องค์กรร่วมไทย–มาเลเซียขอเสนอการให้คำรับรองการมีผลบังคับใช้ต่อไปของบันทึกความเข้าใจราชอาณาจักรไทยและมาเลเซีย

ข่าวการเมือง Tuesday April 11, 2017 18:15 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง องค์กรร่วมไทย–มาเลเซียขอเสนอการให้คำรับรองการมีผลบังคับใช้ต่อไปของบันทึกความเข้าใจราชอาณาจักรไทยและมาเลเซีย เกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรร่วมเพื่อแสวงประโยชน์จากทรัพยากรระหว่างในพื้นดินใต้ทะเลในบริเวณที่กำหนดของไหล่ทวีปของประเทศทั้งสองในอ่าวไทย (MOU 1979) ตามข้อ 6 (2)

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการยืนยันการมีผลบังคับใช้ต่อไปของบันทึกความเข้าใจระหว่างราชอาณาจักรไทยและมาเลเซีย ฉบับลงนามวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 (1979) ที่เชียงใหม่ เกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรร่วมเพื่อแสวงประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นดินใต้ทะเลในบริเวณที่กำหนดของไหล่ทวีปของประเทศทั้งสองในอ่าวไทย (MOU 1979) ตามข้อ 6 (2) ของ MOU 1979 นั้น และองค์กรร่วมไทย–มาเลเซีย ก็จะยังมีผลต่อไป ตราบเท่าที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลมาเลเซียยังไม่สามารถหาข้อยุติในการกำหนดเขตไหล่ทวีประหว่างกันได้ ตามข้อ 6 (2) ประกอบข้อ 3 (1) ของ MOU 1979 ตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ

สาระสำคัญของ MOU 1979 มีดังนี้

1. ข้อ 3 (1) กำหนดให้จัดตั้งองค์กรร่วมซึ่งจะมีชื่อว่า องค์กรร่วมมาเลเซีย- ไทย (Malaysia – Thailand Joint Authority : MTJA) เพื่อวัตถุประสงค์ในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในพื้นดินใต้ทะเลและใต้ดินที่ไม่มีชีวิตในบริเวณเหลื่อมล้ำกัน ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย – มาเลเซีย (Joint Development Area : JDA) เป็นเวลาห้าสิบปีนับจากวันที่บันทึกฉบับนี้มีผลบังคับใช้

2. ข้อ 3 (2) กำหนดให้ MTJA จะรวมสิทธิและความรับผิดชอบแทนคู่ภาคีทั้งสองในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ JDA เพื่อการพัฒนา การควบคุมและการบริการ พื้นที่พัฒนาร่วมกันด้วย

3. ข้อ 4 กำหนดให้ MTJA จะใช้อำนาจทั้งปวงแทนคู่ภาคีเท่าที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการสำรวจและการแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่มีชีวิตในพื้นดินใต้ทะเลและใต้ดินในพื้นที่ JDA

4. ข้อ 5 กำหนดให้ค่าใช้จ่ายทั้งปวงที่เกิดขึ้นและผลประโยชน์ให้ MTJA ได้รับจากกิจกรรมที่ดำเนินไปในพื้นที่ JDA คู่ภาคีจะร่วมรับผิดชอบและแบ่งปันโดยเท่าเทียมกัน

5. ข้อ 6 (1) กำหนดให้ถ้าภาคีทั้งสองสามารถหาข้อยุติสำหรับปัญหาการแบ่งเขตไหล่ทวีปได้ก่อนกำหนดเวลาห้าสิบปีดังกล่าวให้เลิก MTJA และบรรดาทรัพย์สินที่ได้จัดการและความรับผิดชอบต่าง ๆ ที่ MTJAก่อขึ้น ให้คู่ภาคีรับผิดชอบเท่า ๆ กัน อย่างไรก็ดีถ้าคู่ภาคีทั้งสองตกลงก็อาจพิจารณาทำข้อตกลงใหม่ได้

6. ข้อ 6 (2) กำหนดให้ถ้าไม่สามารถหาข้อยุติอันเป็นที่พอใจสำหรับปัญหาการแบ่งเขตไหล่ทวีปได้ภายในระยะเวลาห้าสิบปีดังกล่าว ให้ใช้ข้อตกลงที่มีอยู่ต่อไปหลังจากที่พ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ดังนั้น เมื่อ MOU 1979 มีผลบังคับใช้ครบ 50 ปี แล้ว MOU 1979 ก็จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป ตามข้อ 6 (2) ของ MOU 1979 และองค์กรร่วมฯ ก็จะยังมีผลต่อไปตราบเท่าที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลมาเลเซียยังไม่สามารถหาข้อยุติในการกำหนดเขตไหล่ทวีประหว่างกันได้ ตามข้อ 6 (2) ประกอบข้อ 3 (1) ของ MOU 1979

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 เมษายน 2560--


แท็ก มาเลเซีย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