ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อรองรับระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์

ข่าวการเมือง Tuesday August 2, 2016 18:05 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อรองรับระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan)

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อรองรับระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป

สาระสำคัญร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อรองรับระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) เป็นการปรับปรุงบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากรใน 4 เรื่อง อันได้แก่ 1. การยื่นแบบแสดงรายการภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ 2. การหักภาษีและนำส่งภาษีทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ 3. การจัดทำและนำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีและใบรับอิเล็กทรอนิกส์ และ 4. การนำส่งข้อมูลธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2558 เพื่อรองรับระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) โดยจะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ National e-Payment ในการอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอน และลดต้นทุนการเสียภาษีของผู้มีหน้าที่เสียภาษี รวมทั้งการพัฒนาระบบการชำระเงินของประเทศไทยให้เป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) อย่างครบวงจร อันเป็นการช่วยยกระดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและส่งเสริมการเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย และช่วยลดต้นทุนการจัดเก็บภาษีและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากร รวมทั้งสนับสนุนให้รัฐบาลมีฐานข้อมูลภาษีที่ครบถ้วนมากขึ้นและสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์เพื่อกำหนดนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 สิงหาคม 2559--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