คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา) เสนอ รายงานผลการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินประจำปี 2543 และมีมติเห็นชอบให้เสนอรายงานผลการปฏิบัติงานฯ พร้อมทั้งข้อสังเกตต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ดังนี้
1. ขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ในการสืบสวนสอบสวนและอุปกรณ์ในการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน
2. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาสนับสนุนงบประมาณและอัตรากำลัง รวมทั้งให้ความสำคัญและร่วมมือกับสำนักงาน ปปง. อย่างจริงจังในด้านการประสานความร่วมมือทั้งข้อมูลข่าวสารและการดำเนินการต่าง ๆ ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรของสำนักงาน ปปง. โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาอบรมเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในต่างประเทศที่มีประสบการณ์ในการดำเนินการในด้านนี้มาก่อน
สำหรับรายงานผลการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินประจำปี 2543 มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. ผลการปฏิบัติงาน
1.1 ด้านการปราบปราม
1) การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน
(1) การยึดและอายัดทรัพย์สิน ได้มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สิน รวม 3 คดี มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 21,131,473 บาท โดยได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินทั้ง 3 คดี ซึ่งขณะนี้ศาลได้มีคำสั่งยึดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราวแล้ว
(2) การบริหารจัดการทรัพย์สิน ได้มีการยกร่างระเบียบสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินว่าด้วยการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัด และได้กำหนดแบบฟอร์มต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการเตรียมการจัดตั้งกองทุนบริหารจัดการทรัพย์สินที่ได้จากการยึดและอายัด และการเตรียมการแต่งตั้งกรรมการประเมินราคาทรัพย์สิน นอกจากนี้ได้ดำเนินการยกร่างแนวทางปฏิบัติในการเก็บรักษาทรัพย์สิน การกำหนดหลักเกณฑ์การให้ผู้มีส่วนได้เสียรับทรัพย์สินไปดูแล เป็นต้น
2) การรับและตอบรับรายงานธุรกรรม
สำนักงาน ปปง. ได้รับรายงานธุรกรรมจากสถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการดำเนินการหรือให้คำแนะนำในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการลงทุนและเคลื่อนย้ายทุนทั้งหมด 112,279 ธุรกรรม
3) การวิเคราะห์ธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย
สำนักงาน ปปง. ได้รับรายงานและข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยซึ่งมีช่องทางการรับรายงานและข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมหลายช่องทาง ได้แก่ การรายงานของผู้มีหน้าที่ต้องรายงานตามกฎหมาย เช่น สถาบันการเงิน สำนักงานที่ดิน เป็นต้น จากประชาชนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านระบบสารสนเทศทางเครือข่ายอินเตอร์เนต หรือทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ และการรับรายงานและข้อมูลจากประชาชนทั่วไปและนิติบุคคลที่ประสงค์จะช่วยเหลือทางราชการ ตลอดจนข้อมูลจากส่วนราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงาน ปปง. จะต้องทำการตรวจสอบวิเคราะห์รายงานต่าง ๆ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์และสามารถรวบรวมเป็นพยานหลักฐาน นำไปสู่การดำเนินคดีตามความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน หรือนำไปสู่การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินได้
1.2 ด้านการป้องกัน
1) งานมาตรการและระเบียบต่าง ๆ
สำนักงาน ปปง. ได้จัดทำกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 รวม 10 ฉบับ ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวม 3 ฉบับ และระเบียบและประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี รวม 6 ฉบับ ซึ่งได้มีผลใช้บังคับเป็นกฎหมายทุกฉบับแล้ว
2) การสนับสนุนและปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานอื่น
สำนักงาน ปปง. ได้ให้ความร่วมมือและปฏิบัติงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมสืบสวนสอบสวนความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ณ สำนักงาน ปปง. และนอกจากนี้ได้ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ต่าง ๆ
3) เสนอมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบเงินตรา
มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อร่วมกันตรวจตราบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่เดิม และเพื่อประชาสัมพันธ์รวมทั้งทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายให้ได้ผล เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเงินตราออกนอกราชอาณาจักร
1.3 ด้านการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือ
สำนักงาน ปปง. มีการดำเนินการเพื่อเป็นการแสวงหาและส่งเสริมความร่วมมือจากประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องโดยการรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่าง ๆ การฝึกอบรมและสนับสนุนหน่วยงานอื่น และการประสานการดำเนินการและความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งได้มีการจัดทำโครงการเพื่อเป็นเจ้าภาพร่วมระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกาในโครงการสัมมนาระดับภูมิภาคด้านการยึดอายัดทรัพย์สินและมาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เตรียมการสมัครเป็นสมาชิกกลุ่มต่อต้านการฟอกเงินเอเชียและแปซิฟิก (APG) ซึ่งจะเป็นการเชื่อมความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและการฝึกอบรมดูงาน นอกจากนี้สำนักงาน ปปง. ยังได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศในด้านต่าง ๆ เช่น ได้รับการสนับสนุนเงินงบประมาณความช่วยเหลือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (NAS) ได้รับเงินช่วยเหลือจากส่วนแบ่งรายได้ที่รัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือในการสืบสวนติดตามริบทรัพย์ที่ได้จากการลักลอบค้ายาเสพติดจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา จำนวน 19,149 เหรียญสหรัฐ
1.4 ด้านการพัฒนาบุคลากร
ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. เข้ารับการอบรมและดูงานด้านต่าง ๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ เช่น การอบรมหลักสูตรการสืบสวนทางการเงินและมาตรการริบทรัพย์ การสัมมนาปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติการสัมมนาแนวทางประสานความร่วมมือตรวจสอบทรัพย์สิน เป็นต้น
1.5 ด้านพัฒนาเทคโนโลยีและสารสนเทศ
สำนักงาน ปปง. ได้จัดตั้งศูนย์สารสนเทศและติดตามประเมินผลทำหน้าที่ในการจัดสร้างระบบสารสนเทศเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นศูนย์กลางให้บริการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ การจัดวางระบบเครื่องมืออุปกรณ์สื่อสารหาข่าว
1.6 ด้านการบริหาร
ดำเนินการบริหารงานทั่วไปของสำนักงานและการบริหารงานบุคคล ตลอดจนการบริหารงบประมาณที่ได้รับจัดสรรให้สามารถดำเนินการตามภารกิจที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติงานประจำปี นอกจากนี้ได้มีการเตรียมการเสนอกรอบนโยบายและมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการจัดทำแผนปฏิบัติงานประจำปี รวมทั้งดำเนินการเกี่ยวกับงานเลขานุการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน คณะกรรมการธุรกรรม และคณะอนุกรรมการ รวมทั้งหมด 10 คณะ
2. ปัญหา อุปสรรค และข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน
2.1 ปัญหาด้านการบริหาร
1) อัตรากำลังไม่เพียงพอ เนื่องจาอข้อจำกัดของอัตรากำลังที่สำนักงาน ก.พ. กำหนดให้ในปัจจุบันเป็นข้าราชการเพียง 64 อัตรา และลูกจ้างชั่วคราว 25 อัตรา ไม่เพียงพอกับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เป็นปัญหาในการปฏิบัติงานของส่วนต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันมีหัวหน้ากลุ่มงานปฏิบัติงานเพียงคนเดียวในหลาย ๆ ลักษณะงานโดยไม่มีส่วนบังคับบัญชาในระดับปฏิบัติช่วยเหลือในการปฏิบัติงาน ทำให้การปฏิบัติงานขาดประสิทธิภาพ
2) ปัญหาเกี่ยวกับงบประมาณโดยเฉพาะการวางระบบติดตั้งอุปกรณ์เครื่องมือคอมพิวเตอร์ที่จำเป็นต้องนำมาใช้ในการรายงานธุรกรรมและการตรวจวิเคราะห์ธุรกรรมซึ่งจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก งบประมาณที่ได้รับจัดสรรประจำปี 2543 และ 2544 ไม่สามารถนำมาใช้สนับสนุนในการดำเนินการด้านนี้ได้ สำนักงาน ปปง. จึงจัดทำโครงการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์เป็นเงิน 180,930,660 ล้านบาท เป็นโครงการผูกพันงบประมาณ 3 ปี คือ ป 2543 -2545 แต่โครงการดังกล่าวยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณให้
