คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางการค้าไทย - โรมาเนีย ครั้งที่ 10 เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2544 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ซึ่งมีผลการประชุมสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. การหารือระหว่างหัวหน้าคณะฝ่ายไทยและโรมาเนีย
1.1 ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ขยายตัวสูงขึ้น และได้กำหนดเป้าหมายไว้ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี โดยมีแนวทางการดำเนินการได้แก่ คัดเลือกสินค้าที่เห็นว่ามีศักยภาพ เพื่อให้การสนับสนุนในรูปการกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกต่าง ๆ ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้เสนอที่จะใช้การค้าแบบตัดบัญชี (Account Trade) เพื่อเสริมการค้าให้คล่องตัวยิ่งขึ้นด้วย
1.2 นอกจากนี้ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนโดยใช้ประเทศของตนเป็นประตูเชื่อมโยงไปสู่ประเทศอื่นในภูมิภาคของตน ทั้งนี้ หัวหน้าคณะฝ่ายโรมาเนียได้เชิญหัวหน้าคณะฝ่ายไทยนำคณะทั้งภาครัฐและเอกชนไปเยือนประเทศโรมาเนียในช่วงเดือนตุลาคมศกนี้ เพื่อขยายความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนสองฝ่ายและเข้าร่วมในงานแสดงสินค้าที่จะจัดขึ้น
2. การทบทวนสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ
2.1 ฝ่ายไทยได้กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ โดยในปี 2544 รัฐบาลไทยได้ออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในด้านการเร่งแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เพิ่มศักยภาพธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพการส่งออก โดยคาดว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะขยายตัวระหว่างร้อยละ 2.0-3.0
2.2 ฝ่ายโรมาเนียได้บรรยายสรุปสภาวะเศรษฐกิจของประเทศว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศโดยเร่งรัดการแปรรูปรัฐวิสาหกิจส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ และสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้ากับประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย
3. การทบทวนการค้าไทย-โรมาเนีย
3.1 ฝ่ายไทยสรุปการค้าสองฝ่ายว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าเป็นไปอย่างราบรื่นมาโดยตลอด ถึงแม้จะมีมูลค่าค่อนข้างน้อยเพียงร้อยละ 0.03 ของมูลค่าการค้ารวมของไทยในปี 2543 อย่างไรก็ตามในช่วงสี่เดือนแรกของปี 2544 การค้าสองฝ่ายเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยมีอัตราขยายตัวร้อยละ 15.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2543 สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออก คือ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศ ปลากระป๋อง เสื้อผ้าสำเร็จรูป และสินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากโรมาเนีย คือ ปุ๋ย เหล็กและเหล็กกล้า เครื่องจักรและอุปกรณ์ และยาฆ่าแมลง
3.2 ฝ่ายโรมาเนียแจ้งว่า สถิติการค้าในส่วนของโรมาเนียมีตัวเลขการค้าสองฝ่ายแตกต่างจากของฝ่ายไทย ทั้งนี้ สองฝ่ายเห็นชอบให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถิติการค้าระหว่างกัน เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องตามความเป็นจริง
3.3 สองฝ่ายได้ตกลงที่จะดำเนินความพยายามในการส่งเสริมให้เกิดความหลากหลายของความสัมพันธ์ด้านการค้า บนพื้นฐานของความสมดุลและผลประโยชน์ และได้มีการกำหนดเป้าหมายมูลค่าการค้าระหว่างกันให้บรรลุ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการใช้การค้าแบบตัดบัญชี (Account Trade) ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดโดยความเห็นชอบของทั้งสองฝ่าย
4. ความร่วมมือทางการค้า
4.1 ประเด็นการค้า ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะนำประเด็นปัญหาด้านภาษีการนำเข้าสินค้าที่แต่ละฝ่ายเห็นว่ามีอัตราสูงเข้าสู่การเจรจาทั้งในกรอบของ GSTP รอบต่อไป และกรอบการเจรจาภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) และเห็นชอบในการที่จะผลักดันร่างความตกลงการยอมรับร่วมในผลการตรวจสอบและการรับรองระหว่างสองประเทศ (Agreement on Mutual Recognition of Conformity Assessment - MRA) ต่อไป รวมทั้งแลกเปลี่ยนรายการสินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกของแต่ละฝ่าย โดยรายการสินค้าของฝ่ายไทยมี 19 รายการ ส่วนของฝ่ายโรมาเนียมี 20 รายการ
