสนับสนุนแก่ประเทศไทยจากนานาชาติในโอกาสต่อไป
กระทรวงกลาโหมพิจารณาแล้วเห็นว่า การเสนอร่างโครงการฯ ของสหประชาชาติมีจุดประสงค์หลักเพื่อให้การช่วยเหลือและสนับสนุนประเทศไทยในการปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดตามอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งจะเกิดผลดีต่อการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการดำเนินงานทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดในอนุสัญญาออตตาวา ภายในระยะเวลา 10 ปี ประกอบกับการดำเนินการตามโครงการฯ เป็นลักษณะที่ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากประเทศผู้ให้การสนับสนุนเห็นควรพิจารณาสนับสนุนให้มีการดำเนินการตามโครงการฯ ต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 10 ก.ค.44--
-สส-