3) ปัญหาเกี่ยวกับความขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัยในการสืบสวนปราบปราม และการรวบรวมพยานหลักฐาน ตลอดจนการดำเนินการอื่น ๆ เช่น ยานพาหนะ กล้องถ่ายรูป วีดีโอ ตลอดจนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
2.2 ปัญหาด้านการป้องกันและปราบปราม
การดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับทรัพย์สินต้องเป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบและต้องใช้เวลาในการดำเนินการมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีพื้นที่เกี่ยวเนื่องกับหน่วยพื้นที่หลายจังหวัด นอกจากนี้สำนักงาน ปปง. ยังไม่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ทะเบียนพาณิชย์ ทะเบียนขนส่ง ทะเบียนการค้า ได้ทำให้การตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ในการดำเนินคดีฐานฟอกเงินเกิดความล่าช้า
2.3 ปัญหาด้านการประชาสัมพันธ์และการฝึกอบรมเผยแพร่ความรู้ในระยะเริ่มแรกนี้ วิทยากรในการฝึกอบรมโดยส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารระดับสูงของสำนักงาน ปปง. ซึ่งโดยปกติก็มีภารกิจในการบริหารงานและการควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของสำนักงานที่มีจำนวนมากอยู่แล้ว ประกอบกับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โดยอาศัยสื่อต่าง ๆ เช่นวิทยุ โทรทัศน์ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงทำให้การดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนยังไม่ทั่วถึง
2.4 ปัญหาด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ
สำนักงาน ปปง. ยังไม่มีเทคโนโลยีช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลหาความสัมพันธ์ของข้อมูล ซึ่งในปัจจุบันการนำข้อมูลธุรกรรมที่ได้รับจากสถาบันการเงินเพื่อมาวิเคราะห์ข้อมูลได้ดำเนินการเฉพาะธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยเท่านั้น ส่วนธุรกรรมปกติยังไม่ได้มีการวิเคราะห์ เนื่องจากจะต้องอาศัยเทคโนโลยีช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล
2.5 ปัญหาด้านการพัฒนาบุคลากร
การพัฒนาบุคลากรจำเป็นจะต้องเร่งดำเนินการไปก่อนการดำเนินการด้านอื่น ๆ แต่สำนักงาน ปปง. ยังไม่สามารถดำเนินการพัฒนาบุคลากรอย่างเต็มที่ได้ เนื่องจากจะต้องเริ่มดำเนินการด้านอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 มิ.ย.44--
-สส-
1. ขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ในการสืบสวนสอบสวนและอุปกรณ์ในการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน
2. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาสนับสนุนงบประมาณและอัตรากำลัง รวมทั้งให้ความสำคัญและร่วมมือกับสำนักงาน ปปง. อย่างจริงจังในด้านการประสานความร่วมมือทั้งข้อมูลข่าวสารและการดำเนินการต่าง ๆ ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรของสำนักงาน ปปง. โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาอบรมเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในต่างประเทศที่มีประสบการณ์ในการดำเนินการในด้านนี้มาก่อน
สำหรับรายงานผลการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินประจำปี 2543 มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. ผลการปฏิบัติงาน
1.1 ด้านการปราบปราม
1) การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน
(1) การยึดและอายัดทรัพย์สิน ได้มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สิน รวม 3 คดี มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 21,131,473 บาท โดยได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินทั้ง 3 คดี ซึ่งขณะนี้ศาลได้มีคำสั่งยึดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราวแล้ว
(2) การบริหารจัดการทรัพย์สิน ได้มีการยกร่างระเบียบสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินว่าด้วยการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัด และได้กำหนดแบบฟอร์มต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการเตรียมการจัดตั้งกองทุนบริหารจัดการทรัพย์สินที่ได้จากการยึดและอายัด และการเตรียมการแต่งตั้งกรรมการประเมินราคาทรัพย์สิน นอกจากนี้ได้ดำเนินการยกร่างแนวทางปฏิบัติในการเก็บรักษาทรัพย์สิน การกำหนดหลักเกณฑ์การให้ผู้มีส่วนได้เสียรับทรัพย์สินไปดูแล เป็นต้น
2) การรับและตอบรับรายงานธุรกรรม