4.2 มาตรการส่งเสริมการค้าและการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะสนับสนุนการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและนิทรรศการที่จัดขึ้นของประเทศทั้งสองและเห็นพ้องว่าภาคเอกชนของทั้งสองประเทศควรที่จะเข้าร่วมในงานแสดงสินค้าที่มีการจัดขึ้น และให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้าระหว่างกัน โดยฝ่ายโรมาเนียได้เสนอร่างความตกลงความร่วมมือด้านการประสานงานและการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการค้าระหว่างศูนย์การค้าต่างประเทศของโรมาเนีย (The Romanian Foreign Trade Center) และกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ของไทย เพื่อให้แต่ละฝ่ายใช้เป็นเครื่องมือในการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างสองภูมิภาค
5. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
5.1 การลงทุน ฝ่ายไทยได้เชิญชวนให้ฝ่ายโรมาเนียมาลงทุนในประเทศไทยในอุตสาหกรรมสาขาที่โรมาเนียมีความถนัด เช่น เครื่องสำอาง เคมีภัณฑ์ และการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนฝ่ายโรมาเนียได้เชิญชวนให้ภาคเอกชนของไทยเข้าไปลงทุนในโครงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของโรมาเนียในอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า โครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมอาหารและแปรรูปสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมพลังงาน และการท่องเที่ยว โดยสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะสนับสนุนให้บริษัทไทยและโรมาเนียจัดตั้งโครงการร่วมทุนในโครงการตามที่สองฝ่ายเสนอและยังได้ตกลงที่จะขยายความร่วมมือที่จะส่งเสริมให้ทั้งสองประเทศเป็นประตูการค้าและการลงทุนสู่ภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย
5.2 การธนาคาร ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญในความร่วมมือระหว่างธนาคารของทั้งสองประเทศ
5.3 ความตกลงทวิภาคี ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะหารือเกี่ยวกับข้อตกลงทวิภาคีระหว่างกันที่ยังคั่งค้างอยู่ เพื่อให้บรรลุข้อสรุปและสามารถลงนามกันได้
6. ความร่วมมือทางการค้าระดับภูมิภาคและพหุภาคี
6.1 ฝ่ายไทยได้แจ้งว่า ความร่วมมือทางการค้าระดับภูมิภาคมีส่วนเกื้อหนุนต่อความพยายามระหว่างประเทศ เพื่อก่อให้เกิดการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจของโลก และรายงานความคืบหน้าของความร่วมมือทางการค้าระดับภูมิภาคและพหุภาคีที่ประเทศไทยมีส่วนร่วมอยู่ด้วยทั้ง ASEAN WTO และ APEC
6.2 สำหรับฝ่ายโรมาเนียได้รายงานให้ทราบถึงความคืบหน้าของความร่วมมือในการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของโรมาเนีย และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศโรมาเนียกับประเทศในกลุ่มความตกลงการค้าเสรียุโรปกลาง (Central European Free Trade Agreement - CEFTA)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 10 ก.ค.44--
-สส-
1. การหารือระหว่างหัวหน้าคณะฝ่ายไทยและโรมาเนีย
1.1 ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ขยายตัวสูงขึ้น และได้กำหนดเป้าหมายไว้ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี โดยมีแนวทางการดำเนินการได้แก่ คัดเลือกสินค้าที่เห็นว่ามีศักยภาพ เพื่อให้การสนับสนุนในรูปการกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกต่าง ๆ ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้เสนอที่จะใช้การค้าแบบตัดบัญชี (Account Trade) เพื่อเสริมการค้าให้คล่องตัวยิ่งขึ้นด้วย
1.2 นอกจากนี้ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนโดยใช้ประเทศของตนเป็นประตูเชื่อมโยงไปสู่ประเทศอื่นในภูมิภาคของตน ทั้งนี้ หัวหน้าคณะฝ่ายโรมาเนียได้เชิญหัวหน้าคณะฝ่ายไทยนำคณะทั้งภาครัฐและเอกชนไปเยือนประเทศโรมาเนียในช่วงเดือนตุลาคมศกนี้ เพื่อขยายความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนสองฝ่ายและเข้าร่วมในงานแสดงสินค้าที่จะจัดขึ้น
2. การทบทวนสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ
2.1 ฝ่ายไทยได้กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ โดยในปี 2544 รัฐบาลไทยได้ออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในด้านการเร่งแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เพิ่มศักยภาพธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพการส่งออก โดยคาดว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะขยายตัวระหว่างร้อยละ 2.0-3.0
2.2 ฝ่ายโรมาเนียได้บรรยายสรุปสภาวะเศรษฐกิจของประเทศว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศโดยเร่งรัดการแปรรูปรัฐวิสาหกิจส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ และสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้ากับประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย
3. การทบทวนการค้าไทย-โรมาเนีย
