ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว

ข่าวการเมือง Tuesday October 4, 2016 19:05 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ปี ค.ศ. 2016-2018

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) เสนอ ดังนี้

1. อนุมัติการจัดทำและลงนามแนวปฏิบัติร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่าง กก. แห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ปี ค.ศ. 2016-2018 และหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงแนวปฏิบัติร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ให้ กก. ดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย

2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้ลงนามในแนวปฏิบัติร่วมฯ (โดยระบุตำแหน่ง)

สาระสำคัญของแนวปฏิบัติร่วมฯ สรุปได้ดังนี้

1. การแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยว ได้แก่

1.1 การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนหนึ่งคณะในวันที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันเพื่อแบ่งปันประสบการณ์การตลาดและการส่งเสริมการท่องเที่ยว การวิจัยและพัฒนาการท่องเที่ยว และธุรกิจนำเที่ยว

1.2 การแลกเปลี่ยนข้อมูลนักท่องเที่ยวระหว่างกันให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เช่น สถิติ เอกสารทางกฎหมายด้านการจัดการท่องเที่ยวและการบริการ รวมทั้งระบบสติปัญญาทางการตลาดท่องเที่ยว

1.3 การแลกเปลี่ยนและแบ่งปันประสบการณ์ด้านบัญชีประชาชาติด้านการท่องเที่ยว (ทีเอสเอ) ข้อตกลงยอมรับร่วมกันในคุณสมบัติของบุคลากรวิชาชีพท่องเที่ยวแห่งอาเซียน (เอ็มอาร์เอ – ทีพี) และการจัดการในภาวะวิกฤต

2. การส่งเสริมการตลาดและการท่องเที่ยว ได้แก่

2.1 การให้ความช่วยเหลือในการโฆษณาและการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านทางโทรทัศน์ เว็บไซต์การท่องเที่ยว นิตยสาร และหนังสือพิมพ์ ฯลฯ

2.2 การช่วยเหลือในการจัดงานแสดงสินค้าในเมืองหลักและเมืองรองของแต่ละประเทศ

2.3 การแจ้งเรื่องการจัดงานท่องเที่ยวที่มีขึ้นในประเทศของตนให้อีกฝ่ายทราบและสร้างความน่าสนใจเพื่อดึงดูดให้ประเทศที่สามเข้าร่วม รวมทั้งการสนับสนุนให้ธุรกิจท่องเที่ยวเข้าร่วมในงานการท่องเที่ยวที่จัดขึ้น

2.4 การนำเสนอกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกับธุรกิจตัวแทนท่องเที่ยว ธุรกิจผลิตรายการนำเที่ยวและสื่อของอีกฝ่ายเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับสินค้าท่องเที่ยวและนำมาเสนอเป็นหัวข้อข่าว ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ และ โปรแกรมท่องเที่ยว

3. การฝึกอบรมและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ได้แก่

3.1 การช่วยเหลือในด้านการฝึกอบรมการท่องเที่ยวและข้อมูลสารสนเทศ

3.2 การช่วยเหลือในเรื่องทุนการศึกษาสำหรับเจ้าหน้าที่และนักเรียนการท่องเที่ยว

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 ตุลาคม 2559--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