สำนักงาน ปปง. ได้รับรายงานธุรกรรมจากสถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการดำเนินการหรือให้คำแนะนำในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการลงทุนและเคลื่อนย้ายทุนทั้งหมด 112,279 ธุรกรรม
3) การวิเคราะห์ธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย
สำนักงาน ปปง. ได้รับรายงานและข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยซึ่งมีช่องทางการรับรายงานและข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมหลายช่องทาง ได้แก่ การรายงานของผู้มีหน้าที่ต้องรายงานตามกฎหมาย เช่น สถาบันการเงิน สำนักงานที่ดิน เป็นต้น จากประชาชนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านระบบสารสนเทศทางเครือข่ายอินเตอร์เนต หรือทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ และการรับรายงานและข้อมูลจากประชาชนทั่วไปและนิติบุคคลที่ประสงค์จะช่วยเหลือทางราชการ ตลอดจนข้อมูลจากส่วนราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงาน ปปง. จะต้องทำการตรวจสอบวิเคราะห์รายงานต่าง ๆ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์และสามารถรวบรวมเป็นพยานหลักฐาน นำไปสู่การดำเนินคดีตามความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน หรือนำไปสู่การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินได้
1.2 ด้านการป้องกัน
1) งานมาตรการและระเบียบต่าง ๆ
สำนักงาน ปปง. ได้จัดทำกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 รวม 10 ฉบับ ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวม 3 ฉบับ และระเบียบและประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี รวม 6 ฉบับ ซึ่งได้มีผลใช้บังคับเป็นกฎหมายทุกฉบับแล้ว
2) การสนับสนุนและปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานอื่น
สำนักงาน ปปง. ได้ให้ความร่วมมือและปฏิบัติงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมสืบสวนสอบสวนความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ณ สำนักงาน ปปง. และนอกจากนี้ได้ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ต่าง ๆ
3) เสนอมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบเงินตรา
มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อร่วมกันตรวจตราบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่เดิม และเพื่อประชาสัมพันธ์รวมทั้งทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายให้ได้ผล เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเงินตราออกนอกราชอาณาจักร
1.3 ด้านการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือ
สำนักงาน ปปง. มีการดำเนินการเพื่อเป็นการแสวงหาและส่งเสริมความร่วมมือจากประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องโดยการรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่าง ๆ การฝึกอบรมและสนับสนุนหน่วยงานอื่น และการประสานการดำเนินการและความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งได้มีการจัดทำโครงการเพื่อเป็นเจ้าภาพร่วมระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกาในโครงการสัมมนาระดับภูมิภาคด้านการยึดอายัดทรัพย์สินและมาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เตรียมการสมัครเป็นสมาชิกกลุ่มต่อต้านการฟอกเงินเอเชียและแปซิฟิก (APG) ซึ่งจะเป็นการเชื่อมความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและการฝึกอบรมดูงาน นอกจากนี้สำนักงาน ปปง. ยังได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศในด้านต่าง ๆ เช่น ได้รับการสนับสนุนเงินงบประมาณความช่วยเหลือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (NAS) ได้รับเงินช่วยเหลือจากส่วนแบ่งรายได้ที่รัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือในการสืบสวนติดตามริบทรัพย์ที่ได้จากการลักลอบค้ายาเสพติดจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา จำนวน 19,149 เหรียญสหรัฐ
1.4 ด้านการพัฒนาบุคลากร
ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. เข้ารับการอบรมและดูงานด้านต่าง ๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ เช่น การอบรมหลักสูตรการสืบสวนทางการเงินและมาตรการริบทรัพย์ การสัมมนาปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติการสัมมนาแนวทางประสานความร่วมมือตรวจสอบทรัพย์สิน เป็นต้น
1.5 ด้านพัฒนาเทคโนโลยีและสารสนเทศ