3.1 ฝ่ายไทยสรุปการค้าสองฝ่ายว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าเป็นไปอย่างราบรื่นมาโดยตลอด ถึงแม้จะมีมูลค่าค่อนข้างน้อยเพียงร้อยละ 0.03 ของมูลค่าการค้ารวมของไทยในปี 2543 อย่างไรก็ตามในช่วงสี่เดือนแรกของปี 2544 การค้าสองฝ่ายเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยมีอัตราขยายตัวร้อยละ 15.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2543 สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออก คือ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศ ปลากระป๋อง เสื้อผ้าสำเร็จรูป และสินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากโรมาเนีย คือ ปุ๋ย เหล็กและเหล็กกล้า เครื่องจักรและอุปกรณ์ และยาฆ่าแมลง
3.2 ฝ่ายโรมาเนียแจ้งว่า สถิติการค้าในส่วนของโรมาเนียมีตัวเลขการค้าสองฝ่ายแตกต่างจากของฝ่ายไทย ทั้งนี้ สองฝ่ายเห็นชอบให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถิติการค้าระหว่างกัน เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องตามความเป็นจริง
3.3 สองฝ่ายได้ตกลงที่จะดำเนินความพยายามในการส่งเสริมให้เกิดความหลากหลายของความสัมพันธ์ด้านการค้า บนพื้นฐานของความสมดุลและผลประโยชน์ และได้มีการกำหนดเป้าหมายมูลค่าการค้าระหว่างกันให้บรรลุ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการใช้การค้าแบบตัดบัญชี (Account Trade) ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดโดยความเห็นชอบของทั้งสองฝ่าย
4. ความร่วมมือทางการค้า
4.1 ประเด็นการค้า ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะนำประเด็นปัญหาด้านภาษีการนำเข้าสินค้าที่แต่ละฝ่ายเห็นว่ามีอัตราสูงเข้าสู่การเจรจาทั้งในกรอบของ GSTP รอบต่อไป และกรอบการเจรจาภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) และเห็นชอบในการที่จะผลักดันร่างความตกลงการยอมรับร่วมในผลการตรวจสอบและการรับรองระหว่างสองประเทศ (Agreement on Mutual Recognition of Conformity Assessment - MRA) ต่อไป รวมทั้งแลกเปลี่ยนรายการสินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกของแต่ละฝ่าย โดยรายการสินค้าของฝ่ายไทยมี 19 รายการ ส่วนของฝ่ายโรมาเนียมี 20 รายการ
4.2 มาตรการส่งเสริมการค้าและการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะสนับสนุนการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและนิทรรศการที่จัดขึ้นของประเทศทั้งสองและเห็นพ้องว่าภาคเอกชนของทั้งสองประเทศควรที่จะเข้าร่วมในงานแสดงสินค้าที่มีการจัดขึ้น และให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้าระหว่างกัน โดยฝ่ายโรมาเนียได้เสนอร่างความตกลงความร่วมมือด้านการประสานงานและการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการค้าระหว่างศูนย์การค้าต่างประเทศของโรมาเนีย (The Romanian Foreign Trade Center) และกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ของไทย เพื่อให้แต่ละฝ่ายใช้เป็นเครื่องมือในการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างสองภูมิภาค
5. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
5.1 การลงทุน ฝ่ายไทยได้เชิญชวนให้ฝ่ายโรมาเนียมาลงทุนในประเทศไทยในอุตสาหกรรมสาขาที่โรมาเนียมีความถนัด เช่น เครื่องสำอาง เคมีภัณฑ์ และการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนฝ่ายโรมาเนียได้เชิญชวนให้ภาคเอกชนของไทยเข้าไปลงทุนในโครงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของโรมาเนียในอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า โครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมอาหารและแปรรูปสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมพลังงาน และการท่องเที่ยว โดยสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะสนับสนุนให้บริษัทไทยและโรมาเนียจัดตั้งโครงการร่วมทุนในโครงการตามที่สองฝ่ายเสนอและยังได้ตกลงที่จะขยายความร่วมมือที่จะส่งเสริมให้ทั้งสองประเทศเป็นประตูการค้าและการลงทุนสู่ภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย
5.2 การธนาคาร ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญในความร่วมมือระหว่างธนาคารของทั้งสองประเทศ
5.3 ความตกลงทวิภาคี ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะหารือเกี่ยวกับข้อตกลงทวิภาคีระหว่างกันที่ยังคั่งค้างอยู่ เพื่อให้บรรลุข้อสรุปและสามารถลงนามกันได้
6. ความร่วมมือทางการค้าระดับภูมิภาคและพหุภาคี
6.1 ฝ่ายไทยได้แจ้งว่า ความร่วมมือทางการค้าระดับภูมิภาคมีส่วนเกื้อหนุนต่อความพยายามระหว่างประเทศ เพื่อก่อให้เกิดการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจของโลก และรายงานความคืบหน้าของความร่วมมือทางการค้าระดับภูมิภาคและพหุภาคีที่ประเทศไทยมีส่วนร่วมอยู่ด้วยทั้ง ASEAN WTO และ APEC
6.2 สำหรับฝ่ายโรมาเนียได้รายงานให้ทราบถึงความคืบหน้าของความร่วมมือในการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของโรมาเนีย และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศโรมาเนียกับประเทศในกลุ่มความตกลงการค้าเสรียุโรปกลาง (Central European Free Trade Agreement - CEFTA)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 10 ก.ค.44--
-สส-