สำนักงาน ปปง. ได้จัดตั้งศูนย์สารสนเทศและติดตามประเมินผลทำหน้าที่ในการจัดสร้างระบบสารสนเทศเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นศูนย์กลางให้บริการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ การจัดวางระบบเครื่องมืออุปกรณ์สื่อสารหาข่าว
1.6 ด้านการบริหาร
ดำเนินการบริหารงานทั่วไปของสำนักงานและการบริหารงานบุคคล ตลอดจนการบริหารงบประมาณที่ได้รับจัดสรรให้สามารถดำเนินการตามภารกิจที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติงานประจำปี นอกจากนี้ได้มีการเตรียมการเสนอกรอบนโยบายและมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการจัดทำแผนปฏิบัติงานประจำปี รวมทั้งดำเนินการเกี่ยวกับงานเลขานุการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน คณะกรรมการธุรกรรม และคณะอนุกรรมการ รวมทั้งหมด 10 คณะ
2. ปัญหา อุปสรรค และข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน
2.1 ปัญหาด้านการบริหาร
1) อัตรากำลังไม่เพียงพอ เนื่องจาอข้อจำกัดของอัตรากำลังที่สำนักงาน ก.พ. กำหนดให้ในปัจจุบันเป็นข้าราชการเพียง 64 อัตรา และลูกจ้างชั่วคราว 25 อัตรา ไม่เพียงพอกับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เป็นปัญหาในการปฏิบัติงานของส่วนต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันมีหัวหน้ากลุ่มงานปฏิบัติงานเพียงคนเดียวในหลาย ๆ ลักษณะงานโดยไม่มีส่วนบังคับบัญชาในระดับปฏิบัติช่วยเหลือในการปฏิบัติงาน ทำให้การปฏิบัติงานขาดประสิทธิภาพ
2) ปัญหาเกี่ยวกับงบประมาณโดยเฉพาะการวางระบบติดตั้งอุปกรณ์เครื่องมือคอมพิวเตอร์ที่จำเป็นต้องนำมาใช้ในการรายงานธุรกรรมและการตรวจวิเคราะห์ธุรกรรมซึ่งจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก งบประมาณที่ได้รับจัดสรรประจำปี 2543 และ 2544 ไม่สามารถนำมาใช้สนับสนุนในการดำเนินการด้านนี้ได้ สำนักงาน ปปง. จึงจัดทำโครงการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์เป็นเงิน 180,930,660 ล้านบาท เป็นโครงการผูกพันงบประมาณ 3 ปี คือ ป 2543 -2545 แต่โครงการดังกล่าวยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณให้
3) ปัญหาเกี่ยวกับความขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัยในการสืบสวนปราบปราม และการรวบรวมพยานหลักฐาน ตลอดจนการดำเนินการอื่น ๆ เช่น ยานพาหนะ กล้องถ่ายรูป วีดีโอ ตลอดจนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
2.2 ปัญหาด้านการป้องกันและปราบปราม
การดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับทรัพย์สินต้องเป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบและต้องใช้เวลาในการดำเนินการมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีพื้นที่เกี่ยวเนื่องกับหน่วยพื้นที่หลายจังหวัด นอกจากนี้สำนักงาน ปปง. ยังไม่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ทะเบียนพาณิชย์ ทะเบียนขนส่ง ทะเบียนการค้า ได้ทำให้การตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ในการดำเนินคดีฐานฟอกเงินเกิดความล่าช้า
2.3 ปัญหาด้านการประชาสัมพันธ์และการฝึกอบรมเผยแพร่ความรู้ในระยะเริ่มแรกนี้ วิทยากรในการฝึกอบรมโดยส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารระดับสูงของสำนักงาน ปปง. ซึ่งโดยปกติก็มีภารกิจในการบริหารงานและการควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของสำนักงานที่มีจำนวนมากอยู่แล้ว ประกอบกับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โดยอาศัยสื่อต่าง ๆ เช่นวิทยุ โทรทัศน์ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงทำให้การดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนยังไม่ทั่วถึง
2.4 ปัญหาด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ
สำนักงาน ปปง. ยังไม่มีเทคโนโลยีช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลหาความสัมพันธ์ของข้อมูล ซึ่งในปัจจุบันการนำข้อมูลธุรกรรมที่ได้รับจากสถาบันการเงินเพื่อมาวิเคราะห์ข้อมูลได้ดำเนินการเฉพาะธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยเท่านั้น ส่วนธุรกรรมปกติยังไม่ได้มีการวิเคราะห์ เนื่องจากจะต้องอาศัยเทคโนโลยีช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล
2.5 ปัญหาด้านการพัฒนาบุคลากร
การพัฒนาบุคลากรจำเป็นจะต้องเร่งดำเนินการไปก่อนการดำเนินการด้านอื่น ๆ แต่สำนักงาน ปปง. ยังไม่สามารถดำเนินการพัฒนาบุคลากรอย่างเต็มที่ได้ เนื่องจากจะต้องเริ่มดำเนินการด้านอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 มิ.ย.44--
-สส-